“เพื่อไทย” ยัน พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้าน รายละเอียดชัดไม่ได้มีแค่ 3 หน้า ยกมือสาบานไม่ให้เกิดการโกงแน่นอน โอด “ยะใส” จับผิดแต่ รบ. วอนตรวจสอบโครงการไทยเข้มแข็งสมัย ปชป.บ้าง ชื่นชม “อลงกรณ์” พูดน่าฟัง หนุนปฏิรูปพรรคแยกการบริหารออกจากการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (25 มี.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานกลุ่มกรีน ระบุว่า พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ จนอาจจะเป็การรัฐประหารทางการเงิน ว่า ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง และไม่มีใบสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การออก พ.ร.บ. กู้เงินก็เพื่อพัฒนาประเทศให้ทันต่อโลก โดยเฉพาะการเปิดเสรีอาเซียนในปี 2558 เพื่อให้ระบบคมนาคมของไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่ง ทั้งทางบกและระบบราง ทั้งนี้ การกล่าวหาว่าเป็นการรัฐประหารทางการเงินนั้น คนไทยก็รู้ดีว่า นายสุริยะใส ทำงานการเมืองตรงข้ามรัฐบาลมาโดยตลอด โดยอยากให้ไปตรวจสอบโครงการไทยเข้มแข็งสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บ้างถ้าไม่เลือกปฏิบัติ เพราะโครงการเหล่านี้เกิดความเสียหายแล้ว ทำไมไม่ไปตรวจสอบและยังขู่ว่าจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีก การทำงานการเมืองภาคประชาชนของนายสุริยะใส นั้น น่าจะแฝงนัยทางารเมืองในการลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า มีการยัดไส้นำงบประมาณไปใช้ด้านอื่นว่า เป็นแค่วาทกรรมทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย การกู้เงิน 2 ล้านล้าน มีแผนงานถึง 7 ปี และมีรายละเอียดชัดเจนถึง 268 หน้า ไม่ใช่แค่ 3 หน้าอย่างที่กล่าวหา ตนไม่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ทำตัวเป็นฤาษีแปลงสาสน์ พูดแต่ที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง และตัดทอนข้อมูลเพื่อให้รัฐบาลดูไม่น่าเชื่อถือ อยากให้มองด้วยสายตาที่เป็นธรรมบ้าง หากสมัยพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล และทำโครงการแบบนี้ พรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้านในขณะนั้น และประชาชนคงยกมือให้เพราะมองที่ประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก แต่สองปีแปดเดือน พรรคประชาธิปัตย์ออก พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้าน ที่ในลักษณะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ไม่แน่ใจว่าในอดีตเมื่อมีโอกาสคิดไม่ได้ หรือไม่คิดทำ เพราะขณะนี้ผลโพลก็ระบุว่า ประชาชนสนับสนุน หากพรรคประชาธิปัตย์คัดค้านก็อาจจะถูกมองว่าขวางความเจริญของบ้านเมือง ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ให้เกิดการทุจริตอย่างแน่นอน และตนในฐานะที่เป็นมือตรวจสอบก็พร้อมดำเนินการทันทีหากพบข้อมูลว่าน่าจะมีการทุจริต
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ใหม่ว่า เห็นด้วยกับ นายอลงกรณ์ และที่เห็นด้วยที่สุดคือ การแยกการบริหารออกจากการเมือง เพราะวันนี้ประชาชนเบื่อความขัดแย้งทางการเมือง อยากให้ นายอภิสิทธิ์ นำความคิดของ นายอลงกรณ์ ไปปรับปรุงการทำงาน เลิกเล่นการเมืองรายวันเน้นตรวจสอบเชิงเนื้อหา หรือหาก นายอลงกรณ์ ได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตยื ก็เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง
