xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เหมารถบัสรับข้อหาดีเอสไอ “มาร์ค” ย้ำ รบ.แกล้งบีบร่วมนิรโทษฯ “บัญญัติ” ลั่นเอาคืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บรรดา ส.ส.ปชป.พร้อมใจนั่งรถบัสไปรับทราบข้อกล่าวหาดีเอสไอ คดีบริจาคเงินเข้าพรรค “อภิสิทธิ์” ย้ำพรรคถูกแกล้งอย่างต่อเนื่อง ชี้ไม่ถูกยุบเหตุไม่เกี่ยว กม.เลือกตั้ง ย้อนเป็นคดีพิเศษเพราะ รบ.ปู หวังบีบร่วมนิรโทษฯ “บัญญัติ” ลั่นฟ้องกลับแน่ ซัดไม่ยอมให้แจง ดีเอสไอลงมาทำเอง ตร.ทั่วไปยังไม่สน แถมจุ้นหน้าที่ กกต. เหตุตั้งธงอยู่แล้ว อัดทำมา 40 กว่าปีไร้ปัญหา

วันนี้ (23 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทยอยขึ้นรถบัสสีชมพู รวมทั้งสิ้น 28 คน เพื่อเดินทางไปยังสำนักงานคดีอาญาพิเศษ (1) อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นายไพฑูรย์ แก้วทอง นายเกียรติ สิทธีอมร นายโกวิทย์ ธารณาและนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม. เป็นต้น ส่วนอีก 16 คนได้ทำหนังสือแจ้งขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหาเนื่องจากติดภารกิจในต่างจังหวัด เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษา คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธาน ส.ส. ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้กำลังใจ ส.ส.ของพรรคด้วย

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกคนเห็นตรงกันว่าไม่มีใครมีเจตนาทำผิดกฎหมาย การดำเนินการเช่นนี้เป็นการกลั่นแกล้ง เห็นได้จากก่อนหน้านี้ในช่วงปิดสมัยประชุมที่แล้วดีเอสไอก็เคยแจ้งข้อกล่าวหาตน จากนั้นก็แจ้งต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. หลังจากชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ล่าสุดก็เชิญ 44 ส.ส.ของพรรคไปแจ้งข้อกล่าวหาเดียวกัน ดังนั้นจึงค่อนข้างชัดว่าการดำเนินการของดีเอสไอขณะนี้เป็นลักษณะของการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง แต่เชื่อว่าคงไม่ถึงกับยุบพรรค แม้ว่าใน 44 ส.ส.จะเป็นกรรมการบริหารพรรคเนื่องจากเป็นเรื่องของบุคคลที่บริจาคเงินและไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนคดีนี้จะเป็นใบสั่งการเมืองหรือไม่ ตนก็ขอตั้งข้อสังเกตว่าคดีนี้ปกติก็ไม่เป็นคดีพิเศษ แต่ว่าเป็นคดีพิเศษขึ้นมาโดยมติของคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และก็คงจะมอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ดำเนินการ และได้ออกมาระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังจะต้องโดนคดีต่างๆ และได้พูดเรื่องนิรโทษกรรม ถือเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการบีบให้พรรคประชาธิปัตย์ยอมรับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะมีความพยายามกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกคนไม่หวั่นไหวและพร้อมที่จะต่อสู้

ด้านนายบัญญัติกล่าวว่า ตนเห็นว่าพนักงานดีเอสไอที่ทำคดีเหล่านี้ควรแก่การถูกฟ้องร้อง เพราะถือเป็นการทำผิด ม.157 กฎหมายอาญา คือปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เพราะโดยวิสัยและพฤติการณ์ของคนที่เป็นพนักงานสอบสวนก่อนที่จะตั้งข้อกล่าวหาใครก็ควรที่จะต้องมีการสอบสวนข้อมูลใดๆ มาพอสมควรก่อน เช่น สอบถาม ส.ส.ที่สภาฯ ว่าขั้นตอนการหักเงินจากบัญชีเพื่อบำรุงพรรคมีขั้นตอนอย่างไร ทำมากี่มากน้อย นานหรือยัง แต่กลับมาทำเป็นคดีพิเศษ จึงค่อนข้างผิดปกติที่ให้ตั้งดีเอสไอเจตนารมณ์เพื่อให้ทำคดีใหญ่ๆ ที่มีความสลับซับซ้อน ไม่ใช่ตั้งมาเพื่อทำคดีที่แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามโรงพักยังไม่ทำ เพราะมีคณะกรรมการการเลือกตั้งดูแลโดยตรงตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่นี่แค่เห็นว่าเข้าข่ายข้อกฎหมายว่าไม่ทำเป็นเช็คขีดคร่อมก็ตั้งเป็นคดีพิเศษทันที ทั้งที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ได้บริจาคเงินอุดหนุนให้พรรคตามกำลังทรัพย์มาตั้งแต่ยังไม่มีกฎหมายนี้ออกมาบังคับว่าต้องทำเป็นเช็ค หักเงินเดือน ส.ส.มาตั้งแต่ตนเข้ามาอยู่พรรคเมื่อ 40 ปีที่เป็น ส.ส.สมัยแรก จนทางสภาฯ เองก็เข้าใจว่าเป็นประเพณี

“กรณีนี้เข้าใจว่าดีเอสไอพยายามทำเรื่องสอบก่อนหาหลักฐานมัดก่อนที่ กกต.จะสอบ เพราะเกรงว่าถ้าปล่อยให้ กกต.สอบแล้วจะยกคำร้องก็ไม่สมวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ดังนั้นเรื่องนี้มันชัดเจนและต้องฟ้องกลับอย่างแน่นอน” นายบัญญัติย้ำ







กำลังโหลดความคิดเห็น