“ณัฐวุฒิ” เชื่อสาวกชุมนุมใหญ่กดดันศาล รธน. ไร้กังวลมั่นใจสงบ แกนนำเอาอยู่ มีป่วนโทษมือที่ 3 รับการเมืองขัดแย้ง โบ้ยศาล รธน.ทำเกินอำนาจ แถมมีการวิจารณ์นายกฯ เกินเหตุ โยงเข้าขบวนการต้าน รบ. สร้างเงื่อนไขยั่วยุแก่ฝ่ายหนุน รบ. ให้เผชิญหน้าเปิดทางอำนาจนอกระบบ บี้ ปชป.ทบทวนแถลงการณ์ ชี้แจงเหตุรัฐประหารเท่ากับประจานตัวเอง ย้อน “มาร์ค” เจอ ตปท.บี้ปมปราบแดง ไปไม่เป็น ย้อนกับ “แม้ว” ใครควรรับผิดชอบมากกว่า
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่คนเสื้อแดง กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) จะรวมตัวชุมนุมใหญ่เพื่อกดดันการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 8 พ.ค.ว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวเชื่อว่าไม่น่ากังวล เพราะแกนนำยืนยันว่าจะชุมนุมโดยสงบ และมีเป้าหมายชัดเจนคือเรียกร้องความรับผิดชอบจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และทราบว่าผู้ชุมนุมมีความคิดว่าหากคนมาไม่ถึงแสนอาจจะยุติการชุมนุม แต่ก็เชื่อว่าวิจารณญาณของผู้ชุมนุมและแกนนำจะรับผิดชอบความเคลื่อนไหวไม่ให้บานปลายได้อย่างแน่นอน และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการประสานงานกับทางผู้ชุมนุมเป็นอย่างดีก็จะทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้บรรยากาศความขัดแย้งยังคงมีอยู่ การแสดงออกถึงความพอใจและไม่พอใจต่อรัฐบาลหรือฝ่ายตรงข้าม เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ผู้จะออกมาเคลื่อนไหวต้องไม่ทำให้สถานการณ์เกิดความรุนแรงบานปลาย และฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ต้องลดเงื่อนไขที่จะยั่วยุหรือกดดันให้เกิดเผชิญหน้า เพราะทุกอย่างมีสาเหตุ ทั้งเรื่องที่ฝ่ายรัฐสภาและประชาชนจำนวนหนึ่งปฏิเสธการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะตุลาการทำในสิ่งที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และปฏิกิริยาของคนบางกลุ่มก็เหมือนจะจริงจังเกินเหตุกับการโจมตีรัฐบาลโดยพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี หลายคนใช้ภาษาที่หยาบคายเกินกว่าการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งๆ ที่บางคนเป็นคนที่มีสถานะทางสังคมพอสมควร ตนเลยจับสังเกตว่านี่คงเป็นความพยายามร่วมกันของขบวนการต่อต้านรัฐบาลที่จะสร้างเงื่อนไขยั่วยุให้เกิดความไม่พอใจแก่ผู้สนับสนุนรัฐบาล และนำอาจไปสู่สถานการเผชิญหน้ากันของมวลชนสองฝ่าย และจะเป็นการเปิดโอกาสให้อำนาจนอกระบบเข้ามาจัดการการเมืองได้อีกหรือไม่ ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะมีสมาธิในการทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองและไม่นำตัวเองเข้าไปสู่ความขัดแย้ง
เมื่อถามว่าการชุมนุมในวันพรุ่งนี้หากเกิดความรุนแรงแกนนำ นปช.ต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นการรวมตัวของประชาชนที่ตั้งเป็นกลุ่มใหม่ มีแนวทางการเคลื่อนไหวเป็นของตัวเอง ตนก็เชื่อว่าผู้ชุมนุมมีวิจารณญาณ และวิธีการที่จะควบคุมการชุมนุมได้ และคนเสื้อแดงที่ออกมาเคลื่อนไหวจะดูแลตัวเองไม่ให้เกิดความรุนแรง จึงไม่กังวลว่าในวันพรุ่งนี้จะมีปัญหา แต่ที่ต้องระวังคืออย่าให้มือที่สาม เข้าไปปั่นป่วนสถานการณ์
นายณัฐวุฒิกล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมออกจดหมายชี้แจงต่อเวทีโลกกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษบนเวทีประชุมประชาคมประชาธิปไตยที่ประเทศมองโกเลียว่า จากการที่ตนได้ติดตามเนื้อหาจากการแถลงการณ์ข่าวของพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่ามีเนื้อหาหลักๆ มีอยู่ 2 ประเด็น คือ การบริหารงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจนเกิดการยึดอำนาจและ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของคนเสื้อแดงจนเกิดความรุนแรงบานปลาย ซึ่งตนเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรทบทวนท่าทีดังกล่าวอีกครั้ง เพราะการไปชี้แจงสาเหตุการรัฐประหารในประเทศไทย ให้โลกฟังโดยอ้างว่า มีความไม่ชอบธรรม จนต้องยึดอำนาจ ถือเป็นการประจานตัวเอง และสร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศอย่างแท้จริง
“บ้านเมืองนี้นายกฯ คนไหนถูกยึดอำนาจ เหตุผลคลาสสิกก็คือทุจริตคอร์รัปชัน ทำให้เกิดความแตกแยก มีปัญหาเรื่องสถาบันเบื้องสูง นี้เป็นเหตุผลที่ฝ่ายยึดอำนาจ ใช้เป็นเหตุผลเวลาก่อการ พรรคประชาธิปัตย์จะอธิบายว่าการยึดอำนาจมีความชอบธรรมทางการเมือง หากเห็นอย่างนั้นก็ลงมือ แต่ผมเห็นว่าเป็นเรื่องน่าอาย” นายณัฐวุฒิกล่าว และว่า ที่จะบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่เบื้องหลังการชุมนุมจนเกิดความรุนแรงนั้น เกรงว่าสังคมโลกจะเห็นความจริงอีกด้านหนึ่งแล้วจะเห็นว่าเมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปต่างประเทศและเจอสื่อมวลชนต่างชาติสัมภาษณ์ก็มักจะไปไม่เป็น เช่นล่าสุดที่สถานีโทรทัศน์บีบีซีได้ถามเอาว่าจะรับผิดชอบการเสียชีวิตของประชาชนอย่างไร ตนอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ทบทวนดูว่าระหว่างนายกฯ ที่ถูกรัฐประหารกับนายกฯที่สมรู้ร่วมคิดกับกระบวนการยึดอำนาจ และรับอำนาจจากทหาร และจัดการกับประชาชนจนตายเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ แบบไหนควรจะแสดงความรับผิดชอบมากกว่ากัน