พยายามผลักดันตัวเองให้เป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง กลัวคนจะลืมหน้าลืมชื่อ เมื่อเห็นว่าเงียบหายไปจากหน้าสื่อนานเข้า ก็จะหามุกใหม่ หากิจกรรมใหม่ๆ มาเสนอหน้าต่อสังคมเสมอๆ
“เจ๊หน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่วันนี้พ้นโทษแบนทางการเมืองมาแล้ว แต่ยังไร้บทบาท ไร้ตัวตนในสนามการเมือง เป็นซากวัตถุโบราณที่รอวันค้นพบ แต่ชั่วโมงนี้ไม่มีใครแยแส!!
ช่วงที่ต้องพักร้อนยาวทางการเมือง “เจ๊หน่อย” ก็พลิกบทไปเล่นเป็นแม่พระ เชิญชวนสาวกร่วมทำบุญทำทาน หลายๆ กิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเสียงคนนินทา หมาดูถูก ว่าเป็นการทำบุญบังหน้าเพื่อเสนอหน้าออกสื่อ ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง อย่างน้อยๆ ก็มีข่าวคราวให้พบเห็น
แต่ที่มาตบะแตก ขันติกระเจิง ซ่อนกิเลสไม่มิด ก็ช่วงตอนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทยกำลังเลือกคำตอบสุดท้ายว่าจะส่งใครเป็นผู้สมัคร ก็เกิดแรงขับคำสั่งลับในฉากหลังจากตัว “เจ๊หน่อย” ให้เดินเกมล็อบบี้พรรคให้ส่งตัวเองลงสมัครให้ได้
เพียงแต่ไม่กล้าออกมาร้องแรกแหกปากด้วยตัวเอง ใช้วิธีส่งสมุนลิ่วล้อออกมาสอพลอยกยอนาย จนเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ทั้งในพรรค และออกสื่อ แต่หน่อยไม่สนพังเป็นพัง เพราะไม่ได้เปลืองตัวออกหน้าสู้เอง ใช้ลิ่วล้อไปลุยแทน แต่สุดท้ายก็ยื้อไม่ไหว ต้องม้วนหน้ากลับไปยังที่ตั้ง...
เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็ชวดมาครั้งหนึ่ง ด้วยคิดว่าถึงอย่างไรเสียลงก็ดีกว่าไม่ลง และยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าจะชนะ เมื่อเปรียบมวยกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. คนล่าสุด แต่เรื่องนี้ต้องไปถามชาวกทม.ดีกว่า
อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านพ้นมาแล้วก็ต้องเปลี่ยนเกม หาสนามเล่นกันใหม่ ซึ่งก็ยังไม่พบช่องทางอยู่ดี ต้องอยู่อย่างไร้ตัวตนกันต่อไป ทั้ง “เจ๊หน่อย” และลิ่วล้อใกล้ชิดโซนกทม. นับวันยิ่งถูกลด ถูกตัดบทบาท หลังจากออกลูกบ้าจนผู้ใหญ่ไม่ปลื้มในช่วงศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ผ่านมา
แต่ก็ไปไหนไม่ได้ ไปไหนก็ไม่รอด และไม่รู้จะไปไหน ก็เลยต้องเกาะกันอยู่ในพรรคเพื่อไทยต่อไปแบบนี้ แต่จะสังเกตเห็นว่าเมื่อมีโอกาส หรือมีกิจกรรมอะไรก็จะไม่รอช้าที่จะร้องแรกแหกกระเชอผ่านสื่อ เพื่อรักษาชื่อแซ่ไว้บนสนามการเมือง กรุยทางเอาไว้อยู่ตลอด...
ล่าสุด “เจ๊หน่อย” จะจัดงานวันเกิดแบบเอิกเกริกตูมตามกันที่อิมแพค เมืองทองธานี เรื่องนี้หลายคนมองในมิติเดิมๆ สร้างค่าสร้างราคาให้ตัวเอง เมื่อไม่มีใครมายกย่องเชิดชู ก็ต้องยกหางตัวเองกันให้สนั่นหวั่นไหว ไม่รู้ว่างานนี้จะมีเสียงปลื้ม หรือเสียงติฉินนินทามากกว่ากัน!!
น่าจะเป็นการ “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” ไม่ได้รับกล่าวขวัญถึง โดยเฉพาะคนในพรรคเพื่อไทยเองก็ยักไหล่ไม่สนใจ ถึงขั้นหมั่นไส้ด้วยซ้ำ วันนี้เหลียวซ้ายแลขวาไปในพรรคเพื่อไทย “เจ๊หน่อย” แทบไม่เหลือมิตร มีแต่ศัตรูที่จ้องแทงทั้งข้างหน้า ข้างหลัง พวกใหญ่ๆ ก็ไม่ต้องการให้ใครมา “ใหญ่ซ้อนใหญ่” งัดกันมาแต่ไหนแต่ไร
เฉลิม อยู่บำรุง ขุนศึกฝั่งธนฯ นั่นชัดเจน ไม่กินเส้น บริโภคเกาเหลาตลอดมา และนับวันก็มีแต่ชามโตขึ้นเรื่อยๆ ชาตินี้ญาติดีกันลำบาก ปมฝังใจกันมันมีอยู่เยอะ “ยิ่งลักษณ์” และ “เยาวภา” นายกฯและพี่สาว สองนางสิงห์ ก็ไม่ปลื้มแน่นอน สไตล์ผู้หญิงถ้าไม่ปิ๊งใคร ไม่ให้ใจแล้วก็ต้องให้เกือก!!
