"สนธิ" แนะกระจายอำนาจสู่โรงเรียนท้องถิ่นให้ชาวบ้านดูแลกันเอง รัฐเพียงแต่ทำหน้าที่วัดมาตรฐาน ส่งครูดีมีคุณภาพลงไป เชื่อแก้ปัญหาได้ดีกว่าการยุบทิ้ง ชี้ซื้อรถตู้รับส่งนักเรียนค่าใช้จ่ายต่างๆจะตามมา ต้องใช้งบจำนวนมากอยู่ดี ซัด "แม้ว" โรคจิต พูดชมศาลเวลาตัดสินให้ชนะแต่พอไม่ถูกใจก็ด่า ลั่นรับไม่ได้ ส.ส. เพื่อไทยยังเทิดทูนคนแบบนี้ ทั้งที่รู้ว่าถ้าปล่อยให้มีส่วนบริหารประเทศจะทำให้ชาติฉิบหาย พร้อมยกคดีอดีต กกต. เป็นอุทธาหรณ์เตือนใจผู้มีอำนาจว่าเวรกรรมมีจริง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง นายสนธิ ลิ้มทองกุล
วันที่ 10 พ.ค. 56 นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ช่วงหนึ่ง ถึงแนวคิดยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ว่า นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่คิดจะยุบโรงเรียนขนาดเล็กด้วยเหมือนกัน อย่างที่บอกพรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์มันมีคู่แฝดคู่หนึ่ง คนนึงชื่อ สวม อีกคนนึงชื่อ ตอ มันผลัดกันเล่นบท สังเกตดูให้ดีๆ ประชาธิปัตย์จะเริ่มเป็นตอก่อนแทบจะทุกเรื่อง ส่วนเพื่อไทยเล่นบทคู่แฝดสวมลงไปบนตอ บัดซบหมดทั้งสองพรรค เชื่อใจไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ครูถูกส่งไปประจำที่ต่างๆ มุ่งมั่นจะต้องปรับวิทยฐานะตัวเอง ทำวิจัยเพื่อให้ตัวเองได้เลื่อนตำแหน่ง จนลืมหน้าที่เบื้องต้นที่สุดที่สำคัญ คือทำอย่างไรจะสอนหนังสือให้ดี เป็นที่ปรึกษาให้เด็ก เป็นที่พึ่งให้ความอบอุ่นให้เด็กได้ ทำอย่างไรจะทำตัวเป็นพ่อแม่ของเด็กแทนพ่อแม่ตัวจริงซึ่งอยู่ที่บ้าน
ทำไมโรงเรียนไม่จับมือกับวัด พัฒนาทุกตำบล ทุกหมู่บ้านมีวัดหมด เอาครู เอาพระไปเป็นครู หรือ เอาครูไปอยู่กับวัด แล้วคนไปทำบุญที่วัด ทอดผ้าป่าการศึกษา แล้วหลวงพ่อเอาเงินกองทุนผ้าป่านี่มาสร้างอาคาร แบบนี้เป็นการกระจายอำนาจที่แท้จริง ถ้ากระจายอำนาจลงไปทุกโรงเรียนแล้ว ไม่ควรที่จะมีโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษา ทุกโรงเรียนที่สังกัดกระทรวงศึกษาที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆต้องโอนให้จังหวัดหมด ให้จังหวัดเขาดูแลเรื่องครูเอง แล้วกระทรวงศึกษาธิการหน้าที่ตรวจสอบมาตรฐานอย่างเดียว เช่น เด็กจบ ป.7 มาตรฐานภาษาอังกฤษต้องแค่นี้ คณิตศาสตร์ต้องแค่นี้ แล้วเอามาตรฐานนี้ไปสอบเทียบ โรงเรียนไหน จังหวัดไหน สอบไม่ได้มาตรฐานก็ต้องไม่ให้ผ่าน
แล้วคนในจังหวัดก็จะร่วมลงขันกัน ตำบลไหนหมู่บ้านไหน มีโรงเรียนเล็กๆ งบประมาณมีน้อย อย่างน้อยที่สุดชาวบ้านรู้ว่าเป็นโรงเรียนของเขา ในเมื่อ อบจ. ต้องการเสียงชาวบ้านก็ต้องหาทางที่จะปันส่วนลงไปให้กับทางด้านหมู่บ้านนั้น หมู่บ้านนั้นก็สามารถไประดมทุนทอดผ้าป่าการศึกษา
แล้วงบประมาณจากกระทรวงศึกษาฯที่ลงไปต้องโปร่งใส กระทรวงศึกษามีหน้าที่จัดสรรงบประมาณ เวลาที่โรงเรียนเสนอขอสร้างอาคารมา แต่ต้องอนุมัติบนพื้นฐานของสเปกที่เหมือนกัน
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ปัญหาชาติบ้านเมืองคือมันไม่ยอมกระจายอำนาจจริง นักการเมืองระดับชาติมันไปเอาความไม่รู้ของท้องถิ่น เอาเสียงเขามา แล้วเข้ามานั่งที่กรุงเทพฯ เพื่อยำงบประมาณในกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นแล้วกระทรวงศึกษาฯ จู่ๆ มีมติยุบโรงเรียน 14,000 โรงเรียน ท้องถิ่นก็ไม่มีสิทธิโวยวาย
แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามกระทรวงศึกษาฯ ไม่มีอำนาจตรงนี้ แต่มีอำนาจแค่วัดมาตรฐาน พัฒนาครู ครูคนไหนที่จะต้องเข้าไปสอนถ้าไม่ผ่านการอบรม สอนไม่ได้ แล้วลักษณะแบบนี้ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย ไม่ทำ เพราะทำแล้วมันไม่มีอำนาจในท้องถิ่น
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวด้วยว่า ยุบโรงเรียนแล้วจะซื้อรถตู้พันคันเพื่อรับส่งนักเรียน ค่าใช้จ่ายต่อคันมันจะตามมา ทั้งค่าซ่อม เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ค่าจ้างคนขับรถ ฯลฯ แล้วใครจ่าย
โรงเรียนที่อยู่ในชนบทห่างไกลความเจริญควรให้เงินเดือนครูสูงกว่าครูที่สอนในกรุงเทพฯ เขาจะได้ไปอยู่กัน แล้วปลูกฝังค่านิยมให้ชาวบ้านรู้จักดูแลครู มีครูเหมือนหมอ ครูที่ดูแลลูกของเขาเวลาไปทำงาน ใครทำสวน ตอนเย็นก็เอาผักผลไม้มาให้ครู ขอแต่ให้ครูที่ไปมีคุณภาพและรับรองว่าเด็กต่างจังหวัดที่ไม่มีโอกาสจะกลายเป็นเด็กที่มีการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยใช้ชุมชนสร้าง
แล้วในหมู่บ้าน โรงเรียนต้องมีจนถึงจบชั้นประถม แล้วก็ในตำบลต้องมีจนถึง ม.3 อำเภอมีถึง ม.6 มันถึงจะเหมาะ แล้วใช้กระบวนทัศน์แบบวิธีคิด วิธีบริหารงานแบบเดียวกัน ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมหมด แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านมีส่วนร่วมไม่ได้ เพราะการตัดสินใจอยู่กับพวกที่อยากได้อำนาจในกระทรวงศึกษาฯ และพวกนักการเมืองที่อยากจะได้ค่าคอมมิชชันจากการสร้างตึก ซื้ออุปกรณ์
นายสนธิ ได้เล่าถึงตำนานโสเภณี ว่า น่าสนใจอย่างหนึ่งคือในอินเดียมันมีเรื่องสมัยกามนิต กับวาสิฏฐี เขาเรียกว่านางนครโสเภณี นางนครโสเภณีก็คือนางงาม หญิงงามเมือง นางนครโสเภณี เป็นเหมือนกับซ่องกะหรี่ เอามาบริการผู้ชาย อยู่ที่กรุงอุชเชนี จากนั้นก็พัฒนาไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมีซ่องอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นสมัยกรีก คือมีนักปรัชญาคนหนึ่งมีความรู้สึกว่าต้องควบคุมไม่ให้ผู้ชายไปมีชู้จึงควรตั้งซ่องขึ้นมา แล้วผู้ชายไปเที่ยวก็จะต้องเอาเงินให้ผู้หญิง แล้วผู้หญิงก็ต้องเอาเงินนั้นมาทำบุญ แล้วก็มาเก็บภาษีด้วย รัฐก็เก็บภาษีจากผู้หญิงคนนั้น นั่นคือที่มาของการทำมาหากิน
ส่วนเมืองไทย คำว่าช็อกการี หรือกะหรี่ มาในสมัยอยุธยา สมัยนั้นจะมีแขกจากอิหร่าน และอินเดีย เขาเรียกผู้หญิงหากินว่า "โฉกาฬี" เมืองไทยก็เลยเปลี่ยนเป็นช็อกการี แล้วก็กลายเป็นกะหรี่ไปในที่สุด
