“สุรนันทน์” โบ้ย เอกสิทธิ์ ส.ส.ชงเลื่อนญัตติ พ.ร.บ.นิรโทษฯพิจารณา ชี้การเมืองไม่ระอุ ย้ำสภามีกลไกเพื่อประโยชน์สูงสุดชาติ ยัน รบ.อยากเห็นความปรองดอง ชู ให้อภัยไม่ใช่เรื่องผิด หนุนคนไทยกลับมารักกัน ปัดจุ้น “อลงกรณ์” แนะ ปชป.ปฏิรูปพรรค เย้ยอ่อนปวกเปียกแผลเต็มตัวถึงต้องทำ ชี้ฝ่ายค้านเข้มแข็งทำให้ ปชต.แข็งตาม แนะ อย่าค้านด้วยแค้น ยึดสติ
วันนี้ (15 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร เลื่อนญัตติ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้นมาพิจารณา อาจทำให้การเมืองร้อนแรงขึ้นว่า การเมืองจะไม่ร้อนแรงถ้าทุกคนตั้งสติและใช้เหตุผล ตนคิดว่ากลไกของสภามีอยู่ ซึ่ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นกลไกของสภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังมีการพิจารณากันอยู่ ส่วนจะเลื่อนขึ้นมาหรือไม่นั้นเป็นเอกสิทธิและกติกาของสภา ซึ่งตนคิดว่า ส.ส.ทุกคนจะต้องมีความรับผิดชอบในการที่จะถกเถียงกันว่า อะไรเป็นประโยชน์สูงสุดของประเทศ แต่อีกมุมมองหนึ่งรัฐบาลอยากเห็นความปรองดอง ตั้งแต่หาเสียงจนการแถลงเป็นนโยบาย ก็พูดถึงเรื่องนี้ซึ่งการให้อภัยก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะฉะนั้นแนวทางไหนที่จะทำให้เกิดการปรองดอง ทำให้คนไทยกลับมารักสามัคคีกันได้ รัฐบาลก็พร้อมที่จะสนับสนุน แต่กลไกที่เป็นเฉพาะเรื่องของกฎหมายก็คงอยู่ที่สภา
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงหรือไม่ในเรื่องนี้ เลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า นายกฯ ไม่ห่วงแต่อยากเห็นทุกฝ่ายพูดกันภายใต้กรอบกติกา เพราะฉะนั้นถ้าเป็นเรื่องในสภา ก็ต้องถกเถียงกันในสภาให้จบ ไม่ต้องการที่จะให้มีกลุ่มใด ออกมาประท้วงกันบนท้องถนนอีก และเชื่อว่าคนไทยวันนี้ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก ดังนั้นถ้าจะมีความร้อนแรงทางการเมือง ก็เป็นความร้อนแรงภายใต้กติกาของระบอบประชาธิปไตย ที่มีรัฐสภาเป็นตัวดำเนินการ ส่วนกลไกต่างๆ ที่จะทำให้เกิดความปรองดองนั้น ในพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการเสนอหลายกลไก เพราะฉะนั้นกลไกที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อย ที่อาจจะแตกต่างกันก็เป็นหน้าที่ข้องสภาต้องไปถกเถียงกันให้จบ
เลขาฯ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลาง เสนอให้ประชาธิปัตย์ปฏิรูปพรรคอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมว่า เป็นเรื่องปกติที่องค์กรต่างๆ หรือพรรคการเมืองก็ต้องปรับปรุงตัวเองเสมอ ดังนั้นถ้าจะปรับปรุงได้ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้าปรับปรุงแล้วทำประโยชน์ให้ประชาชนมากขึ้นก็เป็นเรื่องที่ดี
“ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ผมคงไม่ไปก้าวล่วงหรือวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องภายในพรรคที่ต้องตกลงหารือกัน อย่างน้อยที่สุดถ้ามีข้อคิดเห็นที่จะทำให้กลไกต่างๆดีขึ้น ก็เป็นเรื่องดี เพราะฝ่ายค้านที่เข้มแข็งเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้ระบอบประชาธิปไตยเข้มแข็ง แต่ฝ่ายค่านที่อ่อนปวกเปียกมีแผลเต็มตัว ก็คงต้องไปปฏิรูปตัวเอง วันนี้ฝ่ายค้านผมคิดว่าอย่าค้านด้วยความแค้น แต่ต้องค้านด้วยเหตุผล ค้านด้วยความมีสติ ก็จะทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้” นายสุรนันทน์กล่าว
