ผบ.ทบ.พร้อมอดีต รมว.กห.ลงนราธิวาส ดูความคืบหน้างานตามนายกฯ สั่ง ยันดำเนินตาม 9 ยุทธศาสตร์ ไม่ทำให้เสียดินแดน ไม่ใช้รุนแรงแก้ปัญหา ยกกรณีพระวิหารต่างชาติจุ้นยุ่งขึ้นไปอีก ติงพวกวิจารณ์อย่าพูดด้วยอารมณ์ วอนสื่อช่วยประณามเหตุ ชี้ลงข่าวทุกวันเหมือนกระบอกเสียงช่วยโจร ด้าน “ยุทธศักดิ์” เผยจ่อไปให้กำลังใจคนพุทธ ห่วงไม่พอใจลามเป็นขัดแย้งศาสนาจะลำบาก แนะตั้งทีมลับคุยนอกรอบบีอาร์เอ็น ขณะที่ ผบ.ทร.เยี่ยมหน่วยอีโอดีเจ็บ
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่กรมการขนส่งทหารบก เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) เดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมเดินทาง โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตนและพล.อ.ยุทธศักดิ์ติดตามความก้าวหน้าการทำงานของ กอ.รมน. ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กระทรวง ทบวง และกรมที่เกี่ยวข้องถึงความก้าวหน้าในการดำเนินงาน รวมถึงปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ทั้งเขตเมือง ชนบท ป่าเขา และจะบูรณการกำลังจากพลเรือน ทหาร และตำรวจ การจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่ที่ต้องพัฒนาจำแนกตามความจำเป็นของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งตนจะลงไปให้กำลังใจและเน้นย้ำให้ระมัดระวังในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตกเป็นเป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบ และที่เป็นห่วงมากกว่านั้นคือประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่เป็นเป้าหมายอ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล สถานที่ก็ต้องให้ความคุ้มครอง
“ผมทราบดีว่าทุกคนห่วงใยสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และขอยืนยันว่าการดำเนินการตาม 9 ยุทธศาสตร์และแผนงานที่ดำเนินการอยู่ทุกวันนี้จะไม่ทำให้เสียดินแดน พร้อมทั้งจะไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา เพราะจะทำให้ปัญหาขยายเป็นวงกว้าง จนทำให้องค์กรต่างๆ เข้ามาแทรกแซงได้ เหมือนปัญหาชายแดนด้านตะวันออกของเรา ถ้ามีใครเข้ามายุ่งเกี่ยวการแก้ไขปัญหาก็ยุ่งยากขึ้นไปอีก สิ่งที่เราทำตอนนี้ไม่ได้ผิดเพียงแต่ ต้องกำกับดูแลให้ส่วนราชการต่างๆ ทำตามคำสั่งอย่างเต็มที่ หากทำไม่เต็มที่ก็จะต้องตรวจสอบว่ามีข้อติดขัดอย่างไร การต่อสู้ในขณะนี้ยังไม่สิ้นสุด ฝ่ายตรงข้ามพยายามต้องใช้ความรุนแรงทำให้เราหมดความอดทนและใช้ความรุนแรง รวมถึงดิสเครดิตไม่ให้มีความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ ควบคู่ไปกับการดำเนินการทางด้านการเมืองทั้งภายในและนอกประเทศและดึงให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนี้ หากมีใครเป็นห่วงสถานการณ์ในภาคใต้ และคิดว่าเป็นหนทางที่จะช่วยแก้ปัญหาก็ขอให้บอกมาด้วยเหตุผล แต่อย่าบอกด้วยอารมณ์ ซึ่งผมเห็นบางคนบอกว่าการใช้วิธีการสันติภาพ ทำให้เราถูกทำร้ายทุกวัน ถึงเวลาแล้วที่ต้องให้ประชาชนติดอาวุธแล้วออกมาสู้กัน ผมมองว่าเป็นความคิดที่ยังไม่เข้าใจ เพราะนี่คือสิ่งที่ผู้ก่อความไม่สงบต้องการและเป็นวิธีการเดียวที่เขาจะได้รับชัยชนะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผบ.ทบ.กล่าวว่า สิ่งที่เน้นหนักในขณะนี้คือการพัฒนาแต่ผู้ก่อความไม่สงบก็ต้องขัดขวางไม่ให้ประชาชนให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ขอความร่วมมือกับสื่ออย่าโฆษณาให้กับทางฝ่ายผู้ก่อเหตุ ซึ่งตนไม่ได้ปกปิด แต่อยากให้ช่วยประณาม หากสื่อลงข่าวให้ผู้ก่อเหตุทุกวันก็จะเหมือนกระบอกเสียงให้ว่าเขาทำงานสำเร็จ วันนี้อยากให้ทุกคนอดทนและเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความปลอดภัยอยู่ แต่ก็มีส่วนน้อยที่ได้รับอันตราย ซึ่งเราก็รับไม่ได้ เพราะน้อยแค่ไหนก็เป็นชีวิต ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยครูในช่วงเปิดเทอมนั้น เป็นเรื่องเก่าที่พูดกัน เพราะผู้ก่อความรุนแรงจะก่อเหตุเป็นวงรอบ ตามเป้าหมายที่สามารถทำร้ายได้ง่าย แต่ก็อยากให้ทุกคนอยู่กับเจ้าหน้าที่และไม่ประมาท รับฟังคำเตือนของเจ้าหน้าที่ บางคนก็รู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ มีคนจ้องทำร้ายแต่ยังสัญจรไปมา
ด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า หลังจากประชุมที่ ฉก.นราธิวาสเสร็จในช่วงบ่ายจะเดินทางไปแหล่งชุมนุมชาวพุทธที่วัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เพื่อให้กำลังใจชาวพุทธเพราะตอนนี้ชาวพุทธเริ่มไม่พอใจรวมตัวกันออกแถลงการณ์แล้วโดยเฉพาะเหตุการณ์คนร้ายขี่จักรยานยนต์ 2 คัน กราดยิงใส่ชาวบ้านหน้าร้านขายของชำในอำเภอเมือง จ.ปัตตานี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย รวมเด็กชายวัย 3 ขวบนั้น คนร้ายที่ก่อเหตุถูกประณามมาก สมาคมสตรีชาวใต้ก็ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำ ดังนั้น หากเกิดความไม่พอใจต่อสู้กันจนกลายเป็นความขัดแย้งทางศาสนาจะลำบากทั้งนี้ หาประชาชนมีความเข้าใจสถานการณ์ เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ประชาชนก็จะเริ่มเข้ามาเป็นฝ่ายเราและกลุ่มคนร้ายจะเสียมวลชนจากการกระทำที่เกินว่าเหตุไปเอง
“กลุ่มก่อความไม่สงบยังสร้างสถานการณ์ใช้ความรุนแรงเพื่อให้เห็นว่าในพื้นที่ภาคใต้ยังมีความรุนแรง เราต้องพูดกันให้ได้ หากจะมีการพูดคุยต้องแก้ปัญหาการก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้ให้ได้ โดยทางทีมพูดคุยต้องโยนปัญหาตรงนี้ให้กลุ่มบีอาร์เอ็นแก้ปัญหาให้ได้ ทั้งนี้ ระหว่างรอการพูดคุยของคณะไทยและบีอาร์เอ็นครั้งต่อไปอีก 1 เดือนเศษ น่าจะมีทีมพูดคุยย่อยพูดคุยกันทางลับในการแก้ไขปัญหาด้วย ไม่ใช่แค่ให้คณะใหญ่ 1 เดือนประชุมพูดคุยกันที ซึ่งคงจะไม่มีอะไรก้าวหน้าเท่าที่ควร นอกจากนี้ หากบีอาร์เอ็นไม่สามารถควบคุมกลุ่มอื่นที่ก่อเหตุได้ แต่หากกลุ่มนี้พร้อมพูดคุยเราก็ต้องคุยกับเขา เพราะตอนนี้มีหลายกลุ่มย่อยออกมาทั้งกลุ่มนิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เยาวชนปัตตานี เขาก็พูดว่าเจ้าหน้าที่ต้องคุยกับเขาด้วย” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีระบุ
ขณะที่ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่าตนและคณะจะเดินทางไปเยี่ยมกำลังพล 4 นาย จากหน่วยถอดทำลายอมภัณฑ์ (อีโอดี) ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดภายในหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 32 อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยขณะทั้งหมดกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้งนี้ ช่วงใกล้เปิดเทอมได้กำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาระมัดระวังและปฏิบัติหน้าที่ตามแผนงานอย่างเคร่งครัดในการดูแลรักษาความปลอดภัยครูและนักเรียน ตนเชื่อว่าไม่มีอะไรที่น่าห่วงและไม่น่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นในระหว่างรอการพูดคุยสันติภาพรอบ 3 กับกลุ่มบีอาร์เอ็น
