รอง หน.ปชป.ซัด รบ.ปล่อยใต้ไฟดับ ชี้ รมว.พลังงาน ไร้แผนป้องกัน ทำผู้ป่วยเสี่ยงเสียชีวิต กระทบนักท่องเที่ยว ลามถึงภาพลักษณ์ชาติ ปชช.รู้สึกไม่ปลอดภัย ย้อนเคยจ้อไร้ภาวะผู้นำ “ต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน ไฟดับรับผิดชอบกันเอง” รับเกิดมาเพิ่งเจอ รมต.ปากแบบนี้ แนะเตรียมความพร้อมพลังงานใหม่ ถก ปชช.เรื่องไฟฟ้าถ่านหิน มีแผนรับเหตุ ติง กฟผ.-รบ.จ้อคนละทาง ทำสับสน จี้ ป้องกันหลังโจรใต้รู้จุดอ่อนความมั่นคง
วันนี้ (22 พ.ค.) นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุไฟฟ้าดับ 14 จังหวัดภาคใต้ว่า สะท้อนถึงการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ที่ไม่วางแผนเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน ส่งผลให้เกิดความเสียหายมากมาย คือเช่น โรงพยาบาลที่ต้องบริการผู้ป่วย ซึ่งหากไม่มีเครื่องสำรองก็จะส่งผลถึงชีวิตของประชาชน การท่องเที่ยวมีปัญหา นักท่องเที่ยวเกิดความโกลาหล กระทบภาพลักษณ์ประเทศ ว่าไม่มีความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรมต้องหยุดการผลิต และความมั่นคง ความปลอดภัย แม้จะไม่เกิดอะไรขึ้นแต่ก็กระทบถึงจิตใจของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดความหวาดกลัวว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย
นายถาวร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายพงษ์ศักดิ์เคยพูดก่อนเกิดเหตุว่ามีการต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ จ.กระบี่ หากเกิดปัญหาไฟฟ้าดับในพื้นที่ภาคใต้ต้องรับผิดชอบกันเอาเอง ถือเป็นคำพูดที่ปราศจากความรับผิดชอบต่อประชาชนทั้งประเทศ สะท้อนวุฒิภาวะของคนเป็นรัฐมนตรีว่าแย่มาก
“ผมอายุ 60 กว่า ไม่เคยเห็นรัฐมนตรีคนไหนพูดอย่างนี้ ไม่เคยเห็นไฟฟ้าดับ 14 จังหวัด เป็นความล้มเหลวอย่างมาก จึงขอให้นายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ไปทบทวนเรื่องการเตรียมความพร้อมด้านพลังงานใหม่ โดยต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นจะต้องให้ความมั่นใจว่าจะควบคุมได้ ไม่ให้มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเพื่อเป็นหลักประกันอย่างแท้จริง ที่ผ่านมามีการขุดแก๊ส น้ำมันจากอ่าวไทยไปมาก มีโรงไฟฟ้าใช้แก๊สที่จะนะ ถ้าวางแผนที่โรงไฟฟ้าอีกก็ไม่ควรมาด่าประชาชนว่าไม่ให้ความร่วมมือ” นายถาวร กล่าว
นายถาวร กล่าวว่าในระหว่างที่ยังไม่มีการพัฒนาเพิ่ม ในเรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ รัฐบาลต้องมีแผนความมั่นคงด้านพลังงานล่วงหน้า โดยจะต้องมีหลักประกันและหลักคิดที่ดี เช่น ทางเดินไฟฟ้ามีอยู่จุดเดียว เมื่อเกิดปัญหาไม่มีเส้นทางอื่นเลยจะแก้ไข ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำสองอย่างไร จะหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร ที่สำคัญคือการให้ข่าวของผู้ที่รับผิดชอบทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและฝ่ายการเมืองไม่เหมือนกัน ทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่าเป็นการก่อวินาศกรรมหรือไม่ ดังนั้นเมื่อจุดอ่อนของการดูแลความมั่นคงด้านพลังงานปรากฏให้ผู้ก่อการร้ายทราบแล้ว จึงขอให้รัฐบาลหาทางป้องกันเพราะยุทธศาสตร์ด้านพลังงานที่ฝ่ายตรงข้ามรู้จุดอ่อน อย่าคิดว่าผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้จะไม่มีศักยภาพในการก่อเหตุจากจุดอ่อนด้านความมั่นคงทางพลังงานที่ปรากฏให้เห็นในครั้งนี้