xs
xsm
sm
md
lg

แยกบทบาทประกันความเสี่ยง แดงคุมเกม-ปู นายกฯ พริตตี้!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

แม้ว่าได้เห็นอาการอิดออดของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้งพูดออดอ้อนขอโอกาสนั่งเก้าอี้ต่อไป โดยอ้างว่าได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และเห็นว่าการเปลี่ยนตัวนายกฯ ทำได้ไม่ง่าย คำพูดแบบนี้ความหมายก็คือ ติดใจและเริ่มสนุกกับการสถานะที่เป็นอยู่มานานเกือบสองปีแล้ว รวมทั้งมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ว่าตัวเองกำลัง “เอาอยู่”

อย่างไรก็ดี การกลับเข้ามาสู่สนามการเมืองอย่างเต็มตัวของพี่สาว คือ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หลังจากถูกเว้นวรรคการเมืองมานาน 5 ปี ประเดิมด้วยการลงสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ ในเก้าอี้เดิมของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนกำลังจับตามองว่าเธอกำลังเข้ามาคุมเกมทั้งในพรรค ในสภา และในรัฐบาล รวมไปถึงการเตรียมการเอาไว้สำหรับการเป็นนายกฯสำรอง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ ยิ่งลักษณ์ก็จะดัน “เจ๊แดง” ลงไปเสียบแทนประเภทที่ว่าไม่ให้ตกหล่น อำนาจไม่ให้พ้นไปจากคนในครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร เป็นอันขาด

หากคิดกันแบบยุทธศาสตร์แบบเห็นแก่ตัวของคนในครอบครัวนี้ โดยเฉพาะ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นนักธุรกิจการเมือง ก็ต้องเดินแบบนี้อยู่แล้ว เพราะเมื่อมองดูแล้วนาทีนี้ถือว่า เยาวภา มีความพร้อมมากที่สุด เนื่องจาก “น้องเขย” คือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีของเจ๊แดง ยังไม่พ้นโทษแบน ยังติดอยู่ในบ้านเลขที่ 109 ต้องรอไปถึงเดือนธันวาคม แต่ในภาวะการเมืองที่เริ่มมีความเสี่ยง มีเดิมพันสูงงวดเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ต้องรีบตัดสินใจอย่างที่เห็น

ที่ผ่านมาหากว่าไปแล้ว คนอย่าง เจ๊แดง-เยาวภา เข้ามามีบทบาทในการแบ่งเค้กทางการเมืองในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งในวงการรับรู้กันอยู่แล้ว เพราะพิสูจน์ได้จากวันเกิด หรือในเทศกาลสำคัญ จะมีนักการเมือง ข้าราชการมากมายตบเท้าเข้าไปอวยพร และในทางการเมืองแทบทุกสายตาล้วนจับจ้องมาตั้งนานแล้วว่า “ก๊วนเจ๊แดง” ถือว่ามีพลังไม่เบา หากพูดกันตรงๆ อาจถือว่ามีอำนาจมากที่สุดด้วยซ้ำไป เพราะมีรัฐมนตรีในสังกัดในตำแหน่งสำคัญหลายคน เท่าที่เห็นและตั้งข้อสังเกตก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่กำลังดูแลในเรื่องโครงการรับจำนำข้าว

ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเสียงนินทาในเรื่อง “ร้อยชักสิบ” หรือไม่ ให้ประเมินกันเอาเอง

ที่น่าสนใจก็คือ ในช่วงที่ เยาวภา เข้ามาถือว่าเป็นช่วงที่มีเรื่องสำคัญที่เกี่ยวพันทั้งอำนาจ และผลประโยชน์จำนวนมหาศาล เข้าสภาพอดี ไม่ว่าจะเป็นโครงการเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เปลี่ยนวิธีการใหม่ เป็นการเสนอแบบรายมาตรา เข้ามาตบตา รวมไปถึงเรื่อง ร่าง พระราชบัญญัตนิรโทษกรรม ที่เป้าหมายสูงสุด ต้องการลบล้างความผิดให้กับ ทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งสามีของเธอคือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั่นแหละ ทุกเรื่องล้วนสำคัญ มีเดิมพันสูง มันก็ต้องใช้คนที่ไว้ใจได้เท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ ทักษิณ ก็เพิ่งออกมาพูดเองว่า ไว้ใจคนนอกไม่ได้ เพราะปากอย่าง ใจอย่าง นั่นคือไม่อยากให้กลับบ้าน เพราะกลัวว่าตัวเองจะหมดความสำคัญ

ขณะเดียวกัน ถ้ามองในมุมของเยาวภาเองก็ต้องบอกว่าเป็นความปราถนาส่วนตัวอยู่แล้ว สำหรับภารกิจดังกล่าว เพราะเท่ากับว่าเป็นการกระชับอำนาจ และต่อยอดไปอีกเรื่อยๆ ดังนั้นหากไม่นับกลุ่มของ พจมาน ณ ป้อมเพชร แล้วก็ต้องบอกว่า ก๊วนเจ๊แดงนี่แหละมีอิทธิพลมากที่สุด ดังนั้น ถ้ามองอีกมุมหนึ่งด้วยอิทธิพลดังกล่าวทำให้ไม่แน่ใจว่าการเข้ามาคุมเกมคราวนี้เป็นความสมัครใจ หรือว่าเป็นความต้องการของ ทักษิณ สั่งให้เข้ามากันแน่ หรือว่าทั้งสองอย่างประกอบกัน

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากสถานะของยิ่งลักษณ์ นับจากนี้ไปก็ต้องบอกว่า เริ่มสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากกรณีเงินกู้ 30 ล้านบาท และเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ที่เกิดการทุจริตมีปัญหาในด้านงบประมาณ ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังตรวจสอบ และใกล้สรุปเต็มทีแล้ว ซึ่งหากเกิดแจ็กพอตขึ้นมารับรองยุ่งแน่

นอกเหนือจากนี้ จากคำพูดที่ลอยลมออกมาทางเฟซบุ๊กของ พานทองแท้ ชินวัตร ยอมรับในช่วงที่มีการเปิดตัว เยาวภา ลงเลือกตั้งซ่อมว่า ถึงเวลาต้องมี “นายกฯ สำรอง” แล้ว ขณะที่ ยิ่งลักษณ์ และคนใกล้ชิด อย่างเลขาธิการนายกฯ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ ต่างพยายามบอกปัด โดยเฉพาะ ยิ่งลักษณ์ ถึงกับบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่าย หากจะมีการเปลี่ยนแปลง และย้ำว่า เธอได้รับฉันทานุมัติจากชาวบ้านพร้อมโอดครวญขอโอกาสนั่งเก้าอี้ต่อไป

ทั้งท่าทีและคำพูดดังกล่าวของยิ่งลักษณ์ ถือว่าแปร่งๆ ผิดสังเกต เหมือนกับว่ากำลังถูกกดดันเข้ามาโดยเฉพาะคนในครอบครัวด้วยกันเอง ทั้งพี่ชาย และพี่สาว ที่ต้องการให้เดินไปตามทางที่กำหนดเอาไว้ให้ ขณะเดียวกันสำหรับเธอ นาทีนี้หากพิจารณาให้ดี ในบางอารมณ์เหมือนกับว่าต้องการเป็นอิสระ ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า มีนายกฯ คนเดียว อีกทั้งยังมีทีมงานคนใกล้ชิดคอยเป็นกุนซือทุกเรื่อง ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าเธอก็ทำได้ และมั่นใจว่าการเดินเกมแบบประนีประนอมอย่างที่เป็นอยู่ เป็นการยืดหยุ่นประคองสถานการณ์รักษาอำนาจให้นานที่สุด ขณะที่ฝ่ายทักษิณ ไม่ได้คิดอย่างนั้นเพราะมั่นใจว่าตัวเองคุมเกมได้หมดแล้ว สามารถหักด้ามพร้าด้วยเข่าไม่ต้องเกรงใจใคร ที่สำคัญหากเวลาทอดยาวไปโอกาสก็ยิ่งริบหรี่ ที่เห็นได้ชัดก็คือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังมีความเห็นต่างกันอยู่

ดังนั้น หากประเมินสถานการณ์เท่าที่เป็นอยู่ แม้ว่ายังไม่ชัด ไม่อาจฟันธงได้เต็มร้อยว่าหลายเรื่องที่ประดังเข้ามาทั้งเรื่องเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงการที่เจ๊แดง ลงสนามการเมืองอย่างเต็มตัว ว่าต้องการเข้ามาเป็นนายกฯ สำรอง เพื่อรอเสียบแทน ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งเป็นการประกบการทำงานของคนในครอบครัวหรือไม่ หรือเป็นความสมัครใจของ ยิ่งลักษณ์หรือไม่ แต่อย่างน้อยก็เริ่มทำให้เกิดความอึดอัดขึ้นมาบ้างแล้ว

แต่ถึงอย่างไรสำหรับ ทักษิณ มีแต่กำไร เพราะอย่างน้อยเป็นการประกันความเสี่ยงได้อย่างดี หากมีอุบัติเหตุ ไม่ใช่หรือ!!
กำลังโหลดความคิดเห็น