xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” เปิดศูนย์ราชการบึงกาฬ อ้อนคิดถึง ยันรถไฟรางคู่ผ่านแน่-คอหวยจับตาทะเบียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกฯ บินไปบึงกาฬ พร้อมคณะรมต.-ขรก.การเมือง-ผบ.ตร. ร่วมเปิดพิธีวางศิลาฤกษ์ศูนย์ราชการจังหวัด รู้งานจ้อคิดถึงบึงกาฬ ขอบคุณหนุนนั่งนายกฯ ยันรถไฟรางคู่ผ่านชัวร์ เหตุทางผ่านหนองคาย รับ AEC เชิญใช้สิทธิโครงการรัฐ และเตรียมนั่ง ปธ.มอบเงินกองทุนหมู่บ้าน ก่อนมอบนโยบายผู้ว่าฯ หนองคาย คอหวยไม่พลาดตามดูทะเบียนรถนายกฯ

วันนี้ (16 พ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางจากท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 ไปเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ โดยมีนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ และประชาชนจังหวัดบึงกาฬร่วมให้การต้อนรับอย่างหนาแน่น

น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เยี่ยมชมแบบผังรายละเอียด ก่อนร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ ณ บ้านท่าไคร้ ตำบลท่าไคร้ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ โดยมีพระครูสันติปัญญาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายกรัฐมนตรีเป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีประชาชนเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก โดยอาคารศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ แบบจัตุรมุขสูง 4 ชั้น มีเอกลักษณ์และรูปแบบสถาปัตยกรรมไทย อาคารหอประชุม ขนาดความจุ 1,000 คน

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มกับประชาชนมาคอยต้อนรับ ภายหลังร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ ว่า “ไม่ได้มาบึงกาฬเกือบ 2 ปีแล้ว คิดถึงจังเลยค่ะ วันนี้มีโอกาสดีจึงมาขอขอบคุณที่มีส่วนช่วยเลือกนายกรัฐมนตรี” และสำหรับศูนย์ราชการที่กำลังก่อสร้างแห่งนี้ถือว่าเป็นศูนย์แห่งแรก ที่จะเป็นต้นแบบ แห่งอารยะสถาปัตย์ อำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ และคนพิการ ซึ่งจะแล้วเสร็จอีก 2 ปี ซึ่งจะทันต่อการรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะรถไฟรางคู่ที่รัฐบาลจะสร้างไปถึงหนองคายก็ต้องผ่านบึงกาฬ ดังนั้นชาวบึงกาฬจะได้ใช้รถไฟรางคู่แน่นอน นอกจากนี้ ตนขอเชิญชวนชาวบึงกาฬใช้สิทธิ์ในโครงการต่างๆ ทั้งกองทุนบทบาทสตรี กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น พร้อมกันนี้นายกฯ จะเป็นประธานในพิธีกดปุ่มมอบเงินกองทุนหมู่บ้าน ที่ วัดอาฮงศิลาวาส อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ และเยี่ยมชมนิทรรศการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน (ทุนเรียนดีและยากจน) จำนวน 10 ทุนๆ ละ 5,000 บาท ที่โรงเรียนบึงกาฬ

จากนั้นเดินทางต่อมอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารศาลากลาง จังหวัดหนองคาย และ ตรวจเยี่ยมด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ก่อนจะเดินทางกลับ ในช่วงเย็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนบึงกาฬและจังหวัดใกล้เคียงมีความยินดีที่นายกรัฐมนตรีให้เกียรติมาร่วมงานสำคัญของจังหวัดในครั้งนี้ และชาวบ้านจำนวนมากได้จับจ้อง และ ให้ความสนใจกับรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีเป็นพิเศษ โดยนายกรัฐมนตรีใช้รถตู้โฟล์ก สีน้ำตาล เลขทะเบียน อย 2222 กรุงเทพมหานคร ตลอดภารกิจในจังหวัดบึงกาฬ

