เลขาฯ สมช.รายงานผลการเจรจา “บีอาร์เอ็น” ให้นายกฯ ทราบแล้ว อ้างบีอาร์เอ็นรับปากพูดคุยกลุ่มอื่นลดเหตุรุนแรง เผยมีกลุ่มพูโลร่วมวงด้วย แต่บางส่วนคลุมหน้า หวั่นเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเข้าข่ายผิดกฎหมาย ปัดกำหนดกรอบปลดล็อก “มะแซ อุเซ็ง” แกนนำคนสำคัญก่อน
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดภายหลังเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ได้รายงานผลการพูดคุยเพื่อสร้างสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวานนี้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ดำเนินการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง และเต็มที่ เพราะประชาชนได้คาดหวังไว้ อีกทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปหารือถึงข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่ต้องการขอความยุติธรรม ให้กับผู้ก่อความไม่สงบที่ผ่านมา ทั้งผู้ที่กระทำผิด ป.วิอาญา และคดีความมั่นคง อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอทั้ง 2 ฝ่าย จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ในวันที่ 29 เม.ย.นี้
พล.ท.ภราดร เปิดเผยอีกว่า ในห้วงเวลานับจากนี้จนถึงวันที่ 29 เมษายน เป็นการพิสูจน์ข้อเสนอของไทยที่ให้กลุ่มบีอาร์เอ็นลดการก่อเหตุรุนแรง โดยฝ่ายบีอาร์เอ็นรับปากจะไปพูดคุยกับกลุ่มอื่นๆ ซึ่งยอมรับว่า ยังมีกลุ่มที่ไม่หัวรุนแรงก่อเหตุ แต่ทางบีอาร์เอ็น ยืนยันว่าจะพยายามพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ เชื่อว่า นายอัสซัน ตอยิบ มีบทบาทในกลุ่มบีอาร์เอ็น และสามารถจะควบคุมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มอื่นได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การพูดคุยเมื่อวานนี้ มีกลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต และกลุ่มพูโล ร่วมพูดคุยด้วย แต่บางส่วนมีการคลุมหน้าเพื่อป้องกันตัวเอง ซึ่งฝ่ายไทยมองว่าไม่เป็นการเสียเปรียบ แต่ยอมรับว่าอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย หากบุคคลที่คลุมหน้าเป็นแกนนำที่มีหมายจับความมั่นคง
เลขา สมช.ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ มีหมายจับผู้ก่อความไม่สงบ ตัวเลขอยู่ที่หลักพันคน ซึ่งไม่ใช่ 30,000 คน ตามที่มีการรายงานข่าวที่ทางกลุ่มบีอาร์เอ็นขอให้ทางการไทยลบบัญชีดำ ซึ่งกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ร่วมพูดคุย ไม่ได้กำหนดกรอบว่า จะต้องขอความยุติธรรมให้กับแกนนำคนสำคัญอย่างนายมะแซ อุเซ็ง ก่อนหรือไม่ เพียงเป็นการยื่นข้อเสนอในภาพรวม ขณะเดียวกัน เห็นว่าการพูดคุยครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ และรอการพิสูจน์ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน
ส่วนการพูดคุยในวันที่ 29 เม.ย.นี้ จะการเชิญ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเดินทางไปด้วยหรือไม่ เลขา สมช.ระบุว่า ไม่เชิญร่วมพูดคุย แต่จะขอคำปรึกษาหารือเรื่องนี้แทน