“ส.ว.วิบูลย์” ห่วงก๊าซธรรมชาติน้อย แถมเอกชนแย่งใช้ ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ราคาสูง ทำค่าไฟแพง อ้าง ผอ.สนพ.รับมีปัญหาพลังงานชัวร์ เหตุพึ่งก๊าซ LNG ที่ลงทุนสูง จี้ใช้ถ่านหิน ซื้อไฟฟ้า ตปท. เตรียมถก ปชช.ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แนะ ก.อุตฯ ออกใบอนุญาตโรงงานใช้พลังงานทดแทน
วันนี้ (5 เม.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ นายวิบูลย์ คูหิรัญ ส.ว.สรรหา หารือว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมาตนมีความห่วงใยในการใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าในสัดส่วนที่สูงขณะนี้ถึง 68-70% ของเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าทั้งหมด และยังมีการประมูลให้ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ให้ใช้ก๊าซธรรมชาติถึง 5,400 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้สัดส่วนใช้ก๊าซสูงขึ้นไปอีก และทำให้ก๊าซธรรมชาติไม่เพียงพอจึงต้องใช้ก๊าซ LNG ที่สั่งซื้อมาจากต่างประเทศ และยิ่งไปกว่านั้นก๊าซ LNG มีราคาแพงถึง 2 เท่าจึงทำให้ค่าไฟแพงขึ้นไปด้วย
นายวิบูลย์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้รับคำยืนยันจากนายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ว่าประเทศไทยจะประสบปัญหาหายนะพลังงานอย่างแน่นอน ถ้าไม่มีการบริหารการจัดการด้านพลังและปล่อยให้มีการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติที่สูง และระบุว่าในปี 2573 จะต้องนำก๊าซ LNG มาใช้ถึง 23 ล้านตัน หมายถึงว่าต้องมีกองเรือมาขน LNG ถึง 21 ลำ และต้องใช้เงินลงทุนถึง 1 ล้านล้านบาท
นายวิบูลย์กล่าวอีกว่า ในเมื่อรู้อย่างนี้แล้วทำไมไม่รีบแก้ไขตามที่เคยหารือไว้ คือ ให้ใช้ถ่านหิน และเร่งการเจรจาขอซื้อไฟฟ้าจากการสร้างเขื่อนพลังน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเตรียมการสร้างโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ โดยให้ประชาชนยอมรับ และนอกเหนือจากนั้นก็ควรจะมีพลังงานงานทดแทนอย่างอื่น แต่ต้องขอความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการที่จะออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.) ให้แก่ผู้ขออนุญาตด้วย