ด้วยภาพลักษณ์ตัวตนของ “สุดารัตน์” ที่ชอบเล่นบทเด่น สาระแนหน้าจอ ทำให้ไม่มีใครชื่นชอบซ้ำยังเกลียดชัง อีกทั้งพฤติกรรมตี 2 หน้า ต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก ยิ่งเพิ่มดีกรีความขยะแขยงขึ้นไปอีก หลายครั้งหลายทีแม้จะอยู่พรรคเดียวกัน แต่เหลี่ยมคูทางการเมือง ต้องเฉือนคม แก่งแย่งกันตลอด ร่องรอยความปริร้าวก็เล็ดลอดมาให้เห็นอยู่เนืองๆ
วันนี้ “เจ๊แดง” ออกมาเปิดหน้าเล่นเด่นเป็นสง่า ได้เป็นส.ส.เดินเข้าสภา สวมบทครูใหญ่ถือไม้เรียวไล่หวด ส.ส.ในสภา สร้างบารมีเพิ่มดีกรีความใหญ่ หากอยากเป็นรัฐมนตรี แค่ดีดนิ้วก็ต้องได้ แต่ใครหลายคนคิดว่า “เจ๊แดง” เตรียมเล่นบทที่สูงกว่านั้น แน่นอนว่าการกลับเข้าสู่สนามการเมืองหน้าฉากแบบจริงจัง จะเป็นตัวขับเน้นบารมีในตัวให้ร้อนแรงขึ้นไปอีก
นั่นเป็นสิ่งที่ “สุดารัตน์” อยากทำเช่นกัน การโชว์พาวเวอร์ในงานวันเกิดครั้งนี้ คงจะเป็นการเรียกแขกให้หันกลับมามองอดีตเจ้าแม่ กทม. ก่อนเดินแผนการเมืองขั้นต่อไป เร็วๆนี้จะมีการตัดสินคดีของ การุณ โหสกุล ลูกน้องในคอนโทรล “เจ๊หน่อย” ว่าจะต้องหลุดจากการเป็น ส.ส.กทม. เขตดอนเมืองหรือไม่
หาก “เก่งจอมถีบ” มีอันต้องหลุดวงโคจรไปจริงๆ “สุดารัตน์” ก็หวังว่าจะได้ลงสมัคร ส.ส.รับเลือกตั้งซ่อมแทน เพื่อให้กลับมามีที่นั่งที่ยืนในสนามการเมืองหน้าฉากกับเขาบ้าง เพราะที่ผ่านมาเจอเตะสกัด กีดกันมาตลอด หากได้เป็น ส.ส.จะทำอะไรมันก็ง่ายขึ้น
แต่แน่นอนว่าต้องผ่านด่านแรกจากการเห็นชอบของแกนนำ และคณะกรรมการบริหารพรรคเสียก่อน แต่ดูแล้วงวดนี้ “เจ๊หน่อย” น่าจะได้วีซ่าผ่าน ด้วยเพราะความเหมาะสมหลายๆ ประการ เขตดอนเมืองก็อยู่ในการกำกับดูแลของสายเจ๊อยู่แล้ว จะส่งใครอื่นก็ไม่รับประกันความชัวร์ “เจ๊หน่อย” ยังดูดีกว่าทุกคน
กระนั้นถ้าได้ลงจริงๆ ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้รับเลือกตั้งหรือเปล่า เพราะสนาม กทม.อะไรก็ไว้วางใจไม่ได้สำหรับพรรคเพื่อไทย ชาวบ้านยังเข็ดขยาดเครือข่ายเผาเมือง!!
วันนี้แม้ “สุดารัตน์” จะคุยกับใครในพรรคลำบาก แต่กับนักโทษหลบหนีคดี ทักษิณ ชินวัตร ที่เร่ร่อนอยู่ต่างแดน ยังคงต่อสายได้อยู่ สนิทใจบ้าง ไม่สนิทใจบ้าง ว่ากันเป็นจ็อบๆ ไป หากพูดจาหว่านล้อมให้เห็นความเหมาะสม ก็เชื่อว่า “ทักษิณ” จะเปิดไฟเขียวให้โอกาส “สุดารัตน์” กลับมาสาระแนหน้าจอ ลูกตื๊อลูกอ้อนของ “เจ๊หน่อย” ใครก็รู้แล้วว่าระดับเซียนเหยียบเมฆไร้ร่องรอย...
ถนนสายการเมืองของ เจ๊หน่อยแอนด์เดอะแก๊ง ทุกวันนี้ค่อนข้างตีบตัน เพราะไม่ได้เรืองอำนาจเฉกเช่นเก่าก่อน ไม่มีส.ส.เป็นกอบเป็นกำ ที่มีอยู่ในเครือข่ายก็ถูกดึงถูกดูด จากพันธุ์แท้เป็นพันทาง จากลูกผสมก็ย้ายไปค่ายอื่น ต้นทุนหน้าตัก “เจ๊หน่อย” จึงมีแต่หดหาย ทางเลือกจึงเหลือไม่มาก จากที่เคยเลือกได้ กระมิดกระเมี้ยนเล่นเชิง ถึงตอนนี้ต้องเลิกอาย กล้าๆ ด้านๆ เพื่อความอยู่รอด!!