“ลูกชายแม้ว” อารมณ์ค้าง ระบายความอัดอันใส่เฟซบุ๊ก รับ พท.ทำดีที่สุด ยกคำ “โต้” เชื่อแบบเดิม เลือกแบบเดิม เชื่อชาวกรุงไม่ชอบผลงาน “คุณชาย” เลือกเพราะถูก ปชป.ปั่นกระแสความกลัว ตามงานถนัด อ้างมุกเสียงแตกจนคะแนนพุ่ง ย้อนคำพูดหยุดผูกขาดประเทศ ปชป.ห้ามเป็น รบ.
วันนี้ (4 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra ระบุว่า “กราบขอบพระคุณทุกคะแนนเสียงที่มีให้กับเบอร์ 9 ครับ พวกเราทุกคนทำดีที่สุดแล้วครับ ทั้งตัวผู้สมัครฯ เอง แรงเชียร์จากผู้สนับสนุนกลุ่มต่างๆ การมีส่วนร่วมของคนในพรรคฯ ผมบอกอย่างมั่นใจเลยว่า ทุกภาคส่วนได้ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างดีที่สุดแล้ว ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นผู้ชนะ
ผมนึกถึงสิ่งที่คุณสุหฤท ผู้สมัครเบอร์ 17 ได้พยายามบอกกับชาวกรุงเทพฯ อยู่ตลอดเวลาว่า “เชื่อแบบเดิม เลือกแบบเดิม ได้กรุงเทพฯแบบเดิม” ผมเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบแบบเดิมหรอกครับ ใครจะไปเชื่อว่าคนกรุงเทพฯจะชอบ กล้องดัมมี, หรือชอบสนามฟุตซอลที่จนถึงป่านนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ หรือแม้กระทั่งการรีทัชคนเสื้อแดงให้กลายเป็นใส่เสื้อเขียวไปเชียร์ผู้ว่าฯ
ผมเชื่อว่า คนกรุงเทพฯ อยากได้กรุงเทพฯ แบบใหม่ แต่จำใจต้องเลือกแบบเดิมเพราะความกลัว และผมไม่เชื่อว่าคนกรุงเทพฯ จะประทับใจผลงานของผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ ถึงขนาดหาคะแนนเพิ่มได้จาก แปดแสน เป็นล้านสองครับ
วันนี้ตอนที่หย่อนบัตรเลือกตั้งเสร็จ นักข่าวมาสัมภาษณ์ ผมได้บอกว่ารักใครชอบใครก็ขอให้เลือกคนนั้น อย่าเลือกคนใดคนหนึ่ง เพียงเพราะความกลัว ซึ่งผมหมายถึงความกลัวแบบไม่มีเหตุผล หรืออาจพอมีบ้าง แต่เมื่อมีคนมาพูดจาให้รู้สึกกลัวจนเกินกว่าเหตุ คนเราจะเกิดความตระหนกและตัดสินใจผิดพลาด อย่างที่เรารู้กันดีก็เช่น การกลัวผี, กลัวความมืด เป็นต้น
ในทางการเมืองความกลัวแบบนี้ ถูก "ผู้ช่ำชองในการเลือกตั้ง" นำมาใช้ในลักษณะ Negative Campagne (หาเสียงทางด้านลบ) จนประสบผลสำเร็จมาโดยตลอด เช่น ปรีดีฆ่าในหลวง, จำลองพาคนไปตาย, ไม่เลือกเรา เขามาแน่ ฯลฯ จนถึงครั้งนี้ก็สำเร็จเช่นกันคือ "เลือกผู้ว่าฯ คนละพรรคกับรัฐบาล เพื่อป้องกันการผูกขาดประเทศ" ตามด้วยการบีบไม่ให้ประชาชน เลือกผู้สมัครที่ตนชื่นชอบแต่โอกาสชนะน้อย โดยใช้เหตุผลว่า "ไม่ให้เสียงแตก" จึงทำให้คะแนนอันดับ 3 มีเพียงแสนกว่าคะแนน ขณะที่ ที่ 1 และที่ 2 ทะลุล้านทั้งคู่!!
ในภาพรวมของทั้งประเทศ ผมว่าก็ดีเหมือนกันครับ เพราะอีก 2 ปีกว่าๆ จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.กันอีกครั้ง พรรค ปชป.ซึ่งชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯในครั้งนี้ จะต้องแสดงสปิริต โดยแสดงเจตจำนง ที่จะมุ่งหน้าเป็นฝ่ายค้านเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าปชป.เสนอตัวเองเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ จะเป็นการกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะ ปชป.พูดไว้เองว่า การที่ผู้ว่าฯกับนายกฯอยู่พรรคฯเดียวกันนั้น เป็นการ"ผูกขาดประเทศไทย"
รอดูกันว่าในการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งหน้า หากพรรคประชาธิปัตย์ เกิดอยากเป็นรัฐบาลขึ้นมา จะ "รีทัช-ตัดต่อ" คำพูดของตัวเอง ที่หลอก "กินเปล่า" คะแนนจากคนกรุงเทพฯในครั้งนี้ ว่าอย่างไรครับ”