แพทย์เตือนขริบกระปู๋ไม่ช่วยให้เจ้าโลกใหญ่ขึ้น เผยหนุ่มวัยฉกรรจ์อายุ 30-40 ปี ฮิตฉีดน้ำมันให้น้องชายหวังอัปไซส์มากที่สุด ส่วนอายุต่ำกว่า 20 ปี พบประมาณ 20% ชี้เป็นความเชื่อที่ผิด เสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง บางรายเน่า ต้องตัดทิ้ง แถมขัดขวางความสุขจากการมีเซ็กซ์ ทำให้ทรมานทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชาย
วันนี้ (18 ก.ย.) นพ.วันชัย นัยรักษ์เสรี ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวถึงกรณีลูกเรือประมงชาวลาว จ.ชลบุรี เมาสุราโดยให้เพื่อนกรีดบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเพื่อให้เป็นรูปสามแฉก เพราะเชื่อว่าหญิงจะชื่นชอบ และอาจทำให้ขนาดใหญ่ขึ้น ว่า การกระทำลักษณะดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ที่เชื่อว่าสวยงามนั้นไม่ทราบรายละเอียด แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆ คือ กรณีวัยรุ่นชายที่มีความนิยมอยากให้อวัยวะเพศของตัวเองมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยการไปฉีดสาร หรือน้ำมันบางประเภทเข้าไปบริเวณใต้ผิวหนังหุ้มอวัยวะ ซึ่งที่ผ่านมาจากข้อมูลที่รวบรวมได้ในทุกช่วงอายุ พบว่า ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างอายุ 30-40 ปี ขณะที่มากกว่าร้อยละ 20 จะมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีก็มีเช่นกัน แต่ไม่มาก
นพ.วันชัย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า คนกลุ่มนี้มีความคึกคะนอง และมักเกิดขึ้นระหว่างเมาสุรา และท้าทายกัน จึงมีการฉีดกันเองบ้าง โดยส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนฉีดให้ มีเพียงส่วนน้อยประมาณร้อยละ 10 ที่ฉีดเอง บ้างก็เป็นพวกหมอเถื่อน โดยสารที่ใช้ฉีดได้แก่ น้ำมันมะกอก และครีมที่เป็นยาปฏิชีวนะ ที่ใช้ทาภายนอก นำมาต้มให้เหลวและนำมาฉีดบริเวณองคชาต พอฉีดเข้าไปก็จะเกิดปฏิกิริยา ทำให้อักเสบ เป็นก้อนแข็ง ถ้าไม่สะอาดก็จะติดเชื้อ บางคนลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบ กระทั่งเกิดอาการเน่า ในบางรายเกิดเป็นแผลเรื้อรังหลายปี กลายเป็นมะเร็งผิวหนังที่องคชาต ดังที่เคยประสบพบมา จนต้องตัดทิ้ง
“กลุ่มที่ฉีดสารเหล่านี้ ตอนแรกอาจรู้สึกว่าใหญ่ขึ้น แต่จริงๆ แล้วเป็นอาการใหญ่ที่ผิดปกติ จนเกิดปัญหาต่อการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเมื่อมีการร่วมเพศจะทำให้มีอาการเจ็บปวดทั้งตนเองและฝ่ายหญิง บางรายอาจเกิดอาการบวมที่หนังหุ้มปลาย ทำให้ล้างทำความสะอาดไม่ได้ สำหรับการรักษาจะใช้วิธีผ่าตัด ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ อย่างหากเป็นแผลอักเสบเฉพาะหนัง โดยไม่ลามไปผิวหนังอัณฑะก็จะผ่าตัดเพียงหนเดียว ด้วยการลอกผิวหนังเสียทิ้ง และเอาหนังอัณฑะไปหุ้มแทน ใช้เวลา 2-3 เดือนก็จะดีขึ้น” นพ.วันชัย กล่าว
วันนี้ (18 ก.ย.) นพ.วันชัย นัยรักษ์เสรี ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวถึงกรณีลูกเรือประมงชาวลาว จ.ชลบุรี เมาสุราโดยให้เพื่อนกรีดบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเพื่อให้เป็นรูปสามแฉก เพราะเชื่อว่าหญิงจะชื่นชอบ และอาจทำให้ขนาดใหญ่ขึ้น ว่า การกระทำลักษณะดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ที่เชื่อว่าสวยงามนั้นไม่ทราบรายละเอียด แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆ คือ กรณีวัยรุ่นชายที่มีความนิยมอยากให้อวัยวะเพศของตัวเองมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยการไปฉีดสาร หรือน้ำมันบางประเภทเข้าไปบริเวณใต้ผิวหนังหุ้มอวัยวะ ซึ่งที่ผ่านมาจากข้อมูลที่รวบรวมได้ในทุกช่วงอายุ พบว่า ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างอายุ 30-40 ปี ขณะที่มากกว่าร้อยละ 20 จะมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีก็มีเช่นกัน แต่ไม่มาก
นพ.วันชัย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า คนกลุ่มนี้มีความคึกคะนอง และมักเกิดขึ้นระหว่างเมาสุรา และท้าทายกัน จึงมีการฉีดกันเองบ้าง โดยส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนฉีดให้ มีเพียงส่วนน้อยประมาณร้อยละ 10 ที่ฉีดเอง บ้างก็เป็นพวกหมอเถื่อน โดยสารที่ใช้ฉีดได้แก่ น้ำมันมะกอก และครีมที่เป็นยาปฏิชีวนะ ที่ใช้ทาภายนอก นำมาต้มให้เหลวและนำมาฉีดบริเวณองคชาต พอฉีดเข้าไปก็จะเกิดปฏิกิริยา ทำให้อักเสบ เป็นก้อนแข็ง ถ้าไม่สะอาดก็จะติดเชื้อ บางคนลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบ กระทั่งเกิดอาการเน่า ในบางรายเกิดเป็นแผลเรื้อรังหลายปี กลายเป็นมะเร็งผิวหนังที่องคชาต ดังที่เคยประสบพบมา จนต้องตัดทิ้ง
“กลุ่มที่ฉีดสารเหล่านี้ ตอนแรกอาจรู้สึกว่าใหญ่ขึ้น แต่จริงๆ แล้วเป็นอาการใหญ่ที่ผิดปกติ จนเกิดปัญหาต่อการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเมื่อมีการร่วมเพศจะทำให้มีอาการเจ็บปวดทั้งตนเองและฝ่ายหญิง บางรายอาจเกิดอาการบวมที่หนังหุ้มปลาย ทำให้ล้างทำความสะอาดไม่ได้ สำหรับการรักษาจะใช้วิธีผ่าตัด ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ อย่างหากเป็นแผลอักเสบเฉพาะหนัง โดยไม่ลามไปผิวหนังอัณฑะก็จะผ่าตัดเพียงหนเดียว ด้วยการลอกผิวหนังเสียทิ้ง และเอาหนังอัณฑะไปหุ้มแทน ใช้เวลา 2-3 เดือนก็จะดีขึ้น” นพ.วันชัย กล่าว
