xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ขอบคุณเยอรมนีร่วมผ่านวิกฤตอุทกภัย ยินดีตกลงค้า EU-โผล่ประชุมสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
“ปู” ขอบคุณเยอรมนีช่วยฟื้นฟูไทยจากน้ำท่วม ยกหุ้นส่วนการค้าใหญ่สุดยุโรป ยันสัมพันธ์ทวิภาคีการเมือง-การค้า โวการเมืองไทย-เศรษฐกิจทิศทางดี ชวนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วน รบ.ลงทุนบริหารจัดการน้ำ หนุนค้าเสรีเหตุชี้ไทยผู้นำเชื่อมโยงภูมิภาค แจงนายกฯเยอรมันร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม ย้ำพัฒนาประเทศเพื่อการลงทุน ยินดีตกลงค้าสหภาพยุโรป เผยดอดร่วมสภา หนุนตั้ง กมธ.พ.ร.บ.ประกันฯ

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน และกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “European Investments in Thailand and the Kingdom's Future Strategies towards AEC 2015” ของหอการค้าไทย-เยอรมนี ในโอกาสประชุมใหญ่สามัญประจำปี “GTCC Annual Ordinary General Meeting” ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ

โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณหอการค้าไทย-เยอรมน ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และร่วมยืนหยัดผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากเคียงคู่ประเทศไทยมาตลอด ทั้งนี้ ความสำเร็จของการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยจากปัญหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องของนักธุรกิจและสินค้าที่มีคุณภาพจากเยอรมนี และได้ย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีความแนบแน่นและมีพื้นฐานความสัมพันธ์การค้าการลงทุนระหว่างกันมายาวนาน นับตั้งแต่การทำสนธิสัญญาทางไมตรี การค้า และการเดินเรือระหว่างกัน เมื่อ 150 กว่าปีที่แล้ว

นับจากนั้นธุรกิจเยอรมนีได้นำเทคโนโลยีและการลงทุนมาสู่ประเทศไทยในหลายสาขา อาทิ การธนาคาร โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนตร์ รวมถึงธุรกิจที่เยอรมนีมีความเชี่ยวชาญ โดยนายกรัฐมนตรีได้พบนายกรัฐมนตรีเยอรมนี และต่างเห็นพ้องถึงความสำคัญที่ทั้งสองประเทศจะต้องส่งเสริมผลประโยชน์และผลักดันกระบวนการทางด้านประชาธิปไตยร่วมกัน ด้วยความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับเยอรมนีดำเนินไปด้วยความราบรื่นและมั่นคง เยอรมนีจึงเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป การลงทุนจากเยอรมนีเมื่อปีทีแล้วมีมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท ทั้งนี้ทั้งสองประเทศจึงควรร่วมมือและผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-เยอรมนี ทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจให้มั่นคงต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้ความมั่นใจถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจและฐานะการคลังที่แข็งแกร่ง ไทยมีเสถียรภาพทางการเมือง และมีนโยบายสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้งปัจจัยด้านการส่งเสริมการลงทุนของไทยที่ผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตกว่าที่คาดไว้ในปีก่อนที่ร้อยละ 6.4 โดยในปีนี้คาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.5​​-5.5 นอกจากนี้ รัฐบาลยังลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 30 ให้เหลือร้อยละ 20 ทั้งนี้ ฟิตช์ยังได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของรัฐบาลจากระดับ BBB เป็น BBB+ ซึ่งไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเมือง แต่ยังรวมถึงฐานะทางการเงินที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้การจัดเก็บรายได้ภาษีของไทยยังได้เกินเป้าหมาย สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ประมาณร้อยละ 44 ณ เดือนมกราคม 2556 เพื่อให้ประเทศมีการเติบโตอย่างยั่งยืน มั่นคง และทั่วถึง รวมทั้งยกระดับศักยภาพการแข่งขัน

