ผู้บัญชาการทหารบก แนะดูสาเหตุยิงเอ็ม79 บ้าน “นัจมุดดิน” ยันเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยแล้ว เผยเริ่มรู้กลุ่มป่วน ติงอย่าบอกว่าเบาหรือแรง รับปัญหาใต้มีอย่างอื่นทับซ้อน ไม่ใช่แค่แบ่งแยกดินแดน เตือนอย่าชี้โจรโหมไฟหวังต่อรองรัฐ วอนให้กำลังใจ อย่ากดดัน ระบุ “เฉลิม” นัดลงพื้นที่หลังสงกรานต์ สวนสื่ออย่าดึงไปทะเลาะกับประชาธิปัตย์
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มก่อความไม่สงบใช้อาวุธปืนเอ็ม79 ยิงถล่มบ้านนายนัจมุดดิน อูมา ที่ปรึกษา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงว่า ต้องไปดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เพราะการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้มงวดและไปดูรายละเอียด ต้องยอมรับว่าการเกิดเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังต้องมีอยู่ เพราะผู้ก่อเหตุยังเข้าใจไม่ตรงกับเจ้าหน้าที่ ดังนั้นเราต้องเร่งทำความเข้าใจ ส่วนการปฏิบัติตามกฎหมายต้องเข้มงวด ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้ใช้มาตรการต่างๆ ตามที่รัฐบาลกำหนดในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนรวม และใช้กำลังทุกภาคส่วนในการปิดล้อมจับกุมผู้ทำความผิดอย่างต่อเนื่อง ทุกคดีที่มีความรุนแรงมีความก้าวหน้าจนพอจะทราบกลุ่มที่ดำเนินการ ซึ่งหลายคดีมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน ดังนั้นความรุนแรงที่เกิดขึ้นต้องตรวจสอบ
“อย่าบอกว่าเหตุการณ์รุนแรงขึ้นหรือเบาลง เพราะเหตุการณ์ขึ้นลงตามสถานการณ์และขีดความสามารถการทำงานของเจ้าหน้าที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เพราะฝ่ายนั้นต้องการแสดงความมีศักยภาพให้เราได้เห็น แต่เราไม่ได้ให้ความสำคัญนี้ เราให้ความสำคัญว่าไม่ว่าจะเป็นใครเรามีฐานข้อมูลอยู่ แต่เป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่อย่าไปให้ความสำคัญกับกลุ่มใดเป็นพิเศษ เพราะจะเป็นการยกฐานะให้เขามีค่ามากกว่าเดิม แล้วจะทำให้เราแก้ปัญหาได้ยากขึ้น ผมรู้ว่าทุกคนห่วงใย ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงมีหลายวิธีทั้งทางปิดและทางเปิด รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายและกำลัง การชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งมีทุกมิติ บางอย่างพูดก้าวหน้าเกินไปก็ไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดการต่อต้านเนื่องจากมีคนไม่เห็นด้วย ปัญหาภาคใต้เกิดจากความไม่เข้าใจอีกทั้งยังมีปัญหาอื่นทับซ้อนกันอยู่ ปัญหาทางภาคใต้อย่าไปให้ความสำคัญเรื่องการแบ่งแยกดินแดนเพียงอย่างเดียว” ผบ.ทบ.กล่าว
เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ความรุนแรง เพื่อเพิ่มศักยภาพต่อรองกับรัฐบาลในการพูดคุย 29 เม.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อย่าไปชี้ชัดแบบนั้นไม่ได้ เพราะเมื่อเขาใช้ความรุนแรง สื่อก็เต้นผางๆ แล้วเดือดร้อนกันทุกคนว่ามันแรงขึ้น ถ้าคิดแบบนั้นไม่เกิดประโยชน์ ทำไมไม่มองว่าสถานการณ์ภาคใต้ยังไม่สงบ เพราะยังดำเนินการแต่ละเรื่องยังไม่เรียบร้อย คือทุกภาคส่วนยังแก้ปัญหากันไม่ครบ อาจจะด้วยเรื่องระยะเวลา งบประมาณ ปัญหาทับซ้อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการลงไปแล้วว่า ทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องเข้าไปดูงานของตัวเอง เรื่องการแก้ปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ได้มอบหมายให้ กอ.รมน.เป็นผู้เข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งนโยบายจะถูกกำหนดโดยข้างบนทั้งหมด และการกำหนดนโยบายของรัฐบาลต้องฟังหน่วยข้างล่างว่าต้องการอะไร แต่อย่ามาเสนอว่า การทำงานไม่เป็นเอกภาพ เพราะทุกยุทธศาสตร์ที่ออกมาต้องผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว อย่าให้หน่วยปฏิบัติขัดแย้งกัน เราทำงานตามกรอบนโยบาย ที่สำคัญต้องให้กำลังใจกันและกัน ต้องขอร้องสื่อ รู้ว่าทุกคนหวังดีอยากให้ปัญหาจบแต่ตนอยากให้จบมากกว่า เพราะทหารที่ลงไปจะถูกทำร้ายเมื่อไรก็ไม่รู้ ถ้าเรานำเสนอสิ่งต่างๆ ให้มีความพอดี ไม่ซ้ายหรือขวาเกินไปจะสามารถช่วยเจ้าหน้าที่ได้ แต่ถ้าเสนอทางลบมากๆจะกดดันเจ้าหน้าที่ ประเด็นสำคัญเราใช้ความรุนแรงไม่ได้
เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง จำเป็นต้องลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การทำงานมีหลายภาคส่วน และมีส่วนหนึ่งอยู่ระดับนโยบาย ไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่บ่อย จะลงพื้นที่หรือไม่ลงก็ได้ ตนไม่ได้เข้าข้าง ร.ต.อ.เฉลิม เพราะเป็นสิทธิ์ของท่านว่าจะลงหรือไม่ ไม่ใช่กลัวหรือไม่กลัว พูดไปก็หาว่าตนเข้าข้าง อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิมได้นัดตนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังเทศกาลสงกรานต์ เพราะไม่เช่นนั้นระดับนโยบายและผู้ปฏิบัติต้องไปอยู่ด้วยกันทั้งหมด จะยุ่งกว่าเดิมหรือไม่ก็ไม่รู้ อยู่กันมากๆ ก็สั่งกันมาก คิดว่าการปกครองบังคับบัญชามีระดับอยู่แล้ว ส่วนการบังคับบัญชามีอยู่แต่ในระหว่างนั้นใครจะลงพื้นที่ไปก็ลง บางที ร.ต.อ.เฉลิมอาจหวังดีถ้าลงไปช่วงนี้อาจเป็นภาระต่อหน่วย ซึ่งเป็นเรื่องของท่าน ทำไมต้องวิพากษ์วิจารณ์ให้วุ่นวาย บางคนเคยถามว่าทำไม ผบ.ทบ.ไม่เห็นใจลูกน้องปล่อยให้เผชิญชะตากรรม แล้วตนจะเป็น ผบ.ทบ.ทำไม ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเป็นก็ลงไปนอนข้างล่างให้หมด ตนห่วงใยทุกคน อีกหน่อยจะพาสื่อลงไปด้วย ลงกันไปให้หมดจนกว่าจะแก้ปัญหาได้
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งข้อสังเกตหลังจากรัฐบาลพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยิ่งมีเหตุการณ์เพิ่มมากขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า “แล้วพรรคประชาธิปัตย์เป็นใคร เป็นฝ่ายค้าน แล้วผมมีอำนาจไปวิจารณ์ฝ่ายค้านหรือไม่ เขามองก็มองไป ในเมื่อกำลังแก้ปัญหาอยู่ เขามียุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาก็ให้เขาแก้ไป ถ้าไม่ผิดกฎหมายก็แก้ไป คุณจะวิจารณ์ก็วิจารณ์ไป แต่อย่าเอาอีกพวกหนึ่งมาวิจารณ์ต้านอีกข้างหนึ่ง ถ้าผมตอบคำถามแล้ว แล้วผมเป็นศัตรูใคร ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น ผมทำหน้าที่ปกป้องลูกน้องผม ไม่ได้ทำความชั่วที่ไหน สื่ออย่าเอาผมไปรบกับใคร เขาจะค้านก็เรื่องของเขา เขาเป็นฝ่ายค้านก็ต้องค้าน จะถูกจะผิดสื่อก็ไปวิเคราะห์เอาเอง ที่ผมพูดอธิบายมาทั้งหมด เพราะผมอยากให้ทุกคนที่ติดตามเรื่องพวกนี้ คิดแบบที่ผมคิด ถ้าไม่คิดแบบนี้ก็จะขัดแย้งกันไปหมด ผมเข้าใจว่าสื่อคิดอย่างไร ผมไม่ได้บังคับสื่อ แต่ถ้าช่วยกันก็คิดอย่างที่ผมคิด บ้านเมืองจะได้สงบ ถึงวันนี้มีการพูดกับกลุ่มบีอาร์เอ็นผ่านมาเดือนกว่าแล้วยังถามกันอยู่อีกว่าใช่หรือไม่ ถามว่าได้อะไรขึ้นมา ควรมองว่าจะทำอย่างไรกันต่อไปมากกว่า”