รายงานการเมือง
ส่งสัญญาณชักธงรบอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว สำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหลบหนีคดีชื่อก้องโลก การประชุมพรรคเพื่อไทยครั้งล่าสุด “ทักษิณ” สไกป์มาอีกครั้ง แต่สัญญาณเป็นไปในรูปแบบเดิม ตีธงลุยสุดซอย บ่งบอกอาการที่ซ่อนอยู่ในหัวใจเต็มเปี่ยม รอการกลับบ้านแทบไม่ไหวแล้ว
เรื่องตีโต้ศาลรัฐธรรมนูญนายใหญ่พรรคเผาไทยสั่งการให้เดินหน้าเต็มสูบ อย่าไปสน อย่าไปแคร์ โชว์บทห้าวให้เห็นไปก่อนเลย ไม่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งอะไรออกมา ยิ่งถ้าขืนออกมาเป็นลบก็พร้อมลุยแตกหัก ยุบเป็นยุบ สั่ง ส.ส. ผู้สมัคร ลงพื้นที่เก็บแต้ม เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ หากต้องเลือกตั้งใหม่
สัญญาณจาก “ทักษิณ” เข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ น่าสังเกตเหลือเกินว่า กรณีที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯสมองกลวง ไปปาฐกถาพิเศษในการประชุมประชาคมประชาธิป ไตยที่ประเทศมองโกเลียนั้น เหตุใดจึงดูกร่างแกร่งแข็งขืนถึงเพียงนั้น ก่อนหน้านี้ “ยิ่งลักษณ์” ไม่เคยพูดจาห้าวหาญ ฉะฉานขนาดนี้ เอาแต่ตีกรรเชียงหนีตลอด กระนั้นก็ตามชุดข้อมูลที่นำไปพูดก็ล้วนเป็นชุดข้อมูลเดิมๆ ที่เครือข่ายตระกูลชินวัตร และพรรคเพื่อไทยท่องกันเป็นสูตรคูณ อาจจะเรียงร้อยถ้อยคำใหม่นิดหน่อย ให้ดูสละสลวยสวยเก๋
แต่ยังลุยอำมาตย์แหลก แหกสถาบันเหมือนเดิม
ไม่แน่ใจว่า “ยิ่งลักษณ์” พูดไปด้วยอารมณ์ไหน เต็มใจหรือเต็มกลืน วันนี้ “ทักษิณ” ชี้นิ้วสั่งใส่หน้าน้องสาวให้ลุยได้แล้ว อยากกลับบ้านแล้ว ลอยคอกลางทะเลมันหนาว ปอดจะบวมตายอยู่แล้วไม่เข้าใจอีกหรือ น้องปู อาการ “ยิ่งลักษณ์” น่าจะโดนข่มขู่จากพี่ชาย !!
วันนี้เข้าสู่โหมดรุกฆาตประเทศไทยแล้ว “ทักษิณ” สั่งลุยรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน น่าสังเกตว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ วรชัย เหมะ ที่เสนอล้างมลทินให้ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบทางการเมือง กลับไม่ได้รับความสนใจมากนักจากนายใหญ่ กลับเป็น ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ “เหลิม บางบอน” ที่มาแรงแซงโค้ง ปาดหน้าเอาใจนายไปเต็มๆ
เพราะเนื้อหาท่าทีสอดรับกับความต้องการของ “ทักษิณ” ณ ยามนี้ ร่างนิรโทษกรรมนั้นยังเงื้อง่าราคาแพงอยู่ ช่วยเหลือเฉพาะประชาชน ไม่ช่วยเหลือแกนนำนักโทษ นั่นหมายความว่า “ทักษิณ” ไม่ได้อะไรเลย ดังนั้นจึงออกปากบอกให้สนับสนุนแบบเสียไม่ได้ นัยหนึ่งนั่นก็คือ ต้องทำเพื่อรักษามวลชนคนเสื้อแดงเอาไว้ ขืนไม่ทำก็จะโดนข้อหาเดิมๆ หลอกใช้ หลอกต้มคนเสื้อแดง
อย่างที่ว่าไป สิ่งที่ “ทักษิณ” มุ่งหวังจริงๆ คือการพาตัวเองกลับบ้าน ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ “เฉลิม” จึงโป๊ะเชะ ล้างกันใหม่หมด ทั้งเหลือง แดง มาร์ค เทือก แม้ว ดังนั้น “ทักษิณ” ยอมแลกทุกอย่างเพื่อพาตัวเองกลับบ้าน ปี่เชิดกลองรัว ตง...ตง...ตง...
