“เต้น” อ้างจ่าฝูงแดงปัดสั่งสาวกป่วนศาล ขอโชว์กุ๊ยใต้ กม. จับตัวตุลาการไม่เหมาะ แนะศาลแจงข้อสงสัย ยันไร้อำนาจสั่ง โบ้ย ปชช.เคลื่อนไหวรับผิดชอบเอง ปัดไม่รับอำนาจศาล แต่ศาลไม่รับอำนาจนิติบัญญัติ ข้ามหัวอัยการ ชี้ปรองดอง “เหลิม” ดีรอฟัง แต่หนุนร่างแก๊งแดง-พท.ไปแล้วย้ำห้ามเปลี่ยน
วันนี้ (30 เม.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการชุมนุมกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) กดดันเรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ยุติการทำหน้าที่ว่า เป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนที่รวมตัวกันในนามของวิทยุชุมชน ไม่ได้มีมติจากแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไม่ได้มีการไปแทรกแซงใดๆจาก นปช.หรือพรรคเพื่อไทย ฉะนั้นสิ่งที่เราเฝ้ามอง คือ อยากจะให้ฝ่ายต้านและฝ่ายสนับสนุนเป็นไปภายใต้กรอบของกฎหมาย อย่าให้มีการกระทบกระทั่งหรือความรุนแรง หรือใช้คำพูดที่ทำให้สังคมตกใจ เช่น การที่จะบุกเข้าไปในศาลรัฐธรรมนูญ จะไปแตะเนื้อต้องตัวตุลาการ สิ่งเหล่านี้ไม่ควรให้เกิดขึ้น ถ้าเป็นการแสดงความเห็น เช่น ตนมีความเห็นส่วนตัวว่าแท้จริงแล้วตุลาการน่าจะหารือกันและทบทวนบทบาททุกอย่างที่ผ่านมา และนำมาอธิบายต่อสังคมว่าเป็นจริงอย่างที่ประชาชนตั้งข้อสงสัยหรือไม่ อย่างที่คนเขาพูดมาหรือเปล่า กระบวนการน่าจะเป็นเช่นนี้
เมื่อถามว่า ในฐานะแกนนำ นปช.จะสามารถเข้าไปเจรจาทำความเข้าใจได้หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมของประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพ โดยไม่ได้มีการหารือกันในกลุ่ม นปช. เมื่อประชาชนมากันเองและยืนยันว่าสิ่งที่ทำคือเสรีภาพภายใต้กรอบกฎหมาย หากมีอะไรทำความผิดเขาพร้อมที่จะรับผิดชอบด้วยตัวเอง เมื่อเป็นเช่นนี้พวกตนไม่มีอำนาจอะไรจะไปสั่งการชี้ซ้ายชี้ขวา เราพูดกันมาตลอดว่าแกนนำ นปช.ไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชาของคนเสื้อแดง แต่ถ้าประชาชนอยากจะเคลื่อนไหวตามความคิดของเขาที่คิดว่าเป็นเสรีภาพที่เขาสามารถทำได้เขาสามารถที่จะทำได้ เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมหน้าศาลไม่เกี่ยวกับ นปช. นายณัฐวุฒิกล่าวว่า กลุ่มดังกล่าวเป็นประชาชนที่เคยเคลื่อนไหวในนามของคนเสื้อแดง แต่การตัดสินใจชุมนุมครั้งนี้เป็นการตัดสินใจขององค์กรเฉพาะที่ตั้งขึ้นมาใหม่ในนามของ กวป. ที่ประกาศว่ามีเสรีภาพในการชุมนุมและ นปช.ก็ไม่มีอำนาจไปแทรกแซงสั่งการ
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ขอทำความเข้าใจกับประชาชนในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่า ส.ส. ส.ว. หรือสมาชิกรัฐสภาไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ขอยืนยันว่าเรารับอำนาจศาลฯ แต่เพียงว่าเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญทำโดยไม่มีอำนาจ ที่กฎหมายบัญญัติให้ และเป็นการล่วงละเมิดอำนาจสถาปนากฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้น ถ้าพูดให้ถูกต้องเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญไม่ยอมรับอำนาจนิติบัญญัติที่มาจากประชาชนจึงเกิดปัญหา ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินตามที่มีอำนาจ เช่น ยุบพรรคเราก็ยอมให้ยุบ ตัดสิทธิ์นักการเมือง แต่เรื่องการที่มาขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยื่นมือข้ามหัวอัยการสูงสุดไปรับเรื่องร้องเรียนโดยตรงจากประชาชน และอ้างมาตรา 68 ตนยืนยันว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องจะมาว่าสภาไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญเองไม่ยอมรับอำนาจนิติบัญญัติที่มาจากประชาชน
นายณัฐวุฒิกล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติ ฉบับของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่า โดยหลักการอะไรก็ตามที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นได้จริง ตนเห็นด้วย เพียงแต่ว่าขณะนี้เราได้แสดงท่าทีชัดเจนในการสนับสนุน พ.ร.ก.นิรโทษกรรมในนามของแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 40 คนที่ยื่นเสนอนั้น เพราะฉะนั้นถือว่าเราได้แสดงจุดยืนเรื่องนี้ไปแล้ว ส่วนกรณีของ ร.ต.อ.เฉลิมเราเห็นว่าเรื่องความปรองดองถ้าใครช่วยกันทำก็เป็นผลดี แต่โดยเนื้อหารายละเอียดจะขอนั่งฟังให้ท่านอธิบายชัดๆ อีกทีหนึ่ง เพราะตนก็เพิ่งจะเห็นเนื้อหารายละเอียดพร้อมกับประชาชนผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น
เมื่อถามย้ำว่า เท่ากับว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงใช่หรือไม่ ทั้งในส่วนของแกนนำ นปช.และ 40 ส.ส.เพื่อไทย นายณัฐวุฒิกล่าวว่า นปช.ได้ยืนยันชัดเจนแล้วเรื่องของ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมและยืนยันว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภา คงจะไม่มีการปรับเปลี่ยน แต่แนวทางของ ร.ต.อ.เฉลิมเราก็ยินดีที่จะรับฟัง