xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ร่วมประชุมอาเซียนบรูไน คดีพระวิหารรอศาลโลก เปรยเน้นสันติ-ค้าขายชายแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปยังบรูไน เผยเตรียมผลักดันข้อเสนอให้คืบหน้า เชิญประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เดือนหน้า เร่งรัดแผนการสร้างความเชื่อมโยงอินโด-มาเลย์-ไทย ส่วนเรื่องปราสาทพระวิหาร รอศาลตัดสิน เปรยเน้นเรื่องสันติภาพและการอยู่ร่วมกัน อ้างยุโรปยังปรับแนวชายแดนเป็นการค้าขาย

วันนี้ (24 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน.6) โดยเที่ยวบินพิเศษที่ RTAF 230 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติบรูไน กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน บรูไนดารุสซาลาม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 22 ระหว่างวันที่ 24-25 เม.ย.ที่ประเทศบรูไน ในฐานะประธานอาเซียน เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ภายใต้หัวข้อหลัก “Our People, Our Future Together” เพื่อสะท้อนความสำคัญของบทบาทประชาชนในการขับเคลื่อนอาเซียน และกำหนดอนาคตของภูมิภาค เพื่อผู้นำที่เข้าร่วมประชุมจะได้ติดตามความคืบหน้า และการเร่งรัดสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้ในการประชุมที่ผ่านมา

โดยนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำอาเซียน และในวันที่ 25 เม.ย.นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 22 ที่สำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งนายกรัฐมนตรีจะหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีเมียนมาร์ ณ สำนักนายกรัฐมนตรี และจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle (IMT-GT) ครั้งที่ 7 ที่บรูไน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ไทยจะผลักดันสิ่งที่เคยเสนอ ให้มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม เช่น แผนปฏิบัติการ Drug-free ASEAN แผนปฏิบัติการเรื่องการค้ามนุษย์ การบริหารจัดการภัยพิบัติ การระดมทุนสำหรับการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งเป็นไปตาม 3 เสาหลักที่ประกอบด้วย เศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคง และสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งไทยจะเสนอให้มีการเชื่อมโยง 3 เสาหลัก ผ่านกิจกรรมทางวัฒนธรรม การท่องเที่ยว รวมทั้งการสนับสนุนและผลักดันด้านการอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือด้านการแพทย์ การสาธารณสุข และการศึกษา นอกจากนี้จะถือโอกาสนี้เชิญผู้นำอาเซียน มาร่วมประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Water Summit) ในเดือน พ.ค.ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการประชุมสุดยอดอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle หรือ IMT-GT) ครั้งที่ 7 ภายหลังการประชุมสุดยอดอาเซียน ว่า จะผลักดันการเร่งรัดแผนการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย ด้วยการเพิ่มเส้นทาง การสร้างทางหลวงพิเศษ การเพิ่มท่าเรือ การรวมตัวกันเพื่อเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า รวมถึงการสร้างมาตรฐานในการรับรองสินค้าและบริการต่างๆ เช่น อาหารฮาลาล ยางพารา สินค้าเกษตร การท่องเที่ยว และการอำนวยความสะดวกด้านการค้า การเดินทางระหว่างจุดผ่านแดน ส่วนเรื่องปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้นั้น ทั้ง 3 ประเทศจะเน้นความร่วมมือโดยรวม เพื่อให้เกิดความสงบและสันติภาพ

เมื่อถามถึงความขัดแย้งในส่วนภูมิภาคทางทะเลจีนใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานะที่ไทยผู้ประสานงานระหว่างอาเซียน-จีน ก็จะหารือเรื่องข้อสรุปและจุดยืนของกลุ่มประเทศอาเซียน ที่โดยหลักแล้วทุกประเทศก็มีความเห็นร่วมกัน ที่ผลักดันให้เกิดความร่วมมือทางด้านสันติภาพ โดยเฉพาะการเดินเรือ

ส่วนปัญหาในเรื่องปราสาทพระวิหารระหว่างไทยและกัมพูชานั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไทยและกัมพูชาได้หารือกันหลายครั้งแล้วว่า เราจะเน้นเรื่องสันติภาพและการอยู่ร่วมกัน โดยเฉพาะแนวพื้นที่ชายแดนทั้งหมด เรื่องข้อพิพาทกรณีปราสาทพระวิหาร เป็นเรื่องของกฎหมาย ที่จะต้องรอการตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศต่างเห็นพ้องที่จะทำให้ความสัมพันธ์ที่ดี เรามีเจตนารมณ์ตรงกัน อยากเห็นการค้าขายตามแนวชายแดน เกิดขึ้นอย่างสงบและสันติ ดูตัวอย่างประเทศในยุโรป ที่ปรับแนวชายแดนเป็นการค้าขาย สร้างความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ ตนเชื่อว่าความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ จะเป็นผลให้เกิดสันติภาพตามแนวชายแดน


กำลังโหลดความคิดเห็น