นายสนธิ ยังกล่าวด้วยว่า ที่นี้มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อไซซี เกิดในยุคของจ้านกั๋ว ยุคนั้นมีสองแคว้นคือ อู๋กับเยว่ แคว้นอู๋โจมตีแคว้นเยว่จนแคว้นเยว่พังทลาย เลยจับเจ้าครองแคว้นเยว่ไปเป็นเชลย ทำทุกอย่างจนเจ้าครองแคว้นอู๋เชื่อว่าไม่มีพิษมีภัยแล้ว ก็ส่งเจ้าครองแคว้นเยว่กลับไป เจ้าครองแคว้นเยว่ ไปตั้งตัวที่จะล้างแค้น โดยมี 3 วิธี คือ 1.ฝึกทหาร 2.พัฒนากสิกรรม 3.เขาคัดเลือกผู้หญิงเข้าไปเป็นสายลับ เพื่อเข้าไปทำให้เจ้าครองแคว้นอู๋หลงใหล ในที่สุดก็ไปเจอไซซี ตำนานบอกว่าความงามของไซซีถึงขนาดที่เวลาเธอมองลงในน้ำปลายังต้องว่ายหนี เพราะทนไม่ไหวกับความงาม เลยเอาไซซีมาฝึกรำ วิธีรินเหล้า วิธีเอาใจ วิธีฉอเลาะ ฝึกอยู่ 3 ปี ก็ส่งไซซีเข้าไปถวายเจ้าครองแคว้นอู๋ เจ้าครองแคว้นอู๋ เห็นความงามก็ตะลึงเลย ลุ่มหลงหลงใหล ไซซีเลยทำให้เจ้าครองแคว้นอู๋มัวเมาอยู่ในความงาม จนกระทั่งในที่สุดการบ้านการเมืองไม่สนใจ
ไซซีอยู่กับเจ้าแคว้นอู๋ 12 ปี พอครบ12ปีแคว้นเยว่ ก็เข้มแข็งแล้ว แคว้นอู๋อ่อนแอมาก เจ้าแคว้นเยว่ ก็ยกทัพมาล้มล้างแคว้นอู๋หมดเลย เจ้าแคว้นอู๋ฆ่าตัวตายด้วยความช้ำพระทัย หลังจากตายแล้ว ไซซีก็หายไป ไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน
เรื่องไซซีเป็นเรื่องจริง แต่ว่าไซซีขายตัวเอาตัวให้ผู้ชายบำเรอ เพื่อกู้ชาติไม่ได้ขายชาติ ไซซีไม่ได้ไปด่าแคว้นเยว่ให้เจ้าแคว้นอู๋ฟัง นึกดูนะผู้หญิงที่สวยที่สุด ต้องทนทุกข์ทรมาน 12 ปี ร่ายรำระบำเป็นที่รองรับอารมณ์ทางเพศ เอาใจเพียงเพื่อเป้าหมายเดียวที่ตั้งมั่นอยู่ในใจอย่างเดียวเลย คือช่วยชาติตัวเอง
"ถามว่าไซซีเป็นกะหรี่ไหม เป็นหญิงงามเมืองไหม ก็บอกว่าเป็น แต่ว่าไซซีมีเป้าหมายในการเป็นหญิงงามเมือง เหมือนหญิงงามเมืองทั่วไปที่มีเป้าหมายเพื่อมีชีวิตอยู่เอาเงินเอาทองไปให้พ่อแม่ หรือแม้กระทั่งที่ไปนวดกระปู๋ เด็กมหาลัยบางคนที่มีชีวิตอยู่เพื่อมีเงินมีทองไปเรียนหนังสือ ไม่ใช่ผู้หญิงชั่วจบข่าวไหม" นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ กล่าวถึงกรณีศาลเลื่อนพิพากษา 3 อดีต กกต. ว่า เรื่องนี้เป็นบทเรียนให้เห็นว่าเวรกรรมมีจริง และเป็นอนิจจัง คนที่มีอำนาจอยู่ทุกวันนี้น่าเอาเรื่องของอดีต กกต. มาเป็นอุทธาหรณ์ แล้ววันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็กำลังรับกรรมอยู่ การดิ้นรนเพื่อให้ได้กลับไทย จะได้กลับหรือเปล่ายังไม่รู้เลย คนที่พยายามเอาใจ ลึกๆก็ไม่อยากให้กลับ วันนี้สิ่งเดียวที่เขามีคือเงินทอง แต่ว่าเงินทองหาความสุขไม่ได้ แล้วพูดอะไรสะท้อนจิตใต้สำนึกหมดเลย เช่นบอกว่าให้อภัยแต่ไม่ทันขาดคำก็บอกว่าสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น อันนี้สะท้อนจิตที่ไม่ปกติของคน
แล้วก็อยากเตือนสตินักการเมืองที่เป็นใหญ่อยู่ทุกวันนี้ รวมถึงพวกทหารใหญ่ที่โกงชาติบ้านเมือง ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง คอร์รัปชันจนสามารถซื้อบ้านเมืองนอกไว้หลายหลัง ต้องระวังตัวเพราะเวรกรรมมันมีจริง หลายคนบอกว่าคนทำชั่วได้ดีมีเยอะแยะ มองในหลักพุทธ มันยังไม่ถึงเวลารับกรรม บุญเขายังมีอยู่ แต่วันนึงบุญก็ต้องหมด
จากนั้นทางรายการได้เปิดคลิปวีดีโอแสดงให้เห็นคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่พูดชมศาลเวลาที่ตัดสินให้ตัวเองชนะและด่าศาลเมื่อตัดสินไม่ถูกใจ นายสนธิ กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า ตนว่าเป็นโรคจิต ถ้าคนมีปัญญาและคิดเป็นต้องรู้ว่าคนแบบนี้มามีส่วนร่วมบริหารบ้านเมือง มีแต่ทำชาติฉิบหาย เพราะโกหกแบบว่าเหี้ยได้ใจ แต่นี่หลายคนยังไปเทิดทูนอีก ตนถึงรับไม่ได้เลยที่ ส.ส. เพื่อไทยหลายคนที่เหมือนจะมีปัญญากลับเทิดทูนคนแบบนี้ ถึงบอกว่าเมืองไทยถึงคราวล่มสลายจริงๆ
แล้วไม่เพียงแต่เฉพาะเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ก็เป็นเช่นกัน นักการเมืองไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม สันดานเหมือนกันหมด วันนี้พิสูจน์ชัดว่าพรรคเพื่อไทย และ ประชาธิปัตย์ ทำอะไรต้องไม่ผิด โกหกหน้าด้านๆเหมือนกันหมด เพราะคนพวกนี้ยึดติดกับระบบที่คิดว่าเมื่อประชาชนเลือกมาแล้วมีสิทธิทำอะไรก็ได้ แล้วคิดว่าตัวเองจะมีอำนาจต่อ เลยทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง
คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 10 พ.ค. 2556
รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2556 เวลา 20.00-22.40 น.ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และ น.ส.กมลพร วรกุล ร่วมดำเนินรายการ
จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะ ต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิค่ะ วันนี้น้องเก๋ กมลพร มานั่งเป็นแขกรับเชิญ
กมลพร - สรุปเป็นแขกรับเชิญ?
จินดารัตน์ - ใช่ เจ้าของรายการอยู่นี่ไง ก็ชื่อรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" สวัสดีค่ะคุณสนธิ
สนธิ - สวัสดีครับ
กมลพร - ขออนุญาตเป็นแขกรับเชิญอีก 1 วัน
จินดารัตน์ - ใครนะ ช่างสรรหาร้อยคำสอนของสมเด็จญาณ
สนธิ - เมื่อกี้ผมฟังแล้วซาบซึ้งมาก ผมตั้งใจจะพูด thank you three times .. thank you thank you thank you
จินดารัตน์ - เพราะวันนี้ประเด็นใหญ่ที่เราจะพูดถึง
สนธิ - คือความโง่
จินดารัตน์ - ความโง่ของผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ก่อนที่จะไปถึงผู้หญิงคนนั้น เอาคนนี้ก่อนแล้วกัน
กมลพร - ไม่ใช่คนเดียวกันใช่มั้ยคะ
จินดารัตน์ - ไม่รู้ อันนี้ไม่รู้ เขาทำขึ้นมา เป็นสติกเกอร์ กำลังฮิตเลยนะคะ เอเอสทีวีสุดสัปดาห์ แจกค่ะ สติกเกอร์
สนธิ - แจกหรือขาย
จินดารัตน์ - อันนี้แจกในรายการ ถ้าคนซื้อเอเอสทีวีสุดสัปดาห์ จะได้ 1 แผ่น แต่ถ้าใครไม่ได้ซื้อ มาซื้อได้ที่เอเอสทีวีช็อป แผ่นละ 20 บาท แต่วันนี้รายการใจดี๊ .. ใจดี จะแจกให้สำหรับคนที่แฟนๆ รายการในแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธินะคะ ส่งข้อความเข้ามาน้องแอดมินเขาจะขึ้นและว่า ถ้าอยากได้ส่งมาแล้ววงเล็บว่า สติกเกอร์ อยากได้เราแจก 20 คนเลย 20 แผ่น ส่วน SMS หน้าจอ 10 ท่าน วงเล็บมาสติกเกอร์เหมือนกัน ส่วนผู้ชมทางบ้านที่เขียนจดหมายมา เราให้ 10 ท่านเช่นเดียวกัน ส่งมาที่ 102/1 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม พระนคร กรุงเทพฯ 10200 ให้ 10 ท่านที่เขียนจดหมายมาคุยกัน
สนธิ - ขอที่อยู่อีกที
จินดารัตน์ - ที่อยู่นะคะ 102/1 อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 และวงเล็บรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ
สนธิ - ผมก็เป็นตัวแทนคนที่ได้รับแจก ขอ Thank you Three Times อีกครั้งหนึ่ง Thank you Thank you Thank you
