ฉาวอีก “ผู้กองมนัส” เบี้ยวคืนเงิน 90 ล้านบาท เจ้าทุกข์ลูกบ้าน เอส.วี.การ์เด้นหลายร้อยคน โวยทวงถามหลายครั้งบ่ายเบี่ยงเหมือนจงใจเบี้ยว เตรียมหอบหลักฐานร้องขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคสภาฯ
นายธเนศ โกละกะ ฝ่ายกฎหมายของบริษัท ชมรมพิทักษ์สิทธิ์ผู้ซื้อบ้าน เอส.วี.การ์เด้น จำกัด เปิดเผยว่า ลูกความได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากนายธรรมนัส พรหมเผ่า หรือผู้กองมนัส กรรมการบริหารกลุ่มบริษัท เอเพ็กซ์ บริษัท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เบี้ยวคืนเงินจำนวน 90 ล้านบาท ที่บริษัท ชมรมพิทักษ์สิทธิ์ผู้ซื้อบ้าน เอส.วี.การ์เด้น จำกัด ฝากไว้เพื่อพัฒนาโครงการใหม่แต่ไม่ได้มีการดำเนินการ ทางบริษัทฯ จึงขอเรียกเงินคืน แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอด ได้รับความเดือดร้อน จึงตัดสินใจพึ่งคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ให้การช่วยเหลือ ซึ่งได้ประสานกับ ส.ส.ในคณะกรรมาธิการฯ เพื่อเข้ายื่นหนังสือร้องเรียน
นายธเนศกล่าวว่า บริษัท ชมรมพิทักษ์สิทธิ์ผู้ซื้อบ้าน เอส.วี.การ์เด้น จำกัด เป็นการรวมตัวของผู้ซื้อบ้านในโครงการเอสวีซิตี้ พระราม 3 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 43 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ซึ่งบริหารงานโดยบริษัท สหวิริยาซิตี้ จำกัด แต่ได้หยุดการก่อสร้างลงจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 โดยโครงการถูกโอนไปยัง บสท. โดยผู้ซื้อโครงการหลายร้อยคนที่ได้รับความเสียหาย ได้รวมตัวกันในนามบริษัท ชมรมพิทักษ์สิทธิ์ผู้ซื้อบ้าน เอส.วี.การ์เด้น จำกัดดังกล่าว เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 เพื่อเข้าไปบริหารโครงการใหม่เพื่อชดใช้หนี้สิน ซึ่งในการประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท ชมรมพิทักษ์สิทธิ์ผู้ซื้อบ้าน เอส.วี.การ์เด้น จำกัด เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554 ที่โรงแรมบางกอกเซ็นเตอร์ ผู้บริหารกลุ่มบริษัท เอเพ็กซ์ อาทิ นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ และนายสุชัย พงษ์เพียรธรรม ซึ่งเป็นผู้บริหารร่วมกับผู้กองธรรมนัส เข้าร่วมประชุมด้วย โดยมีลูกบ้านที่ได้รับความเสียหายเข้าร่วมประชุม 300-400 ราย โดยผู้บริหารเอเพ็กซ์ฯ ได้โน้มน้าวลูกบ้านเพื่อขอเข้าไปฟื้นฟูโครงการและให้สิทธิ์ผู้ได้รับความเสียหายซื้อโครงการในราคาถูก ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจึงอนุมัติให้กลุ่มบริษัทเอเพ็กซ์ไปดำเนินการ และฝากเงินจำนวน 90 ล้านบาทที่ได้จากการรื้อถอนไว้กับผู้กองธรรมนัส
“แต่การฟื้นฟูโครงการใหม่กลุ่มบริษัทเอเพ็กซ์ไม่ได้ดำเนินการ ทางบริษัทชมรมพิทักษ์สิทธิ์ผู้ซื้อบ้าน เอส.วี.การ์เด้น จึงต้องการเงินคืนจากผู้กองธรรมนัส แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงเหมือนจะเบี้ยวไม่ยอมคืน ทางบริษัท ชมรมพิทักษ์สิทธิ์ฯ ได้รับความเดือดร้อน จึงได้ประสานกับ ส.ส.ในคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนฯ นัดหมายวันที่ 18 เมษายน 2556 หลังจากนั้นก่อนจะดำเนินการฟ้องร้องในช่องทางอื่นๆ อาทิ กองปราบปราม เป็นต้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มีผู้เสียหายจำนวนมาก และผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้มีอิทธิพล”
นายธเนศกล่าวว่า ในการร้องเรียนครั้งนี้บริษัท ชมรมพิทักษ์สิทธิ์ฯ มีหลักฐานชัดเจน ทั้งรายงานการประชุมของบริษัทให้ฝากเงิน 90 ล้านบาทกับผู้กองธรรมนัส, สำเนาเช็คทุกฉบับที่จ่ายให้กับผู้กองธรรมนัส, ภาพวิดีโอการประชุมบริษัท ที่มีผู้บริหารของบริษัท เอเพ็กซ์ฯ เข้าร่วมด้วย และหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงมั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะดำเนินการกับผู้กองมนัสได้แน่นอน
