เครือข่ายแก๊งแดง กวป.ปิดจ็อบหน้าศาลรัฐธรรมนูญ เคลื่อนขบวนมุ่งหน้ารัฐสภา ยื่น 1 แสนรายชื่อต่อประธานวุฒิสภาเพื่อถอดถอน 5 ตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ เหตุรับคำวินิจฉัยคำร้องแก้รัฐธรรมนูญ ม.68 ขัดรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (8 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่ชุมนุมอยู่ที่หน้าบริเวณสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมานานกว่า 16 วันได้เริ่มเคลื่อนขบวนมวลชนโดยใช้รถบัส รถยนต์ รถกระบะ จักรยานยนต์ ออกจากหน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ไปยังรัฐสภาเพื่อยื่นรายชื่อประชาชน 1 แสนคนถอดถอน 5 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อันประกอบด้วย นายจรัญ ภักดีธนากุล นายจรูญ อินทจาร นายสุพจน์ ไขมุกด์ นายนุรักษ์ มาประนีต และนายเฉลิมพล เอกอุรุ ซึ่งเป็นเสียงข้างมากรับวินิจฉัยคำร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ต่อประธานวุฒิสภา
โดยผู้ชุมนุมใช้เส้นทางถนนแจ้งวัฒนะ เข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าแยกลาดพร้าว เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพหลโยธิน เพื่อไปสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เลี้ยวขวาเข้าถนนราชวิถี ผ่านแยกพิชัย และเลี้ยวซ้ายถนนอู่ทองใน เข้าหน้าอาคารรัฐสภา ซึ่งตลอดการเคลื่อนขบวนการของผู้ชุมนุมใช้สโลแกน“ ไม่รับอำนาจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 309 อารยะขัดขืนทั้งแผ่นดิน” โดยขณะเคลื่อนขบวนพบว่า นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ได้นั่งรถยนต์ส่วนตัวมาร่วมสังเกตการณ์ โดยได้โบกมือทักทายให้ผู้ชุมนุมด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ตะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจจราจร ซึ่งมาดูความเรียบร้อยและได้พูดคุยกับแกนนำ เปิดเผยว่า ได้ขอให้ผู้ชุมนุมใช้ช่องทางจราจรซ้ายสุดในการเคลื่อนขบวน ซึ่งได้มีการประสานให้ตำรวจจราจรกลาง ตำรวจท้องที่ และเจ้าหน้าที่ของขนส่งมวลชนกรุงเทพ คอยอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง โดยจะไม่มีการปิดเส้นทางหรือบริเวณแยกจุดใดจุดหนึ่ง เชื่อว่าจะดูแลผู้ชุมนุมให้เดินทางไปถึงเป้าหมายได้อย่างเรียบร้อย ไม่มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวน ทั้งนี้การเคลื่อนขบวนดังกล่าว
ทั้งนี้ ก่อนการเคลื่อนขบวน แกนนำกลุ่มฯ นำโดยนายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือเล็ก บ้านดอน ประธานกลุ่ม แถลงว่าเจตนารมณ์ของผู้ชุมนุมยังคงเดิม คือ ไม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ และเห็นว่าการการรับวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เป็นการดำเนินการที่ไม่มีอำนาจ เพราะการแก้ไขเป็นอำนาจของรัฐสภา จึงควรให้สภาเป็นที่แก้ไขปัญหา โดยการต่อสู้นับจากนี้จะเป็นการยกระดับการขับไล่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไปทั่วประเทศ จะเริ่มจากนายจรัญ ภักดีธนากุลเป็นคนแรก เนื่องจากเป็นบุคคลที่ทำให้วงการตุลาการเกิดความเสียหายมากที่สุด โดยเมื่อขบวนเคลื่อนถึงหน้ารัฐสภาแล้วทางแกนนำก็จะมีการแถลงอีกครั้งว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป หรือว่าจะยุติการชุมนุม
ด้านสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง รองประธาน กวป.แถลงยืนยันวว่า ตลอดเวลาของการผู้ชุมนุมมาด้วยใจที่เห็นว่าการดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญไม่ถูกต้อง เป็นพลังบริสุทธิ์ ไม่ได้มีการจัดตั้ง หรือมีนักการเมืองคนใดหนุนหลัง และขอตำหนิสื่อที่ไม่มีจิตใจเป็นธรรม ละเลยการนำเสนอข่าวสารของผู้ชุมนุม ปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเดินทางมาร่วมแสดงพลัง จนทำให้ยอดประชาชนที่จะร่วมเคลื่อนขบวนในวันนี้น้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ยังเดินทางมาทำงานตามปกติ โดยเมื่อผู้ชุมนุมได้มีการเคลื่อนขบวนไปแล้ว ก็ยังคงเหลือผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ทำความสะอาดพื้นที่บริเวณที่ปักหลักชุมนุมมาตลอด 16 วันให้สะอาดเรียบร้อยด้วยด้วย
ล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางถึงรัฐสภาแล้ว โดยได้ตั้งเวทีปราศัยโจมตีศาลรัฐธรรมนูญหน้ารัฐสภาด้วย พร้อมใช้สิทธิตามมาตรา 164 ประกอบ 267 วรรคสาม เข้าชื่อยื่นต่อนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในเวลาประมาณ 14.00 น. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 274 ถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 5 คน ประกอบด้วย นายจรัญ ภักดีธนากุล, นายจรูญ อินทรจาร, นายสุพจน์ ไข่มุกด์, นายนุรักษ์ มาปราณีต และนายเฉลิมพล เอกอุรุ ออกจากตำแหน่ง เพราะเป็นตุลาการเสียงข้างมากที่รับคำร้อง กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา จึงถือว่ามีพฤติกรรมจงใจใช้ตำแหน่งหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง หากยังคงให้ดำรงตำแหน่งต่อไป ประชาชนจะได้รับความเสียหาย เกิดความแตกแยก จึงขอเรียกร้องไปยัง ส.ว.ให้มีมติถอดถอนตุลาการฯ ทั้ง 5 คนตามที่ทางกลุ่มเสนอเรื่องไป ส่วนตุลาการอีก 4 คนที่เหลือ ทาง กวป.จะพิจารณาอีกครั้ง หากพบว่ามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะทำการยื่นถอดถอนและดำเนินคดีเช่นกัน
ขณะที่เมื่อเวลา 11.45 น.ที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์ที่หญิงวัยกลางคนที่มากับกลุ่มผู้ชุมนุม ได้ตะโกนด่าทอช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ถ่ายภาพการชุมนุมอยู่ และมีการโชว์นิ้วกลางให้ พร้อมถามถึงช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ซึ่งหญิงคนดังกล่าวระบุว่า “อย่าให้แก้รัฐธรรมนูญปี 50 ได้ จะเปลี่ยนผังของสื่อทั้งหมด” จึงเกิดความวุ่นวายขึ้น โดยกลุ่มผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ได้พยายามเข้าไปทำร้ายร่างกายหญิงคนดังกล่าว โดยระบุว่าไม่ใช่คนเสื้อแดง เพราะคนเสื้อแดงไม่เคยมีปัญหากับสื่อ หากใครเจอหญิงคนนี้สามารถจัดการได้ทันที จนทำให้เจ้าหน้าที่ที่รักษาความปลอดภัยในที่ชุมนุมต้องกันหญิงคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ ซึ่งก็มีกลุ่มผู้ชุานุมส่วนหนึ่งได้วิ่งไล่ไปเพื่อจะทำร้ายจนเกิดการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยก่อนที่หญิงคนนี้จะสามารถหนีออกไปได้
ทั้งนี้ บริเวณโดยรอบรัฐสภามีการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 50 คนบริเวณรั้วของอาคารรัฐสภา โดยขณะนี้ถนนอู่ทอง หน้าบริเวณอาคารรัฐสภาได้มีการปิดการจราจรเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ข้อมูลของตำรวจระบุว่า จำนวนยอดรถและคน ที่เคลื่อนขบวนออกจากศาลรัฐธรรมนูญ มียอดรวมประมาณ 2,850 คน แยกเป็น 1.เดินทางด้วยจักรยานยนต์จำนวน 300 คัน คนประมาณ 600 2.เดินทางโดยรถบัส 4 คัน คนจำนวน 350 3.รถตู้ 8 คัน คนจำนวน 150 4. รถเครื่องเสียง 6 คัน คน 100 5.รถกระบะ 117 คัน คน 1,000 6.รถแท๊กซี่ 119 คัน คน 500 และ7.รถสองแถว 12 คัน คนประมาณ 150
ทางด้านรัฐสภา มี นายวรชัย เหมะ และ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ 2 ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้เป็นตัวแทนประสานกับทางวุฒิสภา เพื่อติดต่อให้ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิคนที่หนึ่ง มารับหนังสือแทนนายนิคม ไวยรัชพานิข ประธานวุฒิสภา เพื่อให้แกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงได้เข้ามายื่นหนังสือเพื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
มีรายงานว่าเมื่อเวลา 12.30 น. นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช.ได้อำนวยความสะดวกในการพาแกนนำ กวป. ยื่นหนังสือขอเป็นผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ในฐานะรักษาการประธานวุฒิสภา แต่ไม่สามารถยื่นได้เนื่องจากยังไม่ได้ดำเนินขั้นตอนตามกฎหมาย โดยเฉพาะคำร้องยื่นถอดถอนของผู้ริเริ่มที่ต้องลงลายมือชื่อพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้ริเริ่ม
ทำให้นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ต้องชี้แจงถึงขั้นตอนการยื่นถอดถอนว่าผู้ริเริ่มต้องกลับไปรวบรวมรายชื่อประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน ภายใน 180 วัน จากนั้นนำรายชื่อมายื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้วส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาตามคำร้อง หากป.ป.ช.ชี้ว่ามีมูล ก็ส่งกลับให้วุฒิสภาดำเนินการถอดถอนตามกฎหมายต่อไป
แต่แกนนำ กวป.ทักท้วงว่าขั้นตอนการถอดถอนผ่านวุฒิสภาใช้เวลานาน หากระหว่างนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเกิดตัดสินยุบพรรค หรือวินิจฉัยคำร้องที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายใด อาจเกิดผลเสียได้ใครจะรับผิดชอบ จะมีกระบวนการเร่งด่วนใดที่จะยับยั้งการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 3 คน น่าจะพิจารณาตัวเองลาออกไปก่อนระหว่างการหารือหรือไม่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับและตรวจสอบของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้เข้าไปชี้แจง ขั้นตอนการยื่นถอดถอนกับแกนนำ พร้อมนำแบบฟอร์มคำร้องยื่นถอดถอนให้แกนนำนำกลับไปกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน แล้วนำกลับมายื่นขอเป็นผู้ริเริ่มถอดถอนใหม่
ต่อมา 13.10 น.แกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศขอเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง เพื่อกำหนดจุดยืนว่าจะใช้ช่องทางของวุฒิสภาเพื่อถอนถอดตุลาการหรือไม่ ซึ่งขณะนี้จะยังไม่รับหลักการใดๆเพราะเห็นว่าขั้นตอนดังกล่าวใช้เวลานานเกินไป โดยทางกลุ่มเสื้อแดงอาจจะใช้ช่องทางเพื่อดำเนินคดีทางอาญาและชุมนุมขับไล่เพียงอย่างเดียวก็เป็นได้
ทั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีการประสานทำหนังสือมาล่วงหน้า และได้มาเขียนหนังสือในห้องรับรองที่ผ่านมา ซึ่งทางด้านแกนนำเปิดเผยว่า ทางแกนนำจะต้องมีคำตอบที่ชัดเจนให้กับมวลชน ซึ่งการที่จะรอเวลาเพื่อตรวจสอบรายชื่อ 20,000 รายชื่อนั้น ใช้เวลานานเกินไป
อย่างไรก็ตามทางด้านนายวรชัย เหมะ ได้เชิญนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เพื่อมารอรับหนังสือแล้ว แต่ทางแกนนำคนเสื้อแดงได้เปลี่ยนใจกระทันหันที่จะกลับออกไปปรึกษากันก่อน โดยนายวรชัย ได้เปิดเผยว่า ตนพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้ ซึ่งทางแกนนำก็ไม่ได้มีการประสานเพื่อทำหนังสือเพื่อยื่นต่อวุฒิสภามาก่อนหน้านี้ แต่เพิ่งจะได้พูดคุยกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดแกนนำถึงเปลี่ยนใจจะไม่ยื่นหนังสือดังกล่าว
ทั้งนี้ทางบริเวณเวทีที่ชุมนุมได้มีการประกาศให้มวลชนรู้แล้วว่าจะมีการใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วโมงต่อจากนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป และจะมีการยกระดับการชุมนุมหรือไม่นั้นทางแกนนำจะหารือกันอีกครั้ง