กมลพร - งั้นใครที่อยากได้ในส่วนของเอสเอ็มเอส อย่าลืมส่ง SMS กันเข้ามาได้นะคะ SMS รายการของเราพิมพ์ N1 เว้นวรรค ตามด้วยข้อความ ส่งมาที่ 4850770
จินดารัตน์ - อย่าลืมวงเล็บด้วยว่าสติกเกอร์นะ แล้วเราจะจัดส่งให้
กมลพร - เอาแบบวัยรุ่นไหมพี่ติ๊กเกอร์ แต่ประโยคนี้ไม่สามารถหาได้จากติ๊กเกอร์ ไม่มี หาได้จากเอเอสทีวี เท่านั้น และอีกอันนะที่หาได้จากเอเอสทีวี เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็คือดีวีดี ร้องเล่นเต้นกระโดดในงานคอนเสิร์ตเราที่ผ่านมาตอนนี้เหลือจำนวนไม่มากแล้วจริงๆ นิดเดียว บริจาค 500 บาท ที่ประชาสัมพันธ์บ้านเจ้าพระยาก็สามารถรับไปเป็นที่ระลึกได้ ซื้อไปให้คนอื่นดูก็ได้ หรือสามารถโทรศัพท์มาเพื่อที่มาจะบอกว่าจะบริจาค 500 บาท ส่งไปให้ที่บ้านหน่อยได้ไหม เบอร์โทรศัพท์ฝ่ายพีอาร์ของเราโทรมาตามวันและเวลาในการทำการ สัก 10.00 น.- 17.00 น. น้องพีอาร์ของเราจะอยู่รับสายที่เบอร์ 02-629 2948
จินดารัตน์ - ส่วนพระนะคะ คนที่อยู่ต่างจังหวัดถามไถ่ ส่งหรือยังๆ แพคกันหน้ามืดหัวฟูเลย ก็ทยอยส่ง ตอนนี้ส่งไปได้หลายสิบจังหวัดแล้ว สำหรับทางภาคเหนือ อีสานรอสักครู่ ใจเย็น ตอนนี้กำลังทยอยส่งให้อยู่ แล้วจังหวัดที่เราส่งทางไปรษณีย์จะมีน้องๆ เกือบทุกจังหวัดโทรไปบอก พี่คะจะส่งพระให้พี่แล้วนะ พี่จะรับได้ที่ไหน อย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะไปรับที่เอเอสทีวีช็อปตัวแทน เขาก็จะส่งไปกล่องใหญ่อย่างนี้เลย แล้วพี่ก็เอาใบเสร็จรับเงิน หลักฐานการรับพระไปที่เอเอสทีวีช็อปแต่ละจังหวัดนั้น
กมลพร - ก็จะมีรายการสัก 2 รายการช่วงบ่าย อย่างตีแสกหน้า กับรายการสภากาแฟที่จะบอกว่าอยู่ไหนแล้ว ถึงจังหวัดไหนแล้วก็โทรไปถามเอา
จินดารัตน์ - วันนี้เรามาเริ่มต้นด้วยข่าวดีประจำสัปดาห์ก่อน เขาปิดซอยเลี้ยงกันเลยนะ
กมลพร - มีด้วยเหรอพี่ข่าวดีประจำสัปดาห์
จินดารัตน์ - เก่ง การุณ คนดอนเมืองบ้านที่เขาไม่เอาเสื้อแดงเขาปิดบ้านเลี้ยงฉลอง
กมลพร - กกต.กำลังดำเนินการว่า ตกลงคนจ่ายเงินเลือกตั้งซ่อมคราวนี้ ก็ต้องพี่เขาเหมือนกัน
จินดารัตน์ - ก็ 10 ล้านไง เขาเรียกเก็บแล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องจ่าย 10 ล้าน โดนตัดสิทธิ 5 ปี ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ แล้วก็ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเตรียมจะส่งผู้สมัครลงแทนเก่ง การุณ แล้ว ก็เห็นว่าเป็นศิธา ทิวารี ทีแรกว่าจะเป็นคุณหญิงหน่อย
สนธิ - อ้าว เปลี่ยนแล้วเหรอ
จินดารัตน์ - เปลี่ยนแล้วค่ะ วันนี้ได้ข่าวแว่วๆ มาว่าน่าจะเป็นศิธา ทิวารี
กมลพร - ก็ศิธาเขา ไซส์ สะโพกเล็กกว่า หนังสือพิมพ์วันนี้เขียนว่าถ้าเป็นคุณหญิงหน่อย ต้องเข็นก้นกันมาขึ้นมา
สนธิ - เอ๊ะ ศิธา ... แสดงว่าการเมืองภายในพรรคมีการดิ้นกันพอสมควร เพราะว่าศิธาเขาเป็นประธานบอร์ดการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ระหว่างเป็นประธานบอร์ด กับเป็น ส.ส. ประธานบอร์ดน่าจะดีกว่า หรือ อาจจะมีการวางตัวไว้ล่วงหน้าให้ศิธาเป็นรัฐมนตรี ก็เป็นไปได้ แต่ผมมองว่าเป็นการเอามาลง ส.ส.เพื่อให้ตำแหน่งประธานบอร์ดว่างมากกว่า
จินดารัตน์ - สำหรับใครบางคน
สนธิ - สำหรับใครบางคน ผมไม่รู้ว่าใคร
จินดารัตน์ - ก็เขาบอกว่าคุณหญิงหน่อยอาจจะยังดูท่าทีอยู่ พระ Baby Buddha ยังไม่เสร็จดี โครงการนั้น
กมลพร - รูปหาเสียงก็เป็นรูปนี้ ต้องให้จับได้เบอร์ 1 ด้วยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวสับสน
จินดารัตน์ - เล่นแรงนะเนี่ย นานๆ มาทีเล่นแรง เป็นข่าวดีนะคะ เขาเลี้ยงฉลองกันไปแล้ว 1 ข่าว อีกข่าวหนึ่งเป็นข่าวร้าย เป็นข่าวร้ายสำหรับเด็ก
กมลพร - อ้อ แย่มากๆ ข่าวนี้
จินดารัตน์ - คือแนวนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่ออกมาว่าจะยุบโรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 60 คน ก็จะยุบให้หมดเลย 14,000 กว่าแห่งทั่วประเทศ
กมลพร - เกือบๆ ครึ่งหนึ่ง จนสมาพันธ์ครูต้องออกมาเรียกร้อง หนึ่งในข้อเรียกร้องคือเรื่องของการปรับคุณภาพ ไม่ใช่การยุบโรงเรียน ปรากฏว่า นักข่าวไซเบอร์เขาก็ไปตาม คือคนตอนแรกก็ด่าเพื่อไทยเต็มที่ ทำไมทำอย่างนี้เอาอะไรมาคิด ยุบโรงเรียนยุบพรรคดีกว่าไหม กลายเป็นขุดไปขุดมา คนที่ออกมานำนั้นแหละจ้ะ
จินดารัตน์ - คงได้ดูรายการคุณเติมศักดิ์ไปบ้างแล้ว คนที่คิดนโยบายนี้จริงๆ เขามีกันมาทุกยุคทุกสมัย แต่ชัดเจนมากมีคนมาคล้ายๆ อาศัยช่วงจังหวะโอกาสค่ะคุณสนธิ โจมตีพรรคเพื่อไทยใหญ่เลยว่า เป็นวิธีคิดที่แย่มากที่จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กอ ย่างโน้นอย่างนี้ คุณชินวรณ์ บุณยเกียรติ ใช่ไหม
กมลพร - ใช่
จินดารัตน์ - อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไปๆมาๆ ไปรื้อไปค้นเจอว่า คุณชินวรณ์เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่คิดจะยุบโรงเรียนขนาดเล็กด้วยเหมือนกัน แต่เขาบอกว่า เขาคิดยุบน้อยกว่านะ 7,000 กว่าโรงเอง
กมลพร - ยุบเหมือนกันนะพี่
สนธิ - ก็อย่างที่บอกเก๋ไปเมื่อกี้ ก่อนเข้ารายการ ผมบอกว่าไอ้พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์มันมีคู่แฝดคู่หนึ่ง คนหนึ่งชื่อ สวม อีกคนหนึ่งชื่อ ตอ มันผลัดกันเล่นบท บางบทไอ้แฝดของเพื่อไทย หรือ แฝดประชาธิปัตย์มันเป็นตอ แล้วแฝดเพื่อไทยก็สวม บางบทแฝดประชาธิปัตย์เป็นสวม เพื่อไทยเป็นตอ เหมือนอย่างกรณีของเอ็มโอยู 2543 ประชาธิปัตย์เป็นตอ แล้วเพื่อไทยสวม แต่สังเกตดูให้ดีๆ ส่วนใหญ่ พูดอย่างไม่เข้าข้างใคร ประชาธิปัตย์จะเริ่มเป็นตอก่อน แทบจะทุกเรื่องเลยนะ ไปดูได้เลย ไม่ว่าจะเรื่องของเอ็มโอยู 2543 เรื่องเสียดินแดน เพื่อไทยเล่นบทคู่แฝดสวมลงไปบนตอของไอ้ตัวน้องชาย ไอ้ตัวพี่ชาย เรื่องผู้ก่อการร้ายซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เล่นงานเรา เพื่อไทยก็สวมต่อ โรงพักเห็นไหมเริ่มที่ประชาธิปัตย์ แล้วเพื่อไทยก็สวม
จินดารัตน์ - เรื่องข้าว
สนธิ - เรื่องข้าวอีกเหมือนกันหมดเลยนะครับ โดยบทสรุปคือว่า ไอ้นักการเมืองพวกนี้มันบัดซบหมดทั้ง 2 พรรค เชื่อใจไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
จินดารัตน์ - เราเลยต้องมีสโลแกนใหม่ค่ะคุณสนธิ
สนธิ - ว่า
จินดารัตน์ - ประชาธิปัตย์คิด เพื่อไทยทำ
สนธิ - ถูกต้อง
กมลพร - นี่แย่งธีมคุณทักษิณเลยนะ