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงแผนการลงทุนของประเทศในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากใน 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยยังขาดการลงทุนในโครงการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ไม่เพียงพอ จึงทำให้ในธุรกิจต่างๆ มีค่าใช้จ่ายสูง มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันน้อย เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ รัฐบาลจึงได้ลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะสร้างโอกาสและรายได้ใหม่ๆ จากการค้าชายแดนที่เพิ่มขึ้น อันจะเป็นการยืนยันถึงความเป็นศูนย์กลางการขนส่ง และเป็นประตูสู่อาเซียนของไทย โดยจะมีการออกร่างพระราชบัญญัติ และนำเสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณา โดยรัฐบาลขอเชิญชวนให้นักลงทุนชาวเยอรมันเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของไทย นอกจากนี้ การลงทุนในการจัดการทรัพยากรน้ำ โดยรัฐบาลจะลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำจำนวน 9 พันล้านยูโร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและสร้างความปลอดภัยในภูมิภาค และแก่นักลงทุนจากปัญหาอุทกภัย ทั้งนี้ รัฐบาลจะสามารถดำเนินโครงการได้ก่อนสิ้นปี โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการทบทวนข้อเสนอ ผ่านขั้นตอนการประมูลระหว่างประเทศอย่างละเอียดและโปร่งใส

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า สำหรับการส่งเสริมการค้าและการลงทุน รัฐบาลส่งเสริมการค้าเสรีเพื่อสนับสนุนและขยายตลาด ด้วยความเป็นผู้นำของไทยในด้านความเชื่อมโยงในภูมิภาค ส่งผลให้การลงทุนต่างๆ มีมูลค่ามากขึ้นและมีตลาดที่กว้างขึ้น ซึ่งสิทธิประโยชน์เหล่านี้จะถูกเน้นย้ำผ่านการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี ทั้งนี้ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รัฐบาลกำลังดำเนินการเจรจาเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนและ 6 ประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย

สำหรับสหภาพยุโรป นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่รัฐบาลได้เริ่มการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรปแล้ว และยังได้บทสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนร่วมมือระหว่างกันในทุกด้านของไทย-สหภาพยุโรป (Thai EU Partnership Cooperation Agreement - PCA) จากการเยือนสหภาพยุโรปเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าความตกลงเหล่านี้จะช่วยผลักดันการค้าการลงทุนระหว่างสองฝ่ายอย่างได้อย่างมาก

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อถึงความสำคัญของการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเน้นย้ำว่าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจะต้องเป็นไปอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไทยจะอาศัยทักษะความรู้ เทคโนโลยี และการลงทุนจากประเทศเยอรมนีเพื่อพัฒนาประเทศไทย ทั้งนี้ ในการหารือกับนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีและต่างเห็นพ้องกันที่จะร่วมมือกันด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพปละความพอเพียงแก่พลังงานธรรมชาติ และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาพลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีสีเขียว โดยรัฐบาลมีความยินดีที่จะร่วมทำงานกับนักลงทุน โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าพัฒนาประเทศไทยให้เป็นประเทศที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยและการลงทุนทั้งต่อนักลงทุนและต่อครอบครัวอย่างดีที่สุด และเชื่อมั่นว่าความเอื้ออาทรและไมตรีจิตของประชาชนชาวไทย ประกอบกับวัฒนธรรมอันงดงามและอาหารไทยเลื่องชื่อจะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติประสบความสำเร็จในการลงทุนในประเทศไทย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในการประชุม หลังจากที่สมาชิกได้หารือก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ปรากฏว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มาร่วมนั่งในห้องประชุมในส่วนสำหรับ ส.ส.นั่งประชุม ร่วมกับ นพ.เหวง โตจิราการ และน.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และได้สนทนากับบุคคลทั้งสองตลอดเวลา และยังได้ร่วมยกมือสนับสนุนการเสนอรายชื่อกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ... หลังจากที่สภาฯ ลงมติรับหลักการวาระที่ 1 ด้วย

โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมได้ให้นายอิสรา สุนทรวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการเลื่อนลำดับให้มาปฏิบัติหน้าที่แทