“เด็จพี่” ตอก “สุริยะใส” จอมเสี้ยม กุข่าวปลด ผบ.ทบ. โยงนักเรียนนอกผุดนักรบไซเบอร์ ค่อยรับลูก ซัดหนักแผ่นดิน ชง “เป็ดเหลิม” จัดการ เผย 14 พ.ค. ประชุมพรรค เตรียมถกส่ง ส.ส.ลงพื้นที่พบ ปชช. วางแผนปราศรัยแจงกู้ 2 ล้านล้าน จัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ย้อนเวทีผ่าความจริง ปชป. พร้อมหาตัวผู้สมัคร ส.ส.แทน “จอมถีบ” คาดรู้ผลทันที คาดพรุ่งนี้มีข่าวดีเรื่องค่าเงินบาท
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่มีกระแสข่าวปล่อยทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก สื่อดาวเทียม รวมถึงนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มการเมืองสีเขียว ระบุว่ารัฐบาลจะมีการปลด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า เรื่องนี้ตนมองว่านายสุริยะใสทำตัวเป็นจอมเสี้ยม วันๆ ไม่ทำอะไร สอดคล้องกับสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีลักษณะกลุ่มการเมืองนักเรียนนอกลงทุนหลายล้านบาทสร้างแฮกเกอร์หรือนักรบไซเบอร์ 30-40 คน โพสต์ข้อความลักษณะแบบนี้ ทั้งนี้ตนได้ทำรายละเอียดส่งให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ไปตรวจสอบ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นการปล่อยข่าว โดยเฉพาะข่าวปลด ผบ.ทบ. โดยที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลนำไปขยายผลทั้งที่เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
“วันนี้รัฐบาล พรรคเพื่อไทย และทุกภาคส่วนสามารถทำงานร่วมกับ ผบ.ทบ.ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ ผบ.ทบ.กับกองทัพทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนและประเทศชาติ วันนี้ประสานงานได้เป็นไปด้วยดี แต่กลับมีข่าวในลักษณะที่พยายามเสี้ยมเพื่อนำประเทศไปสู่ความขัดแย้ง รวมถึงสร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชน พ่อค้า นักลงทุน นักท่องเที่ยว สร้างภาพลักษณ์ที่เสียหายให้กับประเทศนี่คือพวกไม่หวังดี คือพวกหนักแผ่นดินที่ปล่อยข่าว” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมหารือเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง คือ เรื่องแรกในสมัยปิดประชุมสภาฯ ทางพรรคได้สั่งให้ ส.ส.ของพรรคลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน ความเดือดร้อนของประชาชน การประสานโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการในช่วง 2 ปี และรับฟังนโยบายที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนไปแล้ว ซึ่งเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงว่ามีผลในทางปฏิบัติและมีข้อบกพร่องที่จะต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง รวมถึงเรื่องที่สอง คือ เรื่องที่พรรคได้จัดเวทีปราศรัย “เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย 2020” ที่พรรคได้ให้ ส.ส.และสมาชิกพรรคลงพื้นที่ในกลุ่มจังหวัดที่มีการปราศรัยพบว่าประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี รวมทั้งให้กำลังใจพรรคและรัฐบาล โดยเฉพาะการชี้แจงเรื่อง พ.ร.ก.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่ประชาชนเข้าใจว่าการกู้เงินเป็นประโยชน์ในการสร้างอนาคตประเทศไทย การปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับ รวมถึงโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทด้วยที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่น และจะเดินหน้าเปิดเวทีปราศรัยต่อไปในอีกหลายพื้นที่ ซึ่งทุกเวทีจะเน้นนำความจริงและจะไปลงพื้นที่ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดเวทีผ่าความจริงจนเกิดปัญหาหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.พะเยา ที่มีการกล่าวหาโจมตีรัฐบาลและตัวบุคคล ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความเห็นขัดแย้ง ทางพรรคเพื่อไทยก็จะเดินหน้าไปจัดเวทีปราศรัย “เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย 2020” ให้เห็นความต่างในสิ่งที่ฝ่ายค้านจัดเวทีนั้นเป็นการเล่นการเมือง เพื่อดิสเครดิตรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย
“ทั้งนี้เราก็จะได้ชี้แจงว่าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี รัฐบาล และพรรคเพื่อไทยถูกโจมตีทางโซเชี่ยลมีเดียมากมาย โดยเฉพาะแฮกเกอร์ที่ไปโพสต์ข้อความในเว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรีจนปรากฏเป็นข่าวนั้นไม่ได้ทำให้นายกรัฐมนตรี รัฐบาลและพรรคเสียสมาธิ รวมทั้งจากผลการสำรวจของประชาชนเห็นว่านายกรัฐมนตรี รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ก็ยังเดินหน้าและได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน ที่สำคัญนายกรัฐมนตรียังไม่ท้อแท้และจะทำหน้าที่ต่อไป ไม่มีการยุบสภาหรือปรับ ครม.อย่างที่เป็นข่าว” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในวันที่ 14 พ.ค.จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือเรื่องตัวบุคคลที่จะเป็นตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตดอนเมือง แทนนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตดอนเมือง ที่ขณะนี้ทางพรรคมีความคืบหน้าและได้ประสานกับประธานและคณะกรรมการกลุ่มโซนตะวันออกของ กทม. โดยเฉพาะ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในฐานะประธานโซน 2 กทม. ฝั่งตะวันออก และคณะกรรมการต่างๆ ที่ยืนยันว่าส่งรายชื่อบุคคลให้พรรคพิจารณาได้ทันในวันที่ 14 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัครนั้นจะต้องเป็นที่รู้จักของประชาชน เพราะมีระยะเวลาหาเสียงการเลือกตั้งที่สั้น โดยเฉพาะต้องมีประสบการณ์ทางการเมืองและสามารถประสานงานร่วมกับ ส.ก.และส.ข.ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมี 3 บุคคลที่ทางคณะกรรมการเห็นว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสม คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และนางพิมพ์ชนา โหสกุล ส.ก.ดอนเมือง ภรรยานายการุณ ทั้งนี้หากทั้ง 3 คนปฏิเสธทางคณะกรรมการกลุ่มโซนตะวันออกของกทม. จะส่งชื่อผู้ที่เหมาะสมที่มีคุณสมบัติให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา โดยที่ในวันที่ 14 พ.ค.นี้น่าจะได้ชื่อตัวแทนของพรรคในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังจะเชิญผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) หารือร่วมกันในวันที่ 13 พ.ค.นี้ว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีที่ภาคประชาชนและภาคเอกชนเห็นว่าพูดคุยร่วมกันของนายกิตติรัตน์ ผู้ว่าการธนาคารฯ และ กนง.นั้น จะทำให้สร้างความมั่นใจ สร้างความเข้าใจทางเศรษฐกิจในข้อมูลเดียวกัน ที่สำคัญเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์หากทำความเข้าใจกันได้ โดยเฉพาะเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งตัว ที่ทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลในขณะนี้ ดังนั้นเชื่อว่าในวันที่ 13 พ.ค.นี้ น่าจะมีข่าวดีที่เป็นประโยชน์เรื่องการดูแลค่าเงินบาท