จินดารัตน์ - อ้าว ก็มันทุกเรื่องเลยนะ
สนธิ - มันเป็นภาพสะท้อนว่า นักการเมืองเมื่อมองย้อนหลังไปแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ชาติบ้านเมืองเสียหายทุกวันนี้ เกิดขึ้นจากนักการเมืองทั้งนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากใครเลย เพราะว่าไปดูเรื่องราวแต่ละเรื่อง ถ้าให้ไล่ย้อนกลับมา ฝีมือนักการเมืองหมด เหมือนอย่างที่คุณชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คิดที่จะยุบโรงเรียนเล็ก แล้วผมทายไว้เลยว่า ความคิดนี้มาจากใคร แล้วความคิดนี้ พงศ์เทพ เทพกาญจนา ก็คงเห็นแล้วว่าประชาธิปัตย์ทำมาแล้ว ก็เลยคงจะเข้าไปถามต่อว่าไอ้เรื่องนี้ที่มาที่ไปเป็นยังไง คนที่เป็นตัวการจริงๆ ก็คือเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการ
วันนี้ผมจำได้ ตอนเช้าผมนั่งทานกาแฟกับนายดีน นายเพชร สุรวิชช์ ผมบอก เฮ้ย รู้มั้ย สรุปแล้วนะ พี่ดูการเมืองมา พี่ดูชาติบ้านเมืองมา ถ้าบ้านเมืองนี้ต้องการให้เจริญ ต้องยุบอะไรรู้มั้ย 1. กระทรวงเกษตรฯ 2. กระทรวงศึกษาฯ และ 3. กระทรวงสาธารณสุข
สาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขนี่ ตั้งแต่มีกระทรวงสาธารณสุขมา โรคภัยไข้เจ็บมีแต่เพิ่มขึ้น มีแต่คนไปรักษาพยาบาลมากขึ้น แพงขึ้น สุขภาพเลวลง แทนที่จะส่งเสริมให้ประชาชนป้องกันตัวเอง ไม่ กลับไปติดพวกยาฝั่ง ยาต่างชาติ เดี๋ยวนี้นี่ ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ คนที่ขายยา เที่เขาเรียกว่าเป็นตัวแทนยา สมัยก่อนเขาใช้เด็กจบเภสัชฯ ใส่แว่นตา เดินไป อธิบายให้หมอฟัง ว่า นี่นะคะ อย่างโน้นอย่างนี้นะคะ พอมาสมัยนี้จบที่ไหนก็ได้ แอน
จินดารัตน์ - เป็นเซลเลย
สนธิ - ขอให้สวย ขอให้ใจกล้า แล้วก็เดินเข้าไปนี่นะ ไปเลย จะเห็นพวกพริตตี้ยา นั่งเป็นแถวเรียงกันไป หน้าตาเช้งวับหมดเลย แล้วตกเย็นก็ไปกินข้าวเย็นกัน ไปขายยาบนโต๊ะกินข้าวกันสองต่อต่อ แล้วหมอบางคน พวกนี้จะเอายามา ที่ออกมาใหม่ หมอบางคนมีคลินิก เอาไปให้ใช้ฟรีที่คลินิก หมอก็ได้ใช้ยาฟรี เซฟเงิน คิดคนไข้ ในขณะเดียวกันพอกลับมาที่โรงพยาบาล ก็เสนอให้ซื้อยานี้ เข้าใจหรือยัง หลายคนเข้าไปตกลงกันในห้องนอน นี่เรื่องจริงแอน มันเป็นอย่างนี้ไปแล้ว
จินดารัตน์ - ไปทดสอบยากัน
สนธิ - ไปทดสอบยากัน แล้วแทนที่จะยุยงส่งเสริมให้ประชาชนดูแลตัวเองรักษาสุขภาพตัวเอง เพื่อให้ใช้ยาได้น้อยที่สุด แทนที่จะอธิบายโรค เหมือนอย่างเช่น ถ้าเด็กเป็นหวัด พ่อแม่พาเด็กมา แทนที่จะอธิบายให้พ่อแม่ฟังว่าถ้าทนได้กลับบ้าน เอาผ้าเย็นชุบน้ำลูบตัว ไข้จะค่อยๆ ลด ไม่ต้องไปทานยาแก้ไข้ ในขณะเดียวกันถ้ามีขี้มูกไหล ถ้าทนได้ปล่อยให้มันไหลออกให้หมด ให้พิษมันออกให้หมด ไม่จำเป็นต้องกินยา โรคบางโรคไม่ต้องกินยา แต่ไม่ หมอก็จะเอาไปๆ อันนี้เป็นเรื่องจริง อันที่ 2 มันมีบทความอันหนึ่งเพิ่งลง ทางผมเป็นคนแปลเอง ลงทางเพจของเรา เรื่องนม ทุกวันนี้ทั้งครู หมอ สนับสนุนให้กินกันแหลกเลย บังคับให้เด็กกินด้วย แต่วันนี้ที่อเมริกามันกำลังจะเลิกกินนมกันแล้ว เพราะว่านมคือแหล่งรวมของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ทำลายภูมิคุ้มกันอะไรหลายอย่าง วัฒนธรรมการกินนมมันเริ่มจากไหนรู้ไหม เริ่มจากฮอลลีวูด หนังฮอลลีวูดผู้ชายตัวสูง ผู้หญิงนมโต มันก็เลยกินใหญ่ ถ้าอยากให้ลูกตัวสูง อยากให้ผู้หญิงมีหน้าอก ต้องให้กินนมตั้งแต่เด็ก เพราะเห็นได้ชัดว่า พ่อแม่บางคนให้ลูกกินนมต่างน้ำ เป็นลิตรเลย แต่เขาไม่รู้ว่านี้คือการทำลายภูมิคุ้มกันของเด็ก ดอกเตอร์สป็อก เป็นแพทย์อายุรเวท ซึ่งเก่งที่สุด คือ 1 ใน 5 ของโลก แก่แล้ว เคยเขียนหนังสือมาว่าเด็กที่ 2 ขวบ ต้องหย่านมแล้ว ต้องไม่กินแล้ว อย่างที่ผมเคยพูด พ่อแม่เราเล็กๆ ไม่เคยกินนม ผมไม่เคยกินนม กินน้ำข้าว กับกล้วยน้ำว้า โตจนวันนี้จะเข้าโลงผมยังกินกล้วยน้ำว้าอยู่เลย เช้าๆ กิน 2 ลูก บางวันหิวหน่อยกิน 3 ลูก บางวันทั้งวัน ไม่กินอะไรเลย กินกล้วยน้ำว้าอย่างเดียว อเมริกาปัจจุบันเขาเลิกให้เด็กกินนมแล้ว หลายโรงเรียนเขาไม่ให้ขายนมแล้ว ไปดูได้เลย ยอดขายนมอเมริกาตกมากตอนนี้ ตกจนอุตสาหกรรมนมโวยวาย ว่าคนอเมริกันไม่ค่อยกินกันแล้ว เพราะนับวันแพทย์อเมริกันยิ่งวันยิ่งค้นพบอันตรายที่เกิดจากนม ถ้าพูดตามหลักธรรมชาติแล้ว อย่างเพื่อนผม สายัณห์ เล็กอุทัย ที่ตายไปแล้ว ซึ่งชอบในหลักธรรมชาติ ว่าโต มึงรู้ไหม คนนไม่ควรกินนมวัว เขาให้ลูกวัวกิน เขาไม่ได้ให้คนกิน และลูกวัวเขากินนมวัวถึงขณะหนึ่ง มันหยุดกินแล้ว ลูกวัวมันยังหยุดกินนมแม่วัวเลย ทำไมมนุษย์เสือกไปกินนมวัว กินจนแก่ตัวลง ตรงนี้ไง พอกินแล้วมันทำลายภูมิคุ้มกันข้างใน คือบางคนตัวสูงก็มี เหมือนคุณมาลีรีตน์ แก้วก่า แกเชียร์แหลกเลย เริ่มที่ไอ้อาร์ตลูกชายตัวสูง สูงได้นี่ต้องกินนมๆ ครูก็บังคับให้กินนม แต่ที่นักวิทยาศาสตร์ที่อเมริกา สมาคมคหกรรมศาสตร์อเมริกา เขาระบุชัดเจนเลย ว่าไม่ให้กิน โรงเรียนให้หยุดกิน โรงเรียนหลายโรงเรียนในอเมริกาไม่ใช่ไม่ให้ขายนมอย่างเดียวนะ เป๊ปซี่ โคล่า เขาก็ไม่ให้ขายด้วย แต่เมืองไทยยังเหมือนเดิม
จินดารัตน์ - บางโรงเรียนกิน 2 กล่อง 3 กล่อง
สนธิ - ถูกต้อง กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ใส่ใจในสุขภาพของคนอย่างจริงๆ เหมือนกระทรวงศึกษาฯ วันนี้ใส่ใจอย่างเดียวว่าทำยังไงให้ข้าราชการระดับสูงกระทรวงศึกษาฯ มีตำแหน่งที่ได้เป็นอธิบดี เป็นผู้อำนวยการ ครูต่างๆที่ถูกต้องไปประจำที่ต่างๆ มุ่งมั่นจะต้องปรับวิทยฐานะตัวเอง ทำวิจัยให้ตัวเองให้ตัวเองได้เลื่อนตำแหน่ง ลืมหน้าที่เบื้องต้น เบสิกที่สุด ที่สำคัญคือ ทำอย่างไรจะสอนหนังสือให้ดี ทำอย่างไรจะเป็นที่ปรึกษาให้เด็ก ทำอย่างไรจะเป็นที่พึ่งให้ความอบอุ่นให้เด็กได้ ทำอย่างไรจะทำตัวเป็นพ่อแม่ของเด็กแทนพ่อแม่ตัวจริง ซึ่งอยู่ที่บ้านแล้วเด็กมาเรียนหนังสือไม่มีแล้ว
กมลพร - พ่อแม่คนที่ 2 ของเราคือ ครู ไม่มีแล้ว
สนธิ - ไม่มี กระทรวงเกษตรฯ ไม่สนใจอะไรเลย สนใจแต่เอาสารเคมีมาให้ชาวนาใช้สารเคมี เอาฆ่าหญ้าบ้าง เอาเคมีฆ่าหญ้า เคมีฆ่าแมลง แล้วไปแอบจับมือกับบริษัทฝรั่ง แล้วบริษัทคนไทยบางบริษัทเอาพืช GMO เอามาปลูก ทุกวันนี้มะละกอ GMO นะ ข้าวโพด GMO ทั้งๆ ที่เรายังไม่มีกฎหมายอนุญาตให้ใช้พืช GMO แล้วพืช GMO ปลูกนี่หมายความว่า สมมุติปลูกมะละกอเมล็ดมะละกอ GMO ออกเอาเมล็ดไปปลูกต่อไม่ได้นะแอน ต้องไปซื้อเมล็ดเขามา พอหมดล็อตนี้แล้วต้องไปซื้อเมล็ดมาลงใหม่