จากนั้นเวลา 11.00 น. น.ส. ยิ่งลักษณ์ เดินทางต่อไปยังวัดอาฮงศิลาวาส อ.เมือง จ.บึงกาฬ เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “การเพิ่มทุนล้านใหม่ : เพื่ออาชีพ เพื่อรายได้ เพื่อครอบครัวอบอุ่น” เพื่อมอบการเพิ่มทุนให้กองทุนหมู่บ้านฯ ทั่วประเทศ 10,000 แห่ง ตามนโยบายเพิ่มทุนแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ระยะที่ 3 ของรัฐบาล และทันทีเมื่อนายกฯเดินทางถึง ได้เข้ากราบพระประธานในอุโบสถวัดอาฮงศิลาวาส พร้อมกับเป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่า และได้ปล่อยปลาจำนวน 77,777 ตัว ลงแม่น้ำโขงเพื่อความเป็นสิริมงคล

ก่อนเข้าร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ โดย นายทองดี คำตัน พราหมณ์จากจังหวัดอุบลราชธานี แหล่เสียงสำเนียงอีสานว่า“ขอให้นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง มีพลังกาย พลังใจ ทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ สามารถผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้”

โอกาสนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวเปิดงานและทำพิธีการโอนเงิน “การเพิ่มทุนล้านใหม่ : เพื่ออาชีพ เพื่อรายได้ เพื่อครอบครัวอบอุ่น” ตอนหนึ่งว่า กิจกรรมหลักของการเพิ่มทุน 1 ล้านบาท ให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญและต้องการเห็นการพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรมการต่อยอดกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างเป็นลำดับกว่า 11 ปีแล้ว และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น สามารถเป็นแหล่งเงินทุนของประชาชนเพื่อการลงทุนขยายกิจการ ลดหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการเห็นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และการขยายโอกาสให้กับประชาชนทุกคน โดยรัฐบาลขอยืนยันเจตนารมณ์ที่จะให้กองทุนหมู่บ้านเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้เข้มแข็ง

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่อาคารหอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย นายกฯ และคณะรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์เศรษฐกิจชายแดนจังหวัดหนองคาย แผนงาน ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ จากนายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย โดยรายได้หลัก จ.หนองคายมาจากการเกษตรพืชเศรษฐกิจ จากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ปีละประมาณ 2 ล้านคน และรายได้จากสินค้าส่งออก น้ำมันเชื้อเพลิง รถยนต์ คอมพิวเตอร์ ส่วนสินค้านำเข้า ถังเปล่าสำหรับบรรจุแก๊ส ซิลิคัลเมทัล และรถยนต์ ในโอกาสที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดตามแผนพัฒนาจังหวัด ปี พ.ศ.2557-2560 ปรับปรุงภูมิทัศน์บนทางหลวงแผ่นดิน ขยายช่องทางจราจรทางหลวงหมายเลข 211 และ 212 จาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม บรรยายสรุปรถไฟความเร็วสูง

จากนั้นนายกฯ ตรวจเยี่ยมด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ด่านพรมแดนหนองคาย ถ.เฉลิมพระเกียรติ ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย และเดินทางไปท่าอากาศยานอุดรธานี โดยเฮลิคอปเตอร์ ขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศกลับกรุงเทพมหานคร

มีรายงานว่าเมื่อเวลา 18.45น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะได้เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่จ.บึงกาฬ และ จ.หนองคาย โดยปฏิเสธตอบคำถามต่อผู้สื่อข่าวทุกประเด็นทางการเมือง แม้ว่าช่วงเช้าก่อนการเดินทาง รับปากจะให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นภารกิจก็ตาม.

โดยในวันศุกร์ที่ 17 พ.ค นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์และยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) วาระสำคัญ คือ การมอบนโยบายการเร่งรัดแผนงานและงบประมาณการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีกระทรวงมหาดไทย ในฐานะดูแลฝ่ายปกครองเป็นเจ้าภาพการจัดทำแผนงาน โดยจะเน้นย้ำ เรื่องการเสนองบประมาณที่ไม่ซ้ำซ้อนและต้องรับฟังความต้องการจากประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก























กำลังโหลดความคิดเห็น