“พานทองแท้” จี้ “กรณ์” ตอบไปทำอะไรฮ่องกง ด้าน “กรณ์” ยันไม่มีอะไรต้องคุยกับนักโทษ ระบุแค่นั่งดื่มน้ำชา แถมอยู่กันคนละชั้นกับทักษิณ เชื่อปั่นข่าวหวังกลบข่าวเลว ขณะที่เมียกรณ์จวกไปรอพบบุคคลที่คนเกือบครึ่งประเทศรังเกียจ จะกล้านั่งกันแบบเปิดเผยกลางล็อบบี้โรงแรมแบบนี้เชียวหรือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra ถึงกรณีมีกระแสข่าว นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกงว่า
“ผมไม่ทราบว่าพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ คลุมเครือๆ ทำไมนิยมทำกันนักครับพรรคฯ นี้ คราวก่อนก็ทีนึง ออกมาปล่อยข่าวเองว่าสุภาพสตรีสูงศักดิ์มาขอสุเทพให้ไปพบทักษิณ ผมถามไปถามมา ทำท่าจะกลายเป็นมาขอทักษิณให้สุเทพเข้าพบเสียมากกว่า
มาคราวนี้อีกเหมือนกัน ไปฮ่องกงจะไปพบหรือไม่พบใคร ได้เข้าพบหรือไม่ได้เข้าพบ ก็ชี้แจงกันไปตรงๆ ครับ ไม่ใช่พูดกันงึมงำๆ ข้ามศพผัวศพเมีย เรียกเสียงกรี๊ดสลิ่มเข้าว่า
จะชี้แจงกับพี่น้องประชาชนทั้งทีพูดไม่เคลียร์แบบนี้ ไม่ดีกับทุกๆฝ่ายครับ ฝั่งผมนะไม่เท่าไหร่ครับ หนักเเน่นกันอยู่เเล้ว เเต่สลิ่มทั้งหลายอ่ะดิ ยิ่งขวัญอ่อนกันอยู่
ดร.เสรี อดีตแฟนคลับตัวยง อุตส่าห์ถามด้วยความเป็นห่วง กลับโดนสลิ่มบ้องตื้นขี้ตกใจทั้งหลายรุมด่ากันกระเจิง จนถอนสมอประกาศเลิกเชียร์ ปชป.กันไปคนนึงแล้ว
อธิบายกันแค่นี้ทำกันไม่เป็น ก็อย่าจะไปคิดทำการใหญ่กันเลยครับ ก็แค่บอกไปตรงๆว่า วันนั้นที่ฮ่องกงไปทำอะไร บังเอิญหรือจงใจ ที่ไปนั่งเล่นอยู่เป็นชั่วโมง 2 ชั่วโมง ไปดักรอพบใครหรือเปล่า ได้เข้าพบหรือไม่ได้เข้าพบ ก็พูดความจริงไปเท่านั้นเอง
ฝั่งผมชี้แจงชัดเจน "จะบังเอิญอย่างไร ก็ไม่ให้พบ" เคลียร์มั้ยครับ??
ปล. ถ้านึกไม่ออกว่าวันไหน ดูจากในรูปก็ได้ บังเอิญมีคนถ่ายภาพวิวแล้วติดมาครับ”
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในวันเดียวกันนี้เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Korn Chatikavanij ชี้แจงประเด็นกล่าวหาไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกงว่า
“ช่วงที่ผ่านมาผมถูกพาดพิงพอสมควร ว่าเป็นคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทักษิณที่สมศักดิ์ เทพสุทินอ้างว่าไปพบทักษิณบ่อยๆ หรือไม่ เดิมทีไม่คิดจะชี้แจงเพราะเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ และภรรยาผมก็ได้ชี้แจงอย่างเด็ดขาดไปแล้วตั้งแต่ข่าวเริ่มปรากฏ แต่ดูเหมือนมีการพยายามขยายผลโดยผู้ที่ไม่หวังดีกับผมกับพรรคประชาธิปัตย์ และไม่หวังดีกับแนวร่วมที่มั่นคงของเราอย่างเช่นอาจารย์เสรี วงษ์มณฑา ผมจึงขอสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้เพื่อความสบายใจของผู้ร่วมอุดมการณ์ทุกคน
ผมยืนยันว่าไม่เคยไปพบหรือขอพบ ไม่เคยไปคุย ไปหา ไปเจรจา ไม่เคยคุยทางโทรศัพท์ ไม่เคยสไกป์ โฟนอิน หรือส่งข้อความใดๆ ทั้งสิ้นกับทักษิณ