จินดารัตน์ - เหมือนปลาทับทิมหรอคะ
สนธิ - เหมือนปลาทับทิมเลยแม้แต่นิดเดียว ปลาทับทิมผมเรียกว่า ปลาผีดิบ
จินดารัตน์ - ทำไมละคะ
สนธิ - มันเป็นปลาตัดต่อ GMO ไง อย่าไปกินนะปลาทับทิม ร้อยวันพันปีอย่ากินเด็ดขาด ปลาทับทิม เชื่อผม ผมไม่เคยแตะเลยแม้แต่นิดเดียว น่ากลัวมาก น่ากลัวจริงๆ ปลาทับทิม ก็ไปคิดดูแล้วกัน ใครเป็นคนคิดปลาทับทิม
จินดารัตน์ - ปลาเป็นหมัน
สนธิ - ปลาเป็นหมันนี่เรื่องจริง เพราะฉะนั้นแล้วกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาฯ 3 แห่ง สาธารณสุขทำให้เด็กโตขึ้นเจริญเติบโตเข้มแข็ง เกษตรทำให้ชาวไร่ชาวนาเข้มแข็ง ผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ วันนี้สินค้าเกษตรมีแต่สารพิษเต็มไปหมด กระทรวงเกษตรฯ มีชีวิตอยู่หรอ มีความสุขดี กระทรวงเกษตรฯ บอกไม่ใช่หน้าที่ผม ก็หน้าที่คุณๆ เป็นตัวการ ที่ทำให้ชาวไร่ชาวนาเขาต้องเอาไอ้พวกสารเคมีไปพ่นทุกอย่าง แตงโมห้ามกินเด็ดขาด แตงโมทุกลูกฉีดยาหมด แคนตาลูปทุกลูกฉีดยาหมด ผลไม้อะไรก็ตามที่วางอยู่แล้วมันสวยผิวงามอย่าไปกิน ส้มที่มาฉีดสารเคมี ฟึ้บๆ เต็มไปหมดเลย หาอะไรกินแทบจะไม่ได้ เหลืออยู่บางอย่าง สับปะรดยังพอแหลกได้ นี่เรื่องจริง
นี่ไง เพราะฉะนั้นเกษตรไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง การศึกษาปิดโรงเรียนไม่ได้สนใจอะไรเลย ความรู้เด็กเล็กๆ น้อยๆ สนใจอย่างเดียวต้องการยุบ 14,000 โรงเรียน หรือ 7,000 โรงเรียน ตามคุณชินวรณ์บอกว่า สมัยผมแค่ 7,000 นะ แล้วทำไมมา 14,000 มันก็ยุบเหมือนกัน พวกนี้ไม่มีองค์ความรู้ของตัวเอง ไม่มีตรรกะ ไม่ได้ดูภาพรวมทั้งหมดให้เข้าใจว่า สังคมไทย แทนที่คุณจะยุบ 14,000 โรงเรียน ถ้าคุณคิดให้เป็นสักนิดหนึ่ง คุณบอกว่างบประมาณไม่มี งบประมาณไม่มี
จินดารัตน์ - เรื่องคุณภาพมีปัญหา
สนธิ - ทำไมคุณไม่จับมือกับวัดละ พัฒนาทุกตำบล ทุกหมู่บ้านมีวัดหมด คุณจับมือกับวัด เอาครู เอาพระไปเป็นครู หรือ เอาครูไปอยู่กับวัด แล้วเอาวัด คนไปทำบุญที่วัด ทอดผ้าป่าที่วัดเป็นผ้าป่าการศึกษา หลวงพ่อจะเอาเงินกองทุนผ้าป่านี่มาสร้างอาคาร พัฒนาไปเรื่อยๆ จริงๆ แล้วโรงเรียนมันต้องลงท้องถิ่นหมด ไม่ใช่ไปยุบเขา
จินดารัตน์ - ต้องเป็นการกระจายอำนาจ
สนธิ - กระจายอำนาจที่แท้จริง ผมพูดมาไม่รู้กี่ร้อยครั้งแล้ว ถ้าจังหวัดนี้เขากระจายอำนาจลงไป โรงเรียนทุกโรงเรียน กระทรวงศึกษา ไม่ควรที่จะมีโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษา ทุกโรงเรียนที่สังกัดกระทรวงศึกษาที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ ต้องโอนให้จังหวัดให้หมด งบครูมีเท่าไร ที่เคยจ่ายเป็นเดือน วัสดุ อาคาร โอนให้เขาไปเลย แล้วทุกเดือนงบประมาณมาทุกปี ปีงบประมาณมาก็จัดลงตามจังหวัดไปทันที ให้จังหวัดเขาดูแลเรื่องครูเอง แล้วอะไรจะเกิดขึ้นล่ะเก๋ มาตรฐานกระทรวงศึกษาที่หน้าที่ทำคิวซีอย่างเดียว ว่าถ้ามาตรฐานโรงเรียนที่เด็กจบ ป.7 มาตรฐานภาษาอังกฤษต้องแค่นี้ มาตรฐานคณิตศาสตร์ต้องแค่นี้ มาตรฐานหน้าที่พลเมือง สังคมศาสตร์ต้องแค่นี้ มาตรฐานภาษาไทยต้องแค่นี้ แล้วเอามาตรฐานนี้ไปสอบเทียบ โรงเรียนไหน จังหวัดไหน สอบไม่ได้มาตรฐานก็ต้องไม่ให้ผ่าน ถูกไหม ผมชอบพูดอยู่เรื่อยเลย มาตรฐานภาษาอังกฤษเด็กที่จบ ม.3 ที่อุดรธานี เกิดสู้มาตรฐานของเด็กที่จบ ม.3 ภาษาอังกฤษที่หนองคายไม่ได้ เป็นเรื่องไหม คนอุดรฯ จะรู้สึกอย่างไร ของขึ้นเลย ใครเจ็บตัว นายก อบจ.ไง แล้วจะไปเที่ยวซื้อเสียงเสียงละ 2 พัน 3 พัน เขาขายให้ไหมงวดนี้ เพราะเป็นชีวิตลูกหลานเขา และจังหวัดในจังหวัดเขาก็จะร่วมลงขันกัน ตำบลไหนหมู่บ้านไหน มีโรงเรียนเล็กๆ งบประมาณมีน้อย อย่างน้อยที่สุดชาวบ้านในหมู่บ้านเขา รู้ว่าเป็นโรงเรียนของเขา อบจ.ต้องการเสียงเขาไม่ใช่เหรอก็ต้องหาทางที่จะปันส่วนลงไปให้กับทางด้านหมู่บ้านนั้น หมู่บ้านนั้นก็ไปสามารถระดมทุนทอดผ้าป่าการศึกษาอย่างที่บอกไง ผมยกตัวอย่างอย่างนี้ แล้วงบประมาณลงไปโปร่งใส ส่วนกลางกระทรวงศึกษามีหน้าที่จัดสรรงบประมาณ โรงเรียนแต่ละโรงเรียนเสนอขอสร้างอาคารมา อนุมัติแต่ต้องอนุมัติบนพื้นฐานของสเปกที่เหมือนกัน เก๋ต้องการสร้างอาคารเรียน 4,000 ตารางเมตร 4 ชั้น ชั้นละ 1,000 ตารางเมตร สเปกต้องเหมือนกันหมดนะ ทำไมจะต้องโรงเรียนนี้มีทรงไทย โรงเรียนนั้นจะต้องมีทรงยุโรป เมื่อสเปกเหมือนกันหมดแล้ว ถามว่าถ้าขอนแก่นมันสร้างอาคาร 4,000 ตารางเมตร ในสเปกเดียวกัน ในราคาตารางเมตรละ 6,000 บาท แต่ถ้าหนองคายมันในราคาตารางเมตรละ 20,000 บาท ใครเจ็บตัว
จินดารัตน์ - หนองคาย
สนธิ - หนองคายเจ็บตัวสิ ประชาชนโวยวายแล้วสิ อ้าว ทำไมสร้างแพงกว่า เพราะว่าถ้ามันสร้างแพงกว่า มันจะไปกินเงินงบประมาณของจังหวัดนั้นที่มีให้กับการศึกษา ถูกมั้ย นายก อบจ. เทศบาล มีเรื่องแล้วสิ ต้องอธิบายแล้ว แล้วสร้างๆ อยู่ ขอนแก่นสร้างเสร็จ อยู่กันได้แค่ 1 ปี 2 เดือน หลังคาพัง ฝนตก นักเรียนที่นั่งเรียนอยู่ ตัวเปียกหมด เป็นเรื่องมั้ย นี่ไง ปัญหาชาติบ้านเมืองคือ มันไม่ยอมกระจายอำนาจจริง แล้วถ้าทำอย่างนี้ เสื้อแดง เสื้อเหลือง เสื้อเขียว เสื้อขาว ไม่มีแล้ว เพราะว่าท้องถิ่นมันจะเข้าไปดูแลของมันเอง ทุกวันนี้นักการเมืองระดับชาติมันไปเอาความไม่รู้ของท้องถิ่น เอาเสียงเขามา แล้วเข้ามานั่งที่กรุงเทพฯ เพื่อยำงบประมาณในกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นแล้วกระทรวงศึกษาฯ เป็นยังไง ดูอย่างนี้ จู่ๆ กระทรวงศึกษาฯ มีมติยุบโรงเรียน 14,000 โรงเรียน ท้องถิ่นมีสิทธิโวยวายมั้ย ไม่มี แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามกระทรวงศึกษาฯ ไม่มีอำนาจตรงนี้ แต่มีอำนาจแค่วัดมาตรฐาน พัฒนาครู อบรมครู ครูคนไหนที่จะต้องเข้าไปสอนในโรงเรียนจังหวัดนี้ เป็นครูชั้นนี้ เป็นครูภาษาอังกฤษ ถ้าไม่ผ่านการอบรมด้านปัญหาตรงนี้ สอนไม่ได้ เห็นมั้ยแอน เข้าใจหรือยัง
กมลพร - ครูก็จะไม่ต้องแย่งกันเข้ามากรุงเทพฯ
สนธิ - ไม่ต้อง ปัดโถ ไม่ต้อง แล้วลักษณะแบบนี้นะ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย ไม่ทำหรอก เพราะอะไรรู้มั้ย ทำแล้วมันไม่มีอำนาจ ท้องถิ่นมันมีอำนาจไง นี่ก็คือประชาธิปไตยที่แท้จริง เก๋ ไม่ใช่ประชาธิปไตยจอมปลอมเหมือนกับที่ไอ้พวกเสื้อแดงมาประท้วง ไม่ใช่ ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ประชาธิปไตยพ่อมึง!!
