เลขาฯ วิปวุฒิสภา เผย 57 ส.ว.ร่วมอภิปรายแก้ รธน. ให้เวลาคนละ 8 นาที รวม 8 ชั่วโมง ให้สิทธิ์ “ดิเรก-ประสิทธิ์” จ้อคนละครึ่งชั่วโมงฐานเสนอร่าง คาดซักฟอกไม่เกิน 2 ทุ่ม พร้อมให้สิทธิ์คัดคนนั่ง กมธ.คณะละ 4 คนด้วย เชื่อไม่ซ้ำแน่
วันนี้ (1 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง เลขานุการคณะกรรมการประสานงานกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่า มี ส.ว.จำนวน 57 คนที่ลงชื่อร่วมอภิปรายในร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พ.ศ.... โดยวุฒิสภาได้เวลารวมในการอภิปรายจำนวน 8 ชั่วโมง สมาชิกจะได้อภิปรายคนละ 8 นาที เชื่อว่าจะเพียงต่อการอภิปรายทั้ง 3 ร่าง แต่นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี และนายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี ได้สิทธิ์ชี้แจงร่างที่แต่ท่านเป็นผู้เสนอ ทั้งช่วงอภิปรายเปิดและปิด รวมเวลาคนละ 30 นาที
นายสุรชัยกล่าวต่อว่า ที่ประชุมวิปรัฐสภา สรุปวันอภิปรายใน 3 ร่าง เป็น 3 วัน คือวันที่ 1-3 เมษายน เป็นการอภิปรายรวมแต่ลงมติแยกแต่ละฉบับ ซึ่งในวันที่ 3 เมษายนวันสุดท้ายในการอภิปรายนั้น เชื่อว่าจะมีการอภิปรายไม่เกินเวลา 20.00 น. จากนั้นก็จะลงมติโดยการขานชื่อ ส่วนการขอความร่วมมือเพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นได้นั้น ประธานในที่ประชุมก็จะขอความร่วมมือสมาชิกรัฐสภาให้อภิปรายในกรอบประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการทะเลาะ การประท้วงกันโดยไม่จำเป็น และพาดพิงบุคคลภายนอก
นายสุรชัยกล่าวอีกว่า ส่วนการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้เพิ่มเติมทั้ง 3 ฉบับ ที่กำหนดให้แต่ละร่าง มีจำนวน กมธ.คณะละ 45 คน ในส่วนของวุฒิสภานั้นได้ได้โควตา คณะละ 10 คน ทั้งนี้ในการตั้งคณะ กมธ.ได้่ตั้งแยกเป็นรายฉบับ โดยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่เสนอโดยนายประสิทธิ์ที่เสนอร่างแก้ไข จะให้นายประสิทธิ์คัดเลือก ส.ว. ให้มาเป็น กมธ.อีก 4 คน และให้ กมธ.สามัญจำนวน 5 คณะพิจารณาส่ง ส.ว.ให้มาร่วมเป็น กมธ.คณะละ 1 คน รวมเป็น 10 คน ส่วนร่างแก้ไขมาตรา 237 และ 68 ที่นายดิเรกเป็นคนเสนอ ให้นายดิเรกคัดเลือกส.ว.ให้มาเป็น กมธ.อีก 4 คน และให้กมธ.สามัญจำนวน 5 คณะพิจารณาส่ง ส.ว.ให้มาร่วมเป็น กมธ.คณะละ 1 คน รวมเป็น 10 คน ส่วนร่างแก้ไขที่มาและวาระของ ส.ว.ที่นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี เป็นคนเสนอ ให้ตั้ง กมธ. 10 คน โดยคัดจากคณะ กมธ.วิสามัญของวุฒิสภา จำนวน 10 คณะ ทั้งนี้รายชื่อจะไม่ซ้ำกันในแต่ละ กมธ. ซึ่งมี 2 กมธ.ประกอบด้วย กมธ.กีฬาและเศรษฐกิจที่ไม่เข้าร่วมเป็น กมธ.
วันนี้ (1 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง เลขานุการคณะกรรมการประสานงานกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่า มี ส.ว.จำนวน 57 คนที่ลงชื่อร่วมอภิปรายในร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พ.ศ.... โดยวุฒิสภาได้เวลารวมในการอภิปรายจำนวน 8 ชั่วโมง สมาชิกจะได้อภิปรายคนละ 8 นาที เชื่อว่าจะเพียงต่อการอภิปรายทั้ง 3 ร่าง แต่นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี และนายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี ได้สิทธิ์ชี้แจงร่างที่แต่ท่านเป็นผู้เสนอ ทั้งช่วงอภิปรายเปิดและปิด รวมเวลาคนละ 30 นาที
นายสุรชัยกล่าวต่อว่า ที่ประชุมวิปรัฐสภา สรุปวันอภิปรายใน 3 ร่าง เป็น 3 วัน คือวันที่ 1-3 เมษายน เป็นการอภิปรายรวมแต่ลงมติแยกแต่ละฉบับ ซึ่งในวันที่ 3 เมษายนวันสุดท้ายในการอภิปรายนั้น เชื่อว่าจะมีการอภิปรายไม่เกินเวลา 20.00 น. จากนั้นก็จะลงมติโดยการขานชื่อ ส่วนการขอความร่วมมือเพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นได้นั้น ประธานในที่ประชุมก็จะขอความร่วมมือสมาชิกรัฐสภาให้อภิปรายในกรอบประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการทะเลาะ การประท้วงกันโดยไม่จำเป็น และพาดพิงบุคคลภายนอก
นายสุรชัยกล่าวอีกว่า ส่วนการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้เพิ่มเติมทั้ง 3 ฉบับ ที่กำหนดให้แต่ละร่าง มีจำนวน กมธ.คณะละ 45 คน ในส่วนของวุฒิสภานั้นได้ได้โควตา คณะละ 10 คน ทั้งนี้ในการตั้งคณะ กมธ.ได้่ตั้งแยกเป็นรายฉบับ โดยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่เสนอโดยนายประสิทธิ์ที่เสนอร่างแก้ไข จะให้นายประสิทธิ์คัดเลือก ส.ว. ให้มาเป็น กมธ.อีก 4 คน และให้ กมธ.สามัญจำนวน 5 คณะพิจารณาส่ง ส.ว.ให้มาร่วมเป็น กมธ.คณะละ 1 คน รวมเป็น 10 คน ส่วนร่างแก้ไขมาตรา 237 และ 68 ที่นายดิเรกเป็นคนเสนอ ให้นายดิเรกคัดเลือกส.ว.ให้มาเป็น กมธ.อีก 4 คน และให้กมธ.สามัญจำนวน 5 คณะพิจารณาส่ง ส.ว.ให้มาร่วมเป็น กมธ.คณะละ 1 คน รวมเป็น 10 คน ส่วนร่างแก้ไขที่มาและวาระของ ส.ว.ที่นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี เป็นคนเสนอ ให้ตั้ง กมธ. 10 คน โดยคัดจากคณะ กมธ.วิสามัญของวุฒิสภา จำนวน 10 คณะ ทั้งนี้รายชื่อจะไม่ซ้ำกันในแต่ละ กมธ. ซึ่งมี 2 กมธ.ประกอบด้วย กมธ.กีฬาและเศรษฐกิจที่ไม่เข้าร่วมเป็น กมธ.
