xs
xsm
sm
md
lg

“สุรนันทน์” เชื่อชิงดำพระวิหารชายแดนสงบ ย้ำ “ปู” มองเขมรเพื่อนบ้าน ชี้ถึงจุดนี้ ปชป.รู้ดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
เลขาฯ นายกฯ แจง “ปู” สั่งมอนิเตอร์ทำเนียบ ประสาน กต.ที่มีหน้าที่แจงต่อ ปชช.คดีพระวิหาร ชี้ซับซ้อน เผย “ปู” จับตาอยู่บ้านเกิด ให้ทีมงานสินใจเอง รับมั่นใจจุดยืนเชื่อมั่นหลักฐาน หวังความเป็นธรรมศาล ยันผลฟังขึ้นมีสันติ ปัดแจงใช้ทนายชุดเดิมผลดี-เสีย เชื่อชายแดนสงบ แนะตั้งสติฟัง ย้ำเขมรเพื่อนบ้าน ชู สันติรับ AEC วอนอย่ากังวลผล เลิกปัดสวะ ย้อน ปชป.รู้ดีเรื่องถึงขึ้นศาลโลก คาดเขมรไร้ข้อมูลใหม่

วันนี้ (15 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมต่อการแถลงคดีด้วยวาจากับองค์คณะผู้พิพากษา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ต่อคำร้องขอตีความคำพิพากษาของศาลเมื่อปี พ.ศ. 2505 ในคดีปราสาทพระวิหารว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ช่วยมอนิเตอร์ จึงได้มีศูนย์ประสานงานทำเนียบรัฐบาลเพื่อทำหน้าที่ประสานงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดสัปดาห์ที่มีการแถลง รวมถึงรายงานต่อนายกรัฐมนตรี และจะมีการประเมินข้อมูลข่าวสารจากสื่อต่างๆ หรือคำถามต่างๆจากสาธารณชน ซึ่งเราจะช่วยทำความเข้าใจ แต่ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นศูนย์หลักในการติดตามข่าวสาร และการกระจายข้อมูลข่าวสารให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีที่ขณะนี้ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ท่านเองได้มีการติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง โดยจะติดตามผ่านทางโทรทัศน์และทางเว็บไซต์ ที่กระทรวงการต่างประเทศนำข้อมูลขึ้น ในส่วนของตนและ พล.ต.ท.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จะทำการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆหากมีความจำเป็น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้จะเป็นการติดตามเพื่อรับทราบการแถลงของฝ่ายกัมพูชาก่อน ส่วนฝ่ายไทยจะแถลงในวันพุธ โดยจะเป็นการรวบรวมข้อมูลข่าวสารเท่านั้น ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทั้งทีมทนาย และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม จะอยู่ประจำที่ศาลโลก ฉะนั้นการตัดสินใจต่างๆ จะเป็นเรื่องของทีมงาน ในการแถลงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดี หรือข้อมูลข่าวสารเพื่อทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า มีความจำเป็นต้องติดต่อกับนายกรัฐมนตรี เพื่อขอคำแนะนำหรือไม่ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้คงยังไม่มี เพราะวันนี้เป็นการแถลงวันแรก ซึ่งฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้แถลงเพียงฝ่ายเดียว โดยประเทศไทยจะแถลงอีกครั้งในวันพุธ ทำให้ยังมีเวลาในการเตรียมตัว และกำหนดท่าทีที่ชัดเจน แต่ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าคณะรัฐมนตรี และรัฐบาลเองมีความมั่นใจในท่าทีที่คณะที่ปรึกษากฎหมายและฝ่ายทนายของไทยได้กำหนดไว้ เราเชื่อมั่นในท่าทีและจุดยืนของไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเชื่อมั่นนั้น เชื่อมั่นในลักษณะของผลที่จะออกมา หรือลักษณะของการต่อสู้ นายสุรนันทน์กล่าวว่า เราเชื่อมั่นในข้อมูลหลักฐานต่างๆที่ฝ่ายไทยมี ซึ่งตรงนี้ต้องรอให้มีการแถลง และตนคิดว่าเมื่อเริ่มต้นแถลงจะมีข้อมูลต่างๆที่สามารถขึ้นในเว็บไซต์ เป็นข้อมูลที่สามารถเผยแพร่ต่อสาธารณชนได้ ซึ่งเป็นข้อกำหนดของทางศาล ตรงนี้จะทำให้เกิดความกระจ่างชัดมากขึ้น รวมทั้งสิ่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ได้ยื่นแถลงไปแล้วนั้น ตรงนี้ขอให้มีการศึกษากันให้ดี ที่สำคัญเราหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาล ส่วนผลคดีจะออกมาอย่างไร ถ้าตรงนั้นเป็นธรรมและมีเหตุมีผล เราเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปน่าจะเป็นไปอย่างสันติ

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับความได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะคณะทำงานของไทยที่เป็นทีมเดิม แต่คณะในส่วนของศาลโลกมีความเปลี่ยนแปลง นายสุรนันทน์กล่าวว่า วันนี้เรายังบอกไม่ได้ว่าได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เราเชื่อว่าเรามีจุดยืนที่มั่นคง ท่าทีของเราแข็งแรง แข็งแกร่ง พอที่จะต่อสู้ในชั้นศาลได้ และเชื่อมั่นว่าสิ่งที่จะนำเสนอนั้นเป็นจุดยืนที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยมากที่สุด ส่วนข้อสงสัยที่ว่าทางกัมพูชาแถลงก่อน เราจะได้เปรียบหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติของทางศาล เพราะทางกัมพูชาเป็นผู้ที่ร้องในกรณีนี้

เมื่อถามว่า ถ้อยแถลงของกัมพูชาที่เป็นภาษากฎหมาย เราจะทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างไร โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณแนวชายแดน นายสุรนันทน์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราคุยกันอยู่ ซึ่งการแถลงของสองฝ่ายก็จะแถลงเป็นภาษากฎหมาย และเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีอำนวยความสะดวก ในการแปลช่วงที่มีการแถลงเป็นภาษาฝรั่งเศสให้เป็นภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ส่วนที่จะทำการสื่อสารกับประชาชน ทางกระทรวงการต่างประเทศ จะมีกระบวนการในการทำความเข้าใจ และทางศูนย์ประสานงานที่ทำเนียบจะช่วยทำความเข้าใจด้วย

เมื่อถามว่า การดูแลประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน และการให้ข้อมูลข่าวสาร รัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง นายสุรนันทน์กล่าวว่า ส่วนนี้ พล.ต.ท.ธวัช ที่มีหน้าที่ประสานกับฝ่ายความมั่นคง ได้ทำการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เราเชื่อว่าประชาชนเข้าใจและได้ติดตามข้อมูลข่าวสาร นี่คือเหตุผลที่กระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลตัดสินใจที่จะให้มีการถ่ายทอดสดทั้งหมด เพื่อที่จะให้รับรู้ข้อมูลข่าวสารพร้อมๆ กันไป โดยสิ่งที่จะต้องขอความกรุณา คือ เมื่อได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารแล้วจะต้องใช้เหตุผลในการรับฟัง และต้องช่วยกันคิด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศไทย เป็นเรื่องที่คนทั้งประเทศต้องร่วมมือร่วมใจกัน ในการตั้งสติให้มั่น และฟังเหตุผล ขณะเดียวกันเราต้องช่วยกันให้กำลังใจกับทีมงานทนายและที่ปรึกษากฎหมาย รวมถึงทีมงานของนายสุรพงษ์ เพื่อที่จะได้ต่อสู้อย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า ได้รับรายงานถึงบรรยากาศตามแนวชายแดนหรือไม่ว่าเป็นอย่างไร นายสุรนันทน์กล่าวว่า บรรยากาศตามแนวชายแดนเงียบสงบ ตนยังไม่อยากให้เกิดการตื่นตระหนกอะไร เพราะยังไม่มีอะไร สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ เป็นการแถลงครั้งสุดท้ายต่อศาลของทั้งสองฝ่าย และคำตัดสินคงจะมาในอีกช่วงเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่คิดว่านายกรัฐมนตรี อยากเห็นคือไทยกับกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านกัน เราคงหนีไปไหนกันไม่พ้น ไม่ว่าศาลตัดสินอย่างไร เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดของทั้งสองประเทศที่จะให้ดำเนินชีวิตต่อไปด้วยสันติและสงบ และสิ่งที่เราเป็นห่วงคืออาจจะมีกลุ่มการเมืองไปกระตุ้น ความรู้สึกต่างๆ ซึ่งไม่อยากให้เกิด เพราะวันนี้เราต้องต่อสู้ในศาลให้เต็มที่ อีกทั้งเราต้องการให้เกิดสันติภาพในภูมิภาคนี้ เพราะเรากำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2015 ฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สันติภาพเป็นเรื่องสำคัญ

เมื่อถามว่า ขณะนี้เรากำลังต่อสู้ทางคดี แต่มีฝ่ายรัฐบาลบางคนออกมาระบุว่ากังวลว่าถ้าแพ้ จะต้องดึงฝ่ายค้านช่วยกันรับผิดชอบ นายสุรนันทน์กล่าวว่า อย่าไปกังวลว่าจะแพ้หรือชนะ ตนว่าไม่มีใครแพ้ใครชนะ เพราะเรื่องแพ้หรือชนะเป็นเรื่องที่ใช้คำพูดไป แต่สิ่งที่เราต้องการคือความเป็นธรรมจากศาล ส่วนผลการตัดสินจะออกมาอย่างไรค่อยว่ากัน การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต้องร่วมมือกัน เราคงไม่ไปโทษใคร ฝ่ายค้านเองก็พยายามที่จะบอกว่ารัฐบาลต้องรับผิดชอบตรงนั้นตรงนี้ แต่ในขณะเดียวกันตนต้องติงฝ่ายค้าน ฝ่ายที่ต่อต้านและฝ่ายที่คัดค้านในหลายๆ เรื่อง ว่าทุกอย่างเป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ แต่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2505 แล้ว และรัฐบาลต่างๆ ที่ผ่านมาอาจจะมีการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ตนคิดว่าเราต้องรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น คงไม่ไปโทษใคร แต่ต้องรู้ว่าทำไมวันนี้ประเทศต้องกลับไปสู่ศาลโลกอีกครั้งหนึ่ง และตนคิดว่าฝ่ายค้านน่าจะเป็นฝ่ายที่ตอบได้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า มีความห่วงใยกับประเด็นใหม่ที่ทางกัมพูชาจะนำเสนอต่อศาลโลกในครั้งนี้หรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า ต้องติดตามและฟังดูว่าทางกัมพูชาจะแถลงด้วยวาจาอย่างไร และตนมีโอกาสได้ติดต่อไปยังทีมงานที่กรุงเฮก ทุกคนยังไม่คิดว่าจะมีอะไรใหม่พิเศษ แต่ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน เพราะทุกอย่างนั้นเป็นความลับ เราจะทราบเมื่อเริ่มแถลง แต่ทั้งนี้การแถลงมีหลายวัน วิธีการของศาลและวิธีการกำหนดวาระต่างๆ ทำให้มีเวลาที่จะประเมิน แก้ไข และชี้แจง


กำลังโหลดความคิดเห็น