จินดารัตน์ - ก็เขาบอกว่านโยบายยุบโรงเรียนนี่ เป็นโครงการทำมาหารับประทานด้วยค่ะ
สนธิ - อ๋อ แน่นอน
จินดารัตน์ - เพราะคุณพงศ์เทพบอกว่า เอาอย่างนี้ถ้ายุบรวมแล้ว เด็กจะต้องไปเรียนโรงเรียนที่ไกลขึ้น
กมลพร - เดี๋ยวมีรถรับ-ส่ง
จินดารัตน์ - มีรถตู้ รถตู้รับ-ส่ง จะซื้อรถตู้คันละล้านสักพันคัน แล้วมีจ้างคนขับ
กมลพร - แล้วรถตู้มันวิ่งอมก๋อยได้มั้ยเนี่ย
สนธิ - พันคันนี่มันพอเหรอ ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 แล้วมันวิ่งๆ ไปยางแตก ยางไม่แตกใช่มั้ย เครื่องไม่พังใช่มั้ย ไม่จำเป็นต้องล้างเครื่องยนต์ใช่มั้ย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือไง อุบาทว์!! ค่าใช้จ่ายต่อคันเนี่ยมันจะตามมา แล้วไอ้ค่าจ้างคนขับรถ ใครจ่ายล่ะ
จินดารัตน์ - เขาบอกว่า ถ้าทำไม่ได้ก็สัมปทานให้เอกชนไปทำซะ
สนธิ - ก็นี่ไง วิธีการทำมาหากินคือ นักการเมืองคิดแต่เรื่องการทำมาหากิน นักการศึกษาที่อยู่ในส่วนกลางก็คิดแต่ตัวเองจะได้ตำแหน่ง ไอ้คนฉิบหายคือเด็กไง
จินดารัตน์ - ครูเขาก็หมดกำลังใจนะคะ ครูที่เขาอยากอยู่โรงเรียนเล็กๆ แบบนี้ อยู่โรงเรียนห่างไกล อยู่ในชนบท เพื่อที่จะพัฒนาการศึกษาให้เด็กๆ มีไม่กี่คนก็จริง แต่ใจเขาไปมากกว่าร้อยแล้ว
สนธิ - แอน โรงเรียนที่อยู่ในชนบทอยู่แถวอมก๋อย หรืออยู่แถวหมู่บ้าน หรือตำบลที่มันห่างไกลความเจริญ แต่เป็นหมู่บ้านมีประมาณร้อยหลังคาเรือน ให้เงินเดือนเขาสูงกว่าครูที่สอนในกรุงเทพฯ เขาจะไปอยู่กัน ให้ชาวบ้านปลูกฝังค่านิยมให้ชาวบ้านรู้จักดูแลครู ชาวบ้านเขาจะเตรียม เขาจะลงขันสร้างบ้านให้ครูอยู่ อาจจะบ้านเรือนไม้หลังคาซีแพคก็สุดแล้วแต่ มีห้องนอนหนึ่ง แล้วก็มีส้วม ซึ่งก็ส้วมซึมคงไม่ได้แล้ว เพราะเป็นนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาฯ ห้ามใช้ส้วมซึม ต้องใช้ชักโครก เพราะว่าโคตรเหง้าของรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขท่านค้าสุขภัณฑ์ นี่คือเมืองไทยไง แต่ไม่เป็นไร มีครูเหมือนหมอ ครูที่ดีดูแลลูกของเขา เขาไปทำนา ขายแรงงาน เขารู้ว่าลูกของเขาได้รับการดูแลจากครูอย่างดี ใครทำสวน ตอนเย็นก็เอาผักผลไม้มาให้กิน ใครเลี้ยงหมู ฆ่าหมู ก็เอาเนื้อหมูมาให้ ปลูกข้าวก็เอาข้าวมาให้ ชีวิตตรงนี้ขอแต่ได้ให้ครูที่มีคุณภาพไป และรับรองว่า เด็กพวกนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ส่งเสริม หาอุปกรณ์ที่ดีให้เขา ครูมีคุณภาพอยู่แล้ว เด็กต่างจังหวัดที่ไม่มีโอกาสก็จะกลายเป็นเด็กที่มีการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยใช้ชุมชนสร้าง ชุมชนเขาพร้อมจะแข็งแกร่งอยู่แล้ว เราเอาครูดีๆ ไปให้เขา ทำไมมีครูดีๆ เขาจะไม่เก็บไว้ เขาหวงแหนจะตาย เป็นครู
จินดารัตน์ - เมื่อวานมีที่ อบต.จากเลาขวัญ มาออกรายการคนเคาะข่าว และมีคุณลุงอีกคน เขาบอกโรงเรียนนี้พวกเขาสร้างมากับมือนะ ตั้งแต่ปี 18 คือช่วยกันมุงจากมา จะมายุบของเขาได้อย่างไร แล้ววันนี้เขาออกไปทำไร่ทำนาลูกเขาจะต้องออกไปนั่งรถตู้ไปที่ไกลขึ้น เขาก็เอาจิตใจที่ไหน เขาบอกถ้าโรงเรียนอยู่ใกล้บ้านเขาเดินไปส่งได้ คิดถึงลูกอยากเอาอะไรไปให้ลูกกินกลางวันเขาก็ยังเดินไปดูลูกได้ คือเหมือนกับรัฐทำลายเขา ทำลายชุมชนของเขาด้วย
สนธิ - จริงๆ ในหมู่บ้าน โรงเรียนมันต้องมีจนถึงจบชั้นประถม แล้วก็ในตำบล ต้องมีจนถึง ม.3 และอำเภอถึงจะมีถึง ม.6 มันถึงจะเหมาะ ประถมจากหมู่บ้าน เข้ามาที่ตำบล เพราะว่าประมาณ 15 หมู่บ้าน เท่ากับ 1 ตำบล ตำบลมีถึง ม.3 แล้วอำเภออาจจะมีสัก 11 ตำบล 15 ตำบล เท่ากับ 1 อำเภอ อำเภอก็มีให้สมบูรณ์แบบจนถึง ม.ปลาย ใช้กระบวนทัศน์แบบวิธีคิด วิธีบริหารงานแบบเดียวกัน ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมหมด เขามามีส่วนร่วมไม่ได้ เพราะว่าไอ้การตัดสินใจมันอยู่กับไอ้พวกที่อยากได้อำนาจในกระทรวงศึกษาฯ และไอ้นักการเมืองที่อยากจะได้ค่าคอมมิชชันจากการสร้างตึก
กมลพร - ซื้ออุปกรณ์
จินดารัตน์ - เขาบอกเขาเคยขอคือ บางโรงเรียนเคยของบมา เพื่อซื้ออุปกรณ์การศึกษาให้เด็กประมาณ 2 แสนบาท ขอยากขอเย็น กระทรวงบอกว่า ไม่มีงบ แต่จะซื้อรถตู้คันละล้านกว่าบาท
กมลพร - ดูมัน แล้วเวลาจะสร้างอะไรที่มีอยู่ในโรงเรียนในชุมชน ต้องขอจากส่วนกลางนะ และต้องเป็นบริษัทที่ส่วนกลางส่งไปด้วย
สนธิ - ผมถึงบอกไง ผมถึงบอกว่า ไอ้ประชาธิปไตยเสื้อแดงเมื่อไรมันจะหายโง่สักที ไอ้พวกควายแดงพวกนี้
กมลพร - มันก็ไม่ได้มีแต่ควายแดงนะที่โง่ มันก็ไม่ได้มีแค่นั้นนะคะคุณสนธิ
จินดารัตน์ - มีคนถามว่า แล้วทำไมประชาธิปัตย์ถึงกล้าออกมาด่าเขา ปลุกระดมคนว่า ถ้าไม่เห็นด้วยต้องออกมาแสดง
สนธิ - สันดานประชาธิปัตย์ไง ตัวเองทำอะไรไว้ ตัวเองไม่เคยพูดเลยว่า ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะตัวเอง คิดว่าคนลืม แต่เผอิญมันมีเอเอสทีวี
จินดารัตน์ - มีหน้าที่ทำให้จำ
กมลพร - ขอให้จำให้ได้ เดี๋ยวจำไม่ได้จะบอกว่าลืมอะไรไปบ้าง
สนธิ - ผมบอกแล้วตั้งนาน คุณไม่เห็นโฆษณาระยะหลัง เอเอสทีวีหรอ ถ้าคุณยอมรับความจริงไม่ได้อย่ามาดู เอเอสทีวีไม่ได้เป็นกลาง เอเอสทีวีเลือกข้างยืนอยู่บนความถูกต้อง เอเอสทีวีรายงานข่าวตามความเป็นจริงไม่มีโฆษณา เราถึงต้องมาขายเครื่องทำน้ำด่างใช่ไหม นี่ไม่ได้โฆษณาเครื่องทำน้ำด่างมาหลายอาทิตย์แล้วนะ ท่านผู้ชม
กมลพร - แต่ถึงมีโฆษณาเราก็ยังพูดความจริงนะคะ ถ้าเราไปดูในเว็บไซต์เราจะเห็นว่า เราก็มีนะกระทรวงพลังงานที่ออกมาพูดถึงเรื่องพลังงาน เห็นแถบข้างบนไหมคะ แต่เรายังคงพูดอยู่ว่า สิ่งที่กระทรวงพลังงานทำตอนนี้ไม่จริง
สนธิ - คือเราไม่ได้ฝักใฝ่พรรคการเมืองใดทั้งสิ้น และเราก็ไม่ได้ฝักใฝ่ธุรกิจมใดทั้งสิ้น พรรคการเมืองใดถ้าเลวชั่วชาติบัดซบ ระยำ ทำร้ายชาติ ทำร้ายบ้านทำร้ายเมือง ต่อให้มันเป็นพรรคเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย เราก็ต้องพูดถึงมัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคของนายบรรหาร ศิลปอาชา พรรคของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ถ้าทำชั่วขึ้นมาเราพูดหมด และเราก็ไม่เว้นหน้าว่าไปเตี้ย 5 สั้น หรือหล่อลากดินเหมือนกันหมด เข้าใจเปล่า นึกออกไหมเราไม่เว้น
จินดารัตน์ - ทำชั่วเมื่อไรโดน คือที่แอนขำล่าสุดนะคะ คุณสนธิ มีคนเข้าไปโพสต์ให้ดู มันมีหน้าเพจหนึ่งที่เกี่ยวกับพลังงาน การรณรงค์เรื่อง ปตท.อะไรก็แล้วแต่ เขาขึ้นเป็นโลโก้เลยนะคะ ช่อง 3 5 7 9 11 มีช่องโน้นช่องนี้ มีเอเอสทีวีอยู่ในนั้นด้วย แล้วก็เขียนคาดเลยว่า ไอ้พวกสื่อรับเงิน พอโดนเงินกระแทกปากหน่อยก็เงียบ เรื่องพลังงาน หืมม? ขอโทษนะคะไปอยู่รูไหนมา
กมลพร - แปลว่าไม่เคยดูไง
จินดารัตน์ - ได้ข่าวว่าเอเอสทีวีรณรงค์เรื่องพลังงานทุกวัน
สนธิ - ไอ้คนโพสต์มันอยู่รูโฉกาฬีไง
กมลพร - โฉกาฬี คำนี้คุ้นๆ
จินดารัตน์ - เดี๋ยวค่ะ วันนี้จะมีที่มาที่ไป
สนธิ - เดี๋ยวมีที่มาที่ไป โฉกาฬี
จินดารัตน์ - เป็นการเปิดสติกเกอร์เรา จะได้รู้ว่าคำนี้มาจากไหน อย่างไร
กมลพร - ไปรู้มาจากคนอื่นได้ไง เราต้องรู้จากนักประวัติศาสตร์
จินดารัตน์ - ก่อนที่จะไปถึงเรื่องนั้น เรื่องเพื่อนบ้านนิดหนึ่งก่อนเบรคนะคะคุณสนธิ เรื่องการเลือกตั้งมาเลเซีย เห็นว่าครั้งนี้เขาจะไม่ยอมกันจริงๆ พรรคฝ่ายค้าน
สนธิ - มาเลเซียนี่ผมติดตามมานานแล้ว น่าสนใจมาก ผมดูแล้ว การเมืองมาเลเซียคล้ายๆ การเมืองไทย มันมีพรรครัฐบาล พรรคบาริซัน เนชันแนล ก็คืออัมโนเก่า นั่นคือพรรคประเภทรวมหัวมังกุท้ายมังกรมารวมตัวกัน พวกกลุ่มที่รวมตัวกันเป็นพรรคบาริซัน ก็คือบรรดากลุ่มผู้มีอำนาจ อำมาตย์ ศักดินา นายทุน .. นายทุน ขุนศึก ศักดินา มีครบหมด พรรคนี้ครองมาเลเซียมาเป็นเวลานานแล้ว แล้วจุดแตกหัก เริ่มแตกหักสมัยก่อนที่ใช้ชื่ออัมโน แตกหักสมัยไอเอ็มเอฟ แตกหักตรงที่ว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ต่อสู้กับนายนาจิบ นั่นคืออันวาร์ อิบราฮิม
อันวาร์ อิบราฮิม อดีตเป็นรองนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่าโมฮัมหมัด มหาเธร์ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีช่วงนั้น เห็นว่าอันวาร์ อิบราฮิม กำลังจะเป็นดาวรุ่งขึ้นไป และจะแซงตัวเขา ก็เลยกีดกันอันวาร์ อิบราฮิม เผอิญมันมีจุดแตกหักตอนนั้น ถ้าคนยังจำเรื่องไม่ได้ ผมจะเล่าให้ฟัง ช่วงนั้นเผอิญเป็นช่วงของภาวะเศรษฐกิจของเมืองไทยกำลังจะเกิดภาวะต้มยำกุ้ง ปี 2540 อันวาร์ อิบราฮิ่ม ค่อนข้างจะฝรั่งจ๋า ตอนนั้นนะ ก็มีความรู้สึกว่าประเทศมาเลเซียจะปิดประเทศไม่ได้ แต่มหาเธร์ วันนั้นทำถูก มหาเธร์บอกว่าไม่ได้ ต้องปิดมาเลเซีย คือเรียกเงินริงกิตที่อยู่นอกประเทศให้กลับมาให้หมด ประกาศเลยว่า ใครมีเงินริงกิตอยู่นอกประเทศ ให้มาแลกคืนภายในไม่เกิน 7 วัน ถ้าพ้น 7 วันจะไม่รับแลกคืน ก็เท่ากับว่าปิดประเทศ ไม่ยอมให้เงินริงกิตออกไปลอยตัวอยู่นอกประเทศมาเลเซีย อันวาร์ไม่เห็นด้วย ขัดแย้งกันหนักตอนนั้น ก็เลยก่อให้เกิดภาวะการที่ทำให้มหาเธร์ต้องตัดสินใจเด็ดขาดที่ต้องล้มอันวาร์ หลังจากนั้นแล้วอันวาร์เลยต้องลาออกจากรัฐบาล และก็โดนคดี หนึ่งคอร์รัปชั่น สองโซโดมี โซโดมี (Sodomy) ก็คือชอบเข้าข้างหลังผู้ชาย หาเรื่องไง เขาก็โดนจับไป และเขาก็สู้คดีจนในที่สุด ก็หลุดออกมา แต่ช่วงนั้นก็ยาวละ มหาเธร์ตอนช่วงนั้นมาเลเซียก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว มหาเธร์ลงจากเก้าอี้ คนอื่นก็ขึ้นมาแทน ก็ถึงยุคนาจิบ นาจิบเป็นคนที่คล้ายๆ ทักษิณ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีอะไรที่น่าประหลาดใจที่ทักษิณถึงสนิทกับนาจิบ สนิทกันมากเลย เข้าออกคุยกันเป็นว่าเล่น คิดแบบเดียวกัน วางยุทธศาสตร์อันเดียวกัน มาเลเซียทำอย่างนี้ เดียวผมจะสั่งน้องสาวผมทำอย่างนี้นะ มาเลเซียเริ่มจัดประชุมบีอาร์เอ็นกับประเทศไทย ผมจะให้คุณภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช. ซึ่งเป็นคนของผม ผมเสนอไปนั่งเจรจากันนะ เพื่อที่จะยกระดับขึ้นมา นาจิบบอกกูได้หน้า เพราะบีอาร์เอ็นคนมาเลเซีย กลุ่มแยกดินแดน เอาสิ ในขณะเดียวกันคนไทยที่ยืนทางฝ่ายทักษิณก็เห็นว่าดีเหมือนกัน บางคนต้องการแบ่งแยกดินแดนอยู่แล้ว บอกดี ยกมันขึ้นระดับนี้ ให้มาเลเซียเข้ามายุ่ง แล้วเชิญอินโดฯ มา ต่อไปก็เชิญซาอุดีอาระเบียเข้ามา ให้ 3 จังหวัดชายแดนมันต้องหลุดจากประเทศไทยให้ได้ เพื่อที่จะไปเอาขุมพลังงานในทะเล นี่คือความคิดของเขา
ทีนี้อันวาร์ อิบราฮิม เป็นคนปีนัง เคยไปปีนังหรือเปล่า ปีนังเป็นเมืองที่น่าไปมาก ถึงเรียกเกาะหมาก อาหารอร่อยมาก อาหารริมถนน ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่อร่อย ราคาถูกไม่แพง คนไทยชอบไปปีนัง ปีนังสมัยก่อนเป็นศูนย์การศึกษาของพวกลูกอำมาตย์ ลูกศักดินา ศักดินาสมัยก่อนถ้ามีเงินเยอะ นั่งเรือไปเรียนอังกฤษ ถ้าน้อยนั่งเรือไปเรียนเกาะหมาก หรือปีนัง เพราะอังกฤษอยู่ที่นั่น อันวาร์ เลยเสนอเพราะคนจีนเยอะ คนจีนถูกนโยบายมาเลเซียกดขี่มานาน นโยบายมาเลย์ชูคนมาเลย์ใหญ่ คนจีนเปรียบเสมือนประชาชนชั้น 2 แต่จริงๆ แล้วคนมาเลย์โง่ เพราะว่าใหญ่จริงแต่คนสั่งการคือคนจีนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นคนมาเลย์ที่เป็นรัฐมนตรี จะมีที่ปรึกษา มีคนซึ่งวางแผนเป็นคนจีน แล้วเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดของมาเลย์กลายเป็นคนจีน ไม่ใช่คนมาเลย์ เคยได้ชื่อ โรเบิร์ต ก๊วก เจ้าของโรงเรียนแชง-กรีล่า เจ้าของโรงงานน้ำตาล เจ้าของโรงแรมแชงกรีล่าทั่วโลกในประเทศจีน ทั่วเอเชีย และเริ่มขยายไปที่ยุโรป โรเบิร์ต ก๊วก เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ด้วยนะจ๊ะ คุณกมลพรรับทราบไว้ด้วย
เพราะฉะนั้นแล้ว โรเบิร์ต ก๊วก อุปมาอุปไมย โรเบิร์ต ก๊วกก็คล้ายๆ ธนินท์ เจียรวนนท์ หรือ เสี่ยเจริญเหมือนๆ กัน ก๊วกจะอยู่เบื้องหลังนักการเมืองมาเลย์ ก๊วกลูกชายคือใคร ลูกชายก๊อกอดีตแฟนเก่าของเทเรซ่า เต็งไง เติ้ง ลี่จวินไง
จินดารัตน์ - ที่เพิ่งเลิกกัน
สนธิ - ที่เลิกกันนานแล้ว และตอนหลังเติ้ง ลี่จวินอกหัก ก็ไปคบกับหนุ่มฝรั่งเศส และไปเป็นโรคหืดหอบตายที่เชียงใหม่ไง จำได้ยัง เติ้ง ลี่จวินที่ร้องเพลงเทียนมิ่มิ่
จินดารัตน์ - ไม่ใช่กง ลี่นะคะ
สนธิ - ไม่ใช่ เติ้ง ลี่จวิน ไปบอกกง ลี่ได้ไงวะ รู้สึกหลายเรื่องเหมือนกันนะ
กมลพร - ไม่ใช่อันนั้นคนละอันกัน
สนธิ - ทีนี้มาเลเซียตอนหลังคนมาเลเซีย คนจีน มาเลเซียก็เริ่มฮึดสู้ก็ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาหลายอย่าง และช่วงหลังตั้งแต่มหาเธร์ขึ้นมา และอันวาร์ อิบราฮิมออกมา นโยบายของมาเลเซียที่เชิดชูมาเลย์ ให้สิทธิคนมาเลย์เหนือคนจีนในเรื่องการกู้เงิน หรือเรื่องการทำธุรกิจ อะไรหลายอย่าง เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ชัดว่า คนมาเลย์เริ่มขยายตัวออกมามากขึ้น ธนาคาร CIMB เห็นไหมที่อยู่ในเมืองไทยก็เป็นของมาเลย์ ของนักธุรกิจชาวมาเลย์ นักธุรกิจชาวมาเลย์ก็เริ่มแสดงศักยภาพออกมา แต่ว่ายังมีข้อจำกัดยังไม่เก่งเท่าไรนัก จริงๆ แล้วเศรษฐกิจส่วนใหญ่คนจีนจะคุมอยู่ เลยปรากฏอันวาร์เลยได้เสียงคนจีนขึ้นมา แล้วรัฐบาลชุดนายนาจิบ เป็นรัฐบาลที่คอร์รัปชัน ไม่ได้ด้อยกว่ารัฐบาลในเมืองไทยเลย ไม่ว่ายุคไหนก็ตามแม่งโกงกันฉิบหาย ยุคนาจิบพัฒนาเกาะลังกาวี มาให้เป็น offshore banking สำหรับฟอกเงิน ใครมีเงินไปฝากที่เกาะลังกาวี ธนาคารที่นั้นใครจะเข้าไปเช็กว่าใครฝากไม่ให้ ทำเหมือนสิงคโปร์ไม่มีผิดเลย
เพราะฉะนั้นในช่วงที่น้ำมันปาล์มขาดตลาด และนักการเมืองทางใต้ของพรรคบางพรรคนี่รวยจากน้ำมันปาล์มเป็นพันๆ ล้าน เอาเงินสดเงินไทยใส่รถเทรลเลอร์ตีจากใต้เข้ามาเลย์เลย เอาไปฝากที่มาเลย์วันละไม่รู้กี่เที่ยว นี่ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ เพราะฉะนั้นแล้วงานนี้นาจิบ เสียงของรัฐบาลของนายนาจิบตก เมื่อเลือกตั้งครั้งนี้เลยเกิดภาวะการโกงกันอย่างหน้าด้านมหาศาลเลย ที่สำคัญที่สุดก็คือ ผู้สังเกตการณ์อิสระซึ่งมาจากยุโรป ยังยืนยันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ที่มาเลย์โกง แต่เนื่องจากว่า มันเหมือนกันนะ รัฐบาลมาเลย์มันซื้อ กกต. ของมาเลย์ได้เหมือนกับคนไทย ที่เมืองไทยก็ซื้อ กกต.บางคนที่เมืองไทยได้
