โฆษกรัฐบาลโต้หัวหน้า ปชป.เรียงเม็ด ท่องคาถา กู้ 2 ล้านล้าน สร้างงานสร้างเงินมหาศาล ก่อหนี้ไม่เกิน 50% ของจีดีพี เหน็บฝ่ายค้านอย่าแปรญัตติทุกมาตรา ทำชาวบ้านเบื่อหน่าย โบ้ยแก้ รธน.รัฐบาลไม่ยุ่ง ส่วนไฟใต้นายกฯ ดูใกล้ชิดอยู่แล้ว ชี้ปัญหาพระวิหาร ทุกฝ่ายต้องร่วมแรงร่วมใจ
วันที่ 13 เม.ย. นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ส่งอีเมล์ถึงผู้สื่อข่าว เพื่อตอบโต้นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไว้ 4 ประเด็นคือ 1.เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2. การออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท 3.ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4.เรื่องเขาพระวิหาร โดยนายแพทย์ทศพรระบุผ่านอีเมล์ว่า ในเรื่องการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท รัฐบาลได้พิจารณาและวางแผนอย่างรอบคอบ หนี้สาธารณะจะไม่เกิน 50% ของจีดีพีแน่นอน ถึงแม้ว่าตัวเลขที่ยอมรับกันได้ว่าหนี้สาธารณะต้องไม่เกิน 60% ของจีดีพี แต่รัฐบาลก็จะควบคุมไว้ไม่เกิน 50%
นพ.ทศพร ระบุว่า การกู้เงินก็ไม่ได้เป็นการกู้ทีเดียวทั้ง 2 ล้านล้านบาทแต่จะเป็นการทยอยกู้ในแต่ละปี และจีดีพีของประเทศไทยก็มีการเติบโตขึ้นทุกปี รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ การเชื่อมโยงต่างๆ จะก่อให้เกิดรายได้อย่างมหาศาลจากการลดต้นทุนการขนส่งการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักอย่างหนึ่งของประเทศก็จะเพิ่มขึ้นอีก การขนส่งพืชผลทางการเกษตรและสินค้าต่างๆ ทำได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดรายได้ การหมุนเวียนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีการจ้างงานใหม่ๆ อย่างน้อย 5 แสนตำแหน่งจากตัวโครงการนี้เอง ซึ่งมีผลให้จีดีพีของประเทศเติบโตขึ้นอีก ดังนั้นหนี้สาธารณะเมื่อเทียบกับจีดีพีที่เติบโตขึ้นจึงไม่เกิน 50% อย่างแน่นอน และรัฐบาลก็จะสามารถจัดเก็บภาษีรายได้ได้มากยิ่งขึ้น มีโอกาสที่จะชำระหนี้ได้ก่อนกำหนด
“การที่นายอภิสิทธิ์ จะขอแปรญัญติ นั้นเป็นเรื่องที่ดี ขอขอบคุณนายอภิสิทธิ์ที่จะมาช่วยดูแลตรวจสอบ แต่ไม่อยากเห็นการแปรญัตติทุกมาตรา มาตราละเป็นร้อยคนเหมือนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ยังคงค้างในสภา ซึ่งจะทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายกับการทำงานของสภาฯ”โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
นพ.ทศพร กล่าวอีกว่า ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรนูญนั้นเป็นเรื่องของสมาชิกผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา รัฐบาลคงไม่สามารถเข้าไปสั่งการหรือชี้นำอย่างไรได้ ส่วนเรื่องปัญหาภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรีดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว สองวันที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้ลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ ถึงแม้จะยังมีความรุนแรงเกิดขึ้นการเจรจาจำเป็นต้องดำเนินต่อไป ส่วนประเด็นสุดท้ายคือเรื่องเขาพระวิหาร โฆษกฯ กล่าวว่า คงไม่ต้องมากล่าวโทษกันว่ารัฐบาลไหนผิดหรือถูก ก็ต้องเดินหน้าร่วมแรงใจช่วยกัน
“ไม่ว่าเรื่องภาคใต้ หรือเรื่องเขาพระวิหาร เป็นเรื่องของประเทศชาติ เป็นเรื่องของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ควรจะเป็นเรื่องการเมือง ไม่ควรจะเป็นเรื่องของฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ทุกฝ่ายต้องถอดหมวกออก แล้วร่วมแรงร่วมใจกันอย่างมีสติในการนำประเทศหลุดพ้นจากปัญหา”โฆษกรัฐบาลกล่าว