กระนั้นการเดินหมากเกมนี้ไม่ง่ายแน่นอน เครือข่ายเฝ้าระวัง เฝ้าระแวง จับตาอยู่ไม่กระพริบ เตรียมตีธงสู้ศึกผนึกแนวต้าน ไม่มีทางปล่อยให้ นักโทษหนีคดีคิดการใหญ่ย่ามใจง่ายๆ จะตีกลองลุย หรือต้องตีฆ้องถอย เดี๋ยวมาวัดกัน ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หลายฉบับก่อนหน้านี้ โดนดองเค็ม ขี้เกลือเกาะอยู่ในสภา 4-5 ฉบับ และไม่มีแนวโน้มหนทางจะปัดฝุ่นมาพิจารณาใหม่ เพราะโดนเบรกจนกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว จะลุยใหม่ก็ต้องเขียนใหม่ แต่ทว่าเนื้อหาคงไม่หนีจากเดิม ต้องดูว่าแนวต้านจะหยิบยกเหตุผลใดมาปลุกระดมต้านทาน
จับกระแสแล้วการเมืองร้อนแน่ แผนรุกฆาตประเทศไทย ที่ “ทักษิณ” สั่งลุยแหลกแตกหัก พร้อมยุบสภา มันไม่น่าจะสุดโต่งขนาดนั้น มันน่าจะเป็นเกมมุกเดิมๆ ที่สร้างความตำบอน เพื่อต่อรองอะไรบางอย่าง ต้องเริ่มต้นเปิดหัวด้วยความรุนแรง ถ่อย เถื่อน ก่อน เพื่อบีบให้มีการเจรจาต่อรอง จากนั้นค่อยลดโทนลงเมื่อได้ข้อตกลงตามเงื่อนไข
การเมืองเล่นเกมบุกหักล้างกันอย่างเดียวไม่ใช่วิธีที่ฉลาด “ทักษิณ” ย่อมไม่ใช่คนโง่ ดังนั้นจึงฟันธงได้ว่า เป็นการรุกฆาตเพื่อต่อรอง อาจจะเป็นการกดดันขั้นสุดท้าย แต่ไม่ถึงขั้นแตกหัก ถ้าไม่ได้อย่างใจ ก็พร้อมสวมบทอันธพาล กุ๊ยใส่สูท รบกันให้หายแค้น
วันนี้ “ทักษิณ” ดีดลูกคิดคำนวณแล้วว่าถึงเวลาต้องลุย รัฐบาลบริหารงานมาเกือบครบ 2 ปี แล้ว ถึงเวลาสุกงอมที่จะเดินเกมเสี่ยงๆ เสียวๆ ไม่ทำวันนี้แล้วจะทำวันไหน จะรอทำตอนเป็นฝ่ายค้านหรือ งี่เง่าเกินไป!!
“ทักษิณ” มั่นใจว่าหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในอุ้งมือ กระแสความนิยมของรัฐบาลยังเดินไปได้ “ยิ่งลักษณ์” น้องสาวยังขายได้ในประเทศ ทั้งต่างประเทศยังให้ความเชื่อมั่น ฉะนั้นการส่งน้องไปฟ้องโลก ใส่สีตีไข่ ฟาดฟันฝ่ายตรงข้ามในประเทศให้ชาวโลกเข้าใจถูกบ้าง ผิดบ้าง อาจเป็นยุทธศาสตร์ โลกล้อมประเทศ นับหนึ่งดึงตัวเองกลับไทย ต้องจับตาแผนการขั้นต่อไป จะทิ่มทะลวงไปที่จุดไหน
แต่ก่อนอื่นใดต้องประคอง ยั้งๆ ไว้ก่อน รอกฎหมายการเงินเดินหน้าไปได้ก่อน เรื่องของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 เรื่อง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ยังค้างการพิจารณาอยู่ในสภา ฉะนั้นต้องเหยียบบ้างผ่อนบ้าง เมื่อผ่านแล้วค่อยเหยียบจมไมล์
เรื่องรัฐธรรมนูญนั้น ความจริง “ทักษิณ” ก็คิดแล้วว่า แก้ไปก็ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมากนัก ยิ่งแก้เป็นรายมาตรา ก็ว่ากันไปตามเรื่อง แก้ไปเพราะได้สัญญากับประชาชนไว้ แต่เมื่อมีอำนาจตุลาการเข้ามายับยั้ง เอาคานมาสอด นั่นก็กลายเป็นชนวนที่ต้องตีโต้แสดงพลังว่า “กูไม่กลัวมึง” ความแค้นที่สั่งสมไว้เป็นทุนเดิม ก็ระเบิดออกมา เพราะรู้สึกว่าโดนกระทำหลายครั้งหลายหนแล้ว
ปฏิบัติการตอกหน้าองค์กรอิสระ คงจะมีออกมาอยู่เรื่อยๆ เล่นบทหมูไม่กลัวน้ำร้อน ทางฟากฝ่าย “ทักษิณ” ต้องเตรียมตัวไว้บ้างสำหรับการเพลี่ยงพล้ำ เช่นเดียวกัน “ยิ่งลักษณ์” เมื่อหลุดชนักคดีโอนหุ้นให้สามีใน ป.ป.ช.แล้ว ก็ถือว่าสบายตัวไปแล้ว แต่กระนั้นก็ยังไว้วางใจไม่ได้ทั้งหมด อาจโดนเรื่องอื่นๆ ที่คาดไม่ถึงมาเล่นงานจนตกเก้าอี้
ตอนนี้จึงได้ “เยาวภาหน้าอวบ” มาสแตนด์บาย คอยเสียบยามฉุกเฉินแล้ว และถ้าร้ายที่สุดก็พร้อมยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ปฏิวัติก็ปลุกมวลชนมาลุยอีก เพราะทุกวันนี้ก็ยังหล่อเลี้ยงกระแสมวลชนไว้ได้อยู่
สัญญาณที่น่ากลัวและอันตรายต่อเครือข่าย “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทย คือ “สัญญาณเงียบ” ไม่ค่อยมีใครรับรู้ แต่คนคร่ำหวอดทางการเมืองสังเกตเห็นเค้าลาง ไม่ได้เคลื่อนมาแบบรุนแรง แต่กระแทกกระเทือนผิวหนังให้รับรู้ได้ ต้องถาม “ทักษิณ” ว่าเตรียมรับมือไว้พร้อมทุกด้านแล้วหรือยัง!!