ล่าสุดเมื่อสามอาทิตย์ก่อน ที่โรงแรม Intercontinental ที่ฮ่องกง ผมนั่งดื่มน้ำชาอยู่กับภรรยา ขณะที่ทักษิณอยู่ในห้องตู้กระจกชั้นลอย ห่างจากผมไปหนึ่งชั้น ระยะประมาณ 20เมตร มีนักการเมือง และนักธุรกิจรอแถวเข้าพบ เมื่อดื่มน้ำชาเสร็จผมก็ลุกไป เพราะไม่ได้พักอยู่โรงแรมนั้น แต่ภรรยาอยากไปเพราะเป็นโรงแรมที่มีวิวข้ามจากฝั่งเกาลูนมาทางฝั่งฮ่องกงที่สวยที่สุด (รูปประกอบโพสต์นี้คือรูปที่ภรรยาผมถ่ายเล่นเพื่อลง instagram จากที่ที่เรานั่งอยู่) และผมก็ไม่เคยปฏิเสธว่า 'เห็น' ทักษิณที่นั่น ก่อนลุกไปก็ยังได้ SMS มาหาท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ แจ้งให้ท่านทราบว่าเห็นทักษิณอยู่ที่ฮ่องกง คุณอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย
ผมอยากจะบอกว่า ผมไม่รู้จะไปพบทักษิณทำไม ไม่มีอะไรต้องพูดกัน
ถามว่าเมื่อเห็นว่ามีทักษิณอยู่ในที่นั้น ทำไมไม่เดินหนีออกมา ก็ต้องตอบว่า ผมไม่ใช่คนอย่างนั้นครับ ผมและภรรยาไม่มีเหตุที่จะทำให้ต้องหลบหน้าหลบตาใคร เรานั่งอยู่ใน lobby โรงแรมอย่างเปิดเผย ไม่มีความจำเป็นต้องหลบซ่อนหรือหลีกทางให้ใคร
แต่ถ้าผมเขียนอย่างนี้แล้วยังมีคนไม่เชื่อ ก็ช่วยไม่ได้แล้วครับ ดีที่สุดก็ดูท่าที่การทำงานของผมต่อไปแล้วกัน นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มากกว่าการชี้แจงใดๆทั้งสิ้น
ส่วนการที่มีการพยายามปั่นข่าวนี้ ก็เพราะหวังจะทำให้พวกเราเองเคลือบแคลงใจ แตกแยก ไม่สามัคคี
คนเราสุดท้ายก็ต้องคิดเอาเองครับ ว่าอะไรเป็นอะไร ใครได้ประโยชน์จากข่าว ใครเสียประโยชน์ ไม่อย่างนั้นก็เป็นเหยื่อเขาไปตลอด
ที่สำคัญผมระแวงกับ 'ข่าว' นี้เพราะผมว่ามันไร้สาระเกินไป จนทำให้ต้องคิดว่าเขากำลังกลบหรือเบี่ยงเบนข่าวหรือการกระทำอะไรอยู่”
ขณะที่ นางวรกร จาติกวณิช ภรรยาของ นายกรณ์ จาติกวณิช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra ระบุว่า ตกลงต่อไปนี้ ถ้า "บังเอิญ" ไปเจอพ่อเขาเมื่อไหร่ คงต้องแสดง "ความรังเกียจ" ให้ชัดเจนด้วยการลุกหนีทันที ไม่งั้นเขาจะนึกว่า เราอยากพบพ่อเขา (ในที่สาธารณะเช่นนั้น) #คงจะปั่นข่าวโง่ๆนี้มากลบเรื่องเลวๆอะไรบางอย่าง #หรือว่าโง่จริง ไม่แน่ใจ
คนมันไม่อยากให้จบ ...ถ้าคนเขาไม่รังเกียจ เขาจะออกมาปฏิเสธข่าวนี้ทำไม และถ้าเขาไม่ได้อยากเป็นข่าวแบบนี้ จะไปนั่งอย่างเปิดเผยอยู่ที่นั่นเพื่ออะไร
ต่อไปนี้ เวลาไปต่างประเทศนอกจากเช็กลมฟ้าอากาศแล้ว ต้องเช็กข้อมูลการเร่ร่อนของนักโทษชายหนีคดีด้วยว่ามันอยู่แถวไหน ระวังมันฉวยโอกาสเอาเราไปแอบอ้างว่าอยากไปหา #นึกว่าติดแต่ยา #ไม่นึกว่าขี้ตู่ด้วย
ทำไมเขาถึงคิดว่า คนอยากไปหาพ่อเขา สงสัยอยู่เหมือนกันว่า แม่เขาเองอยากไปไหม หรือต้องไปแบบหลบๆ ซ่อนๆ ถึงไม่มีข่าว ถ้าจะไปรอพบบุคคลที่คนเกือบครึ่งประเทศเขารังเกียจกัน เราจะกล้านั่งกันแบบเปิดเผย กลางล็อบบี้โรงแรมแบบนี้เชียวหรือคะ เขากำลังกลบข่าวหรือ พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของสาธารณะจากเรื่องอะไรด้วยข่าวที่ไร้สาระแบบนี้อยู่ใช่หรือไม่”