เพราะฉะนั้นมันเลยออกมาอ้างว่า ไม่มีความผิดจับอะไรไม่ได้ อันวาร์เลยไม่ยอม อันวาร์เลยนัดประชาชนประท้วงคน 5-6 หมื่นคนเลย ประท้วงอยู่ใน เขาก็ยังดีเขาประท้วงอยู่ในสนามกีฬา เขาไม่มีสะพานมัฆวาน แล้วเขาไม่มีเอเอสทีวี และเขาไม่มีพิธีกรอย่างกมลพร หรือ แอน จินดารัตน์ ที่ออกมา ไม่มี เลยเป็นความตึงเครียด ซึ่งผมยังไม่รู้ว่าจะเดินอย่างไรต่อ แต่ผมคิดว่าดูสิ ดูหน้าตาแต่ละคนพวกนี้ เป็นคนที่ไม่ยอมนะ
กมลพร - เป็นคนรุ่นใหม่ด้วย
สนธิ - เป็นที่คนไม่ยอม และที่สำคัญที่สุดคือว่า ที่มาเลย์ก็มีเหมือนกัน นาจิบเอาดารา มิเชล โหยว เอาไปเชียร์พรรคของตัวเองบาริซัน มิเชล โหยวก็บอกว่า พรรคบาริซัน เป็นพรรคที่ดีที่สุด ประชาชนควรเลือกพรรคบาริซาน โอ้โห มิเชล โหยว เป็นคนจีนในมาเลย์ โดนถล่มซะเละตุ้มเป๊ะเลย พอบินไปฮ่องกงนักข่าวถามว่า การเมืองมาเลย์บอก ขอไม่พูด ไม่กล้าพูดอีกต่อไปเลย
จินดารัตน์ - เพราะสามีเขาเป็นนักธุรกิจใช่ไหมคะ
สนธิ - ได้ผลประโยชน์จากรัฐบาลชุดนาจิบ
จินดารัตน์ - หาเรื่องใส่ตัว
สนธิ - เพราะฉะนั้นแล้วที่มาเลย์เรื่องยังไม่จบ จะยังไม่จบ
จินดารัตน์ - มันจะบานปลายไหมคะ คุณสนธิ
สนธิ - ผมคิดว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลนาจิบเล่นแรงไหม ถ้าเล่นแรงอย่างเหมือนกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเขาออกมาเป็นแนวๆ แล้ว เหมือนกับ ดร.เหลิมของเรา หรือว่าคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็นแนวๆ ว่าการชุมนุมไม่ได้ขออนุญาตก่อน ต้องขออนุญาตก่อนอย่างน้อย 10 วัน เพราะถ้าไม่ขออนุญาตชุมนุมอย่างนี้ เท่ากับยุยงปลุกปั่น
กมลพร - ใช่ กระทบความมั่นคง เอ๊ะแต่อเมริกาออกมาสนับสนุนผลการเลือกตั้งคราวนี้นะคะ ออกมารับรองเองเลย
สนธิ - อเมริกามันได้ประโยชน์จากนาจิบไง เหมือนกับอเมริกาได้ประโยชน์จากรัฐบาลชุดนี้ ชุดยิ่งลักษณ์ ถึงอนุญาตทักษิณเข้าประเทศได้ เข้าใจหรือยัง ปัดโธ่
จินดารัตน์ - แล้วถ้าอันวาร์ คือถ้าสามารถปลุกคนได้มากกว่านี้ จะมีการแบบคุยต่อรองอะไรกันบ้างกว่านี้ไหมคะ
สนธิ - ผมไม่แน่ใจ ผมไม่ค่อยลึกซึ้งกับการเมืองมาเลเซียนัก แต่ว่าโดยส่วนตัวผมรู้จัก อันวาร์ อิมราฮิม ผมเจอเขามา 3 ครั้ง ตั้งแต่สมัยเขาเป็นรองนายกฯ ผมเคยไปเจอเขาที่มาเลเซีย ที่กัวลาลัมเปอร์ นั่งคุยกัน เขาก็เป็นคนหนุ่มที่ใช้ได้ดีทีเดียว เขาเป็นคนที่ความคิดก้าวหน้า และเขาเป็นคน ผมเคยคุยกับเขาเรื่องปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมเคยคุยกับเขาอย่างเปิดอกเลยนะ หงายไพ่คุย ผมอยากให้คุณอันวาร์คุยกับผมโดยที่ไม่มีความเป็นมาเลย์ หรือความเป็นไทยเกี่ยวข้อง ผมคิดว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาเลย์ ผมพูดเลยนะ มาเลย์จะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องผมไม่เชื่อ เหมือนอยู่ครั้งหนึ่งสมัยที่คุณมีโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายู แล้วคุณมาบอกว่าประเทศไทยไม่เกี่ยวข้อง โดยไม่ให้ที่พักพิงโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายู คุณก็ไม่เชื่อใช่ไหม เหมือนกัน ฉันใดฉันนั้น ถ้าคุณกับผมมานั่งแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าคุณมีอำนาจ สมมุติว่าผมมีอำนาจ คุณคิดว่าเราจะแก้อย่างไร เขาถามผม บอกวิธีแก้ให้ คุยกันไปมาจนกระทั่งเรามีข้อสรุป ว่าวิธีแก้ที่ดีที่สุดคือว่า ไอ้ช่วงพรมแดนระหว่าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ติดกับมาเลย์ แบ่งออกมาเลย 10 กิโลฯ 10 กิโลฯ ฝั่งไทย 10 กิโลฝั่งมาเลย์ แล้วตั้งเป็นชุมชนคนไทย-มาเลย์ มาเลย์-ไทย แล้วก่อให้เกิดอุตสาหกรรม เกิดการว่าจ้างงาน เป็นเศรษฐกิจพิเศษ 2 ประเทศรวมกัน เหมือนคน 2 สัญชาติ เป็นเศรษฐกิจพิเศษ 2 ประเทศรวมกัน เพราะคนไทยในมาเลย์ก็เยอะนะ คนไทยในมาเลย์ที่ไม่ได้เป็นมุสลิมไทยพุทธแต่พูดไทยก็มี ไม่ใช่ไม่มี คือความผูกพันมันมีมาหลายร้อยปีแล้ว และถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ธุรกิจที่มันเกิดขึ้น ผมบอกว่าถ้าสมมติผมจะเอายะลา ปัตตานี นราธิวาสมา แล้ผมบอกว่า 3 จัหวัดนี้เป็นมหานคร ที่มีสิทธิพิเศษในการใช้กฎหมายอิสลาม เขาเรียกกฎหมายชารีอะห์ แต่ขณะเดียวกัน ถ้าผมทำเช่นนี้ ประเทศไทยจะต้องมีกองทัพของประเทศไทยอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วจะต้องใช้กฎหมายชารีอะห์ควบคู่ไปกับกฎหมายไทย อันใดก็ตามที่จะต้องไปในแนวชารีอะห์ อันใดเข้ากฎหมายขอบเขตไทยก็ใช้กฎหมายไทย แล้วประชาชน เจ้าหน้าที่ในรัฐนั้น ก็ใช้คนในพื้นที่ขึ้นมา แต่ผู้ว่าการมหานครนั้นต้องเป็นคนจากรัฐบาลไทยส่งเข้าไปเป็น เขาบอกเห็นด้วย บอกถ้าทำอย่างนี้ได้มาเลย์พร้อมไหมที่จะประกาศที่จะเห็นด้วยกับอันนี้ แล้วมาเลย์จะไม่สนับสนุนให้มีการแยกดินแดนเด็ดขาด โดยคนไทยเชื้อสายมุสลิมหรือคนมุสลิมที่มาพึ่งในเมืองไทย เด็ดขาด ประกาศเป็นนโยบายแห่งชาติของมาเลย์ไปเลย เขาบอกทำได้ ผมเคยเจอเขามาตั้ง 3 ครั้ง แต่ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ผมเห็นการเจรจาบีอาร์เอ็นแล้ว น้ำลายไหลทุกคนแล้วผมเฉยๆ
จินดารัตน์ - น้ำลายไหลเพราะเอ๋อกันหมด
สนธิ - ไม่ใช่เอ๋อ มันมีเงินมีทองเกี่ยวข้อง เราใช้งบการปราบปรามผู้ก่อการร้าย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 แสนกว่าล้านแล้วนะ จัดเป็นเงินกองทุนให้คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กู้เงินโดยไม่มีดอกเบี้ยคนละ 20 ปี สร้างบ้านสร้างธุรกิจ ป่านนี้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวยเละแล้ว
กมลพร - แค่คนบางคนที่มีบ้านในอังกฤษมันถึงมีแค่คนบางคนที่ลูกสามารถไปเรียนใช้ชีวิตอยู่นั่นได้ แล้วมันถึงไม่สงบสักที
จินดารัตน์ - มีคนเขียนในเฟซบุ๊กค่ะคุณสนธิ เปรียบเทียบระหว่างอันวาร์ อิบราฮิม กับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เขาบอกความกล้าหาญต่างกัน
สนธิ - แอนอย่าไปเทียบ
จินดารัตน์ - เขาบอกมีความกล้าที่จะนำผู้คนได้
สนธิ - อันวาร์เขานำ อันวาร์เขาไม่กลัว เขาติดคุกแล้ว อันวาร์เขาขึ้นศาล โดยที่ศาลจะยืนข้างรัฐบาล เขาสู้ยิบ ตอนที่เขาขึ้นศาลครั้งที่ 3 ครั้งสุดท้ายที่ผมเจอเขาคือผมบินไปให้กำลังใจเขาที่ตอนที่เขาขึ้นศ่าล ผมไม่กล้าพูดว่าผมรู้จักเขาดี แต่ผมเคยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาหลายครั้ง
จินดารัตน์ - นี่คนที่เมืองไทย 2 คนยังไม่ขึ้นศาลเลยนะ ฟาดงวงฟาดงาแล้ว ปลุกระดมคนต้องออกมา สู้กันนอกระบบก็ต้องสู้นะ ไม่เชื่อมั่นในระบบรัฐสภาแล้ว เดี๋ยวเราพักกันก่อนนะคะ ช่วงหน้ากลับมา อันนี้แหละที่คนรอดูอยู่ พักกันสักครู่ค่ะ
คลิก! อ่านต่อ