“อภิสิทธิ์-อลงกรณ์” ขบเหลี่ยม ประชาธิปัตย์ร้าว ปฏิรูปล่ม

รายงานการเมือง

มะรุมมะตุ้มไม่มีทีท่าว่าจะเคลียร์กันลงตัว สำหรับระเบิดลูกใหญ่ที่ลูกหม้อพรรคประชาธิปตย์อย่าง “เดอะจ้อน-อลงกรณ์ พลบุตร” ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงรองหัวหน้าพรรค ออกมาเปิดประเด็นเขย่าต้นสังกัดว่าด้วย “การปฏิรูปพรรค” ผ่านทวิตเตอร์ เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา

เป็นการสะกิดจาก “คนใน” ที่ต้องการให้พรรคการเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่มากว่า 67 ปี ทบทวนตัวเอง และยกเครื่องครั้งใหญ่ หลังต้องจมปลักกับความพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งใหญ่ต่อเนื่องเกิน 20 ปีเข้าให้แล้ว ซึ่งเป็นโจทย์ที่ “ประชาธิปัตย์” ยังแก้ไม่ตก แม้จะปรับเปลี่ยนผู้บริหารมาหลายชุด ทั้งทศวรรษใหม่ หรือผลัดใบ แต่ก็ยังก้าวไม่พ้นความพ่ายแพ้ ซ้ำร้ายยังดูเหมือนจะสาละวันเตี้ยลงไปเรื่อยๆ อีกต่างหาก

แต่การออกโรงของ “อลงกรณ์” กลับไม่เป็นที่ปลาบปลื้มของใต้ชายคาเดียวกัน

เพราะหลายคนไม่แฮปปี้กับการจุดไฟเผาบ้านตัวเองผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้ภาพความขัดแย้งกันเองในพรรคดูจะคุกรุ่นอย่างต่อเนื่อง

อย่างสดๆร้อนๆเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการนำ “พิมพ์เขียว” ปฏิรูปพรรคของ“อลงกรณ์” เข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ก็เล่นซัดกันหน้าดำคร่ำเครียดในที่ประชุมตั้งแต่บ่ายยันเย็น

ว่ากันว่าวันนั้น “เสี่ยจ้อน” ถึงกับเมาหมัด เพราะเจอพรรคพวกรุมกินโต๊ะไปหลายดอก

จากนั้นมีการจัดคิวให้ “มาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค “เสี่ยต่อ-เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เลขาธิการพรรค และ “อลงกรณ์” นั่งเรียงหน้าแถลงข่าวพร้อมกันในวันรุ่งขึ้น

แต่สุดท้าย “เจ้าของไอเดีย” อย่าง “อลงกรณ์” ก็เกิดกลับลำกะทันหัน อ้างว่าติดภารกิจสำคัญทำให้การแถลงข่าวต้องล่มไป ทั้งที่ตระเตรียมนัดนักข่าว รวมทั้งกรรมการบริหารพรรคมาร่วมด้วยหลายคน ทำให้หนีไม่พ้นเสียงซุบซิบว่างานนี้คงมีเกาเหลาชามโต

แถมยังมีหางเลขไปถึงความสัมพันธ์ร้าวระหว่าง “หนุ่มมาร์ค-เสี่ยต่อ” ที่มีประเด็นเรื่องการทำหน้าที่ ผอ.เลือกตั้งซ่อมที่เขตดอนเมืองในการประชุมเดียวกันด้วย ก็ยิ่งทำให้เกิดภาพความขัดแย้งหลักขึ้นไปอีก

และหากว่ากันตามเนื้อผ้าถึง “ข้ออ้าง” ที่ว่าติดภารกิจสำคัญในพื้นที่ แล้วเกิดเบี้ยวไม่มาร่วมแถลงข่าวของ “อลงกรณ์” ในเรื่องที่ตัวเองเป็นตัวตั้งตัวตีนั้น

ฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้น!!!

แถมยังมี “มือดี” ไปซอกแซกหาข่าวมาอีกว่า “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจอย่างแรงกับการเคลื่อนไหวของ “อลงกรณ์” เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยปรามไปแล้วว่า มีอะไรให้มาคุยกันเป็นการภายใน และเห็นว่า “พิมพ์เขียวฉบับเดอะจ้อน” เดินตามรอยประชานิยมของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งขัดกับอุดมการณ์ของ “ประชาธิปัตย์”

เจอข่าวว่า “รุ่นใหญ่” ไม่ปลื้มแบบนี้ ทำเอา “เสี่ยจ้อน” กุลีกุจอโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์อีกครั้งในหัวข้อ “พิมพ์เขียวปฏิรูป” แบบชุดใหญ่ถึง 56 ทวิต โดยออกตัวจั่วหัวว่า เรื่องที่ “นายหัวชวน” โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงนั้นบิดเบือน และต้องการดิสเครดิตตัวเอง

แถมเหน็บไว้ลอยๆ ว่า “...จงใจพูดโกหกขาวเป็นดำเช่นนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย” ก่อนจะร่ายยาวรีรันถึงเนื้อหา “พิมพ์เขียวปฏิรูป” ที่มีอยู่ 36 หน้า

การออกมาชี้แจงของ “เดอะจ้อน” รอบใหม่นี้แสดงว่าเจ้าตัวรู้ดีถึงกระบวนการ “เจาะยาง” จากคนกันเอง และชี้ให้เห็นว่าคนในพรรคไม่เห็นด้วย “แนวทางปฏิรูป” ที่ว่ามาทั้งหมด

เพราะในความเป็นจริงตัว “เดอะจ้อน” ได้เสนอ “พิมพ์เขียว” ปฏิรูปพรรคไปครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ จนเจ้าตัวอึดอัดมาระบายลงทวิตเตอร์เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต

ที่สำคัญไม่ใช่แค่พรรคเมินเฉยกับข้อเสนอเท่านั้น ยังงัด “วิชามาร” มาเล่นงานคนกันเองกล่าวหา “อลงกรณ์” เลยเถิดไปว่าคิด “กบฏ” ต่อพรรคต้นสังกัดอีกต่างหาก

ทำให้ทุกวันนี้ “อลงกรณ์” กลายเป็นตัวประหลาดในพรรค

และที่ว่ามีไม่ต่ำกว่า 20 ส.ส.ในนาม “กลุ่ม ส.ส.ปฏิรูป” สนับสนุนแนวคิดของ “อลงกรณ์” นั้น หากไปไล่ถามก็มีแต่คนส่ายหัวไม่รู้เรื่องด้วย ส่วนใหญ่ยอมรับแค่ว่าไปกินข้าวด้วยกัน แต่ไม่ได้รวมกลุ่มอะไรอย่างที่ว่า จะเห็นก็แต่ “นคร มาฉิม” ส.ส.พิษณุโลก เพียงคนเดียวที่ออกหน้ามายืนเคียงข้าง “อลงกรณ์” ในเรื่องนี้

น่าแปลกใจไม่น้อย ทั้งที่ข้อเสนอปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงขานรับเห็นดีเห็นงามจาก“คนนอก” แต่ในพรรค “อลงกรณ์” กลับตกอยู่ในสภาพโดดเดี่ยวอย่างไม่น่าเชื่อ

ไล่เรียงดูแล้วก็ฟันธงไปก่อนได้เลยว่า การปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ที่ “อลงกรณ์” เสนอคงไม่เกิดขึ้นง่ายๆแน่

ไม่รู้ว่าสาเหตุที่คนในพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นดีเห็นงามด้วย เป็นเพราะแนวทางปฏิรูปไปขัดอุดมการณ์พรรคเก่าแก่อย่างที่ว่ากัน หรืออ่านเกมกันออกมาว่า งานนี้ “เดอะจ้อน” เดินแผนลึกไปถึงการสังคายนาพรรคครั้งใหญ่กันแน่

เพราะหากพรรคยอมเดินตาม “พิมพ์เขียว” มีการปฏิรูปพรรคเกิดขึ้นจริง ก็เป็นโอกาสที่ดีในการ “ผลัดใบ” อีกครั้ง ซึ่งคงต้องหมายรวมไปถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของ “อภิสิทธิ์” ที่วันนี้ มี “ผู้ท้าชิงเบอร์ 1” ที่ชื่อ “สุรินทร์ พิศสุวรรณ” อดีตเลขาธิการอาเซียน ที่เพิ่งกลับมามีบทบาทในพรรค

รวมไปถึงตำแหน่ง “เลขาธิการพรรค” ที่ “เสี่ยจ้อน” ก็จ้องตาเป็นมันเหมือนกัน