xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.เผย 4 ประเด็นซัก พ.ร.บ.กู้ โยนอดีต รมต.แจงปมไทยเข้มแข็งเอาเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม พรรคประชาธิปัตย์
รองโฆษกประชาธิปัตย์เผยกรอบ 4 ประเด็นซัก พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน ส่อขัดรธน.-จำเป็นหรือไม่ และโกง ระบุ 60 ส.ส.จ้อแต่ยังไม่ลงเวลา โยนอดีต รมต.แจงกู้ไทยเข้มแข็ง-มิยาซาว่า “อรรถวิชช์” ยันไม่ยื่นร่างประกบ ซัดหลายโครงเารยังไม่ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม-ซ้ำซ้อน


วันนี้ (26 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงหลังการประชุม ส.ส.พรรค ถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทว่า พรรคสนับสนุนโครงสร้างสาธารณูปโภค แต่ติดใจความถูกต้องในเรื่องกฎหมายและวิธีการ โดยวางกรอบการอภิปรายไว้ 4 ประเด็น คือ 1. ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเห็นว่าอาจจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 169 และ 170 ประเด็นที่ 2 วิธีการดำเนินโครงการมีความจำเป็นในการกู้เงินหรือไม่ เพราะพรรคมีความกังวลว่า แม้รัฐบาลอ้างว่ามีความตั้งใจทำโครงการแต่มีการกู้เงินมาสองครั้งซึ่งยังเป็นปัญหามาจนถึงทุกวันนี้คือกรณีงบกลาง 1.2 แสนล้าน และการกู้เงิน 3.5 แสนล้าน เพื่อบริหารจัดการน้ำ แต่ผ่านมาปีเศษเพิ่งมีการใช้เงินเพียงหมื่นล้านบาท 3. โครงการมีความจำเป็นจริงหรือไม่ และ 4. ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน

ทั้งนี้ มี ส.ส.ลงชื่ออภิปรายมีทั้งหมด 60 คน แต่ยังไม่จัดสรรเรื่องเวลาอย่างชัดเจน โดยจะคุยกันอีกครั้งในวิปฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม ในเวลา 12 ชั่วโมงครึ่งน่าจะจัดสรรเวลาได้เพียงพอ โดยทีมเศรษฐกิจจะใช้เวลาประมาณ 25-30 นาทีต่อคน ส่วนการพาดพิงเรื่องโครงการไทยเข้มแข็ง หรือมิยาซาว่า นั้นไม่ได้มีการจัดทีมเป็นการเฉพาะ แต่หากเรื่องที่มีการกล่าวหาอยู่ในความรับผิดชอบของใครก็ให้เป็นผู้ชี้แจง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นอดีตรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องนั้นๆ

ด้านนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคมีมติไม่ยื่นร่างกฎหมายประกบ เพราะไม่เห็นด้วยกับการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และจากการพิจารณาโครงการที่ระบุในเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เช่น โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราที่ใช้งบประมาณสูงกว่าหมื่นล้านบาท ทั้งที่ยังไม่ผ่านการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการก่อสร้างหลายเส้นทางที่ยังมีความซ้ำซ้อนกันในส่วนของถนนและระบบราง นอกจากนี้ยังไม่เห็นด้วยต่อการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเพราะไม่ได้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สายอีสานหยุดที่นครราชสีมา ส่วนสายใต้หยุดอยู่ที่หัวหิน อย่างไรก็ตาม พรรคเห็นด้วยกับระบบรางคู่ พร้อมกันนี้ยังเห็นว่ามีการใช้เงินสูญเปล่าถึงกว่า 9 พันล้านบาท เนื่องจากต้องมีการวางระบบในการติดตามการเบิกจ่ายเงินใหม่ จากเดิมที่ในระบบงบประมาณปกติสามารถติดตามผ่านระบบของกรมบัญชีกลางได้ จึงเท่ากับว่าเป็นการสูญเสียเงินโดยใช่เหตุถึงกว่า 9 พันล้านบาทและจะทำให้ตรวจสอบยากด้วย นอกจากนี้ยังเป็นห่วงการโยกงบประมาณในแต่ละโครงการด้วย เนื่องจากมีการเขียนไว้ในเอกสารประกอบแต่ไม่ได้ระบุในบัญชีแนบท้าย ทำให้ไม่มีผลผูกมัดตามกฎหมาย



กำลังโหลดความคิดเห็น