“กษิต” แจงแถลงการณ์ ปชป.เผยความจริงให้โลกรู้ ปัดโต้ทางการเมือง เหตุนายกฯ จ้อชาติเสียหาย ไม่ส่งถึง พท.อ้างไม่อยากท้า แนะรับผิดชอบคำพูดว่าคนอื่นไม่ดูคนรอบตัวเอง ใช้อำนาจห้ามวิจารณ์ ชี้แยกปรองดองกับแตกแยก อ้างอุทาหรณ์ไม่ได้ เหตุแก้บทก่อนจ้อหลายครั้ง ยันสังคมไม่ให้รวบอำนาจ ซัด รบ.บริหารไร้โปร่งใส พึ่งสาวกป้องเสียงต้าน “ชวนนท์” อัด ลดสิทธิ ปชช. หนุนแดงกดดันศาล ตอก “ปู” ปชต.แต่ปาก แฉ รบ.ขวางสื่อนอกพบ หน.ปชป.
วันนี้ (7 พ.ค.) นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการออกแถลงการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อตอบโต้ปาถกฐาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่มองโกเลีย แจกจ่ายไปทั่วโลก ว่าเนื่องจากปาถกฐาดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายในการเสริมสร้างประชาธิปไตยของไทยเป็นอย่างยิ่ง และไม่สะท้อนพฤติกรรมครอบครัวนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง และกองกำลังติดอาวุธ โดยสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำนั้น ไม่ใช่เรื่องการตอบโต้ทางการเมือง แต่ต้องชี้แจงให้ชาวโลกรู้ความจริง ถือเป็นภาระหน้าที่ของคนไทยที่ต้องต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่จะไม่มีการส่งแถลงการณ์ของพรรคไปให้พรรคเพื่อไทยเพราะจะหาว่าท้าตีท้าต่อย
ทั้งนี้ยังเห็นว่า นายกรัฐมนตรีควรจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ เพราะมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของผู้นำสูงสุดในประเทศไปกล่าวหาคนไทยด้วยกันว่าเป็นฝ่ายปฏิกริยาที่ต่อต้านประชาธิปไตย โดยไม่มองตัวเอง ครอบครัว พรรค ขบวนการเคลื่อนไหวของตัวเอง ที่มีการขู่บังคับศาล และขู่ปิดเว็บไซด์ที่วิจารณ์นายกรัฐมนตรี ถือเป็นการริดรอนเสรีภาพของประชาชน ใช้อำนาจโดยไม่ถูกต้อง จึงอยากวิงวอนไปถึงนายกัฐมนตรีที่เป็นสุภาพสตรีมาจากการเลือกตั้ง จะต้องนั่งคิดเองในฐานะที่มีการศึกษาสูง ว่า หากต้องการให้เกิดการปรองดองไม่ใช่การสร้างความแตกแยกจะต้องทำอย่างไร โดยอย่างน้อยต้องรับผิดชอบต่อการพูดเท็จให้ร้ายประเทศไทยด้วยการขอโทษประชาชน เพราะที่อ้างว่าเป็นอุทาหรณ์นั้นไม่จริง เนื่องจากสุนทรพจน์มีการแก้ไขหลายครั้ง อีกทั้งก่อนพูดบนเวทีนายกรัฐมนตรีก็ต้องอ่านจึงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นทันทีแล้วโพล่งออกไปแต่เตรียมการอย่างรอบคอบแล้ว นายกรัฐมนตรีเป็นคนที่รู้ภาษาอังกฤษจะบอกว่าไม่รู้เรื่องก็ไม่ได้ เมื่ออ่านไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น เพราะสร้างความแตกแยกเพิ่มขึ้น
“การบริหารของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่า มีความแยบยลในการที่จะรวบอำนาจมากกว่าช่วงปลายรัฐบาลทักษิณ ก่อนการรัฐประหาร แต่ตนขอยืนยันว่าความต้องการที่จะรวบอำนาจไม่มีทางสำเร็จ เพราะผมแน่ใจว่าชาวไทยไม่ต้องการสังคมเผด็จการ ไม่ต้องการให้นโยบายประชานิยมทำลายบ้านเมืองเหมือนที่เกิดความล้มเหลวแล้วในหลายประเทศ ในขณะนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ได้ปกครองประเทศตามวิถีประชาธิปไตย แต่ปกครองในลักษณะเผด็จการ ต้องการรวบอำนาจ บริหารอย่างไร้ ธรรมาภิบาล ขาดความโปร่งใส ใช้ภาษีราษฎรโดยมิชอบ เช่น การบริหารเงินกู้ 3.5 แสนล้าน โดยนายกรัฐมนตรีควรเปิดใจกว้างรับฟังคำวิจารณ์ของฝ่ายต่างๆ ข้าทาส บริวาร ลิ่วล้อ ควรเลิกออกมาปกป้อง หรือทำในลักษณะเล่นพรรคเล่นพวก และหันมาเล่นการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยจะดีกว่า” นายกษิตกล่าว
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปาถกฐาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเรื่องเท็จ จะอ้างว่าเป็นอุทาหรณ์ไม่ได้ สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอนั้นเป็นความจริง และขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้มีความเป็นประชาธิปไตยน้อยมาก เพราะมีการลิดรอนเสรีภาพของประชาชน สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงคุกคามศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีไม่เคยแสดงออกเพื่อปกป้องตุลาการ รักษากฎหมาย มีแต่ส่งสัญญาณให้ยกระดับความรุนแรง และคุกคามผู้อื่น
“ยิ่งลักษณ์คือสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการอยู่ตรงข้ามกับระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี่ยังละเลยไม่ใส่ใจปัญหาประชาชนที่มาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา ดังนั้นจึงมีประชาธิปไตยแต่ปากเท่านั้น จึงถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องออกมาเรียกร้องตามกรอบของกฎหมาย” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์เปิดเผยด้วยว่า ตนมีหลักฐานยืนยันว่าคนในรัฐบาลกดดันสื่อมวลชนต่างชาติไม่ให้พบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ทำให้กำหนดที่มีสื่อมวลชนจากสหรัฐอเมริกาขอสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์เช้าวันพฤหัสบดีที่ 9 พ.ค.นี้ต้องยกเลิกไป เพราะคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ข่มขู่ว่าจะไม่ได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล หากมาพบผู้นำฝ่ายค้าน จึงอยากให้นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้เรื่องนี้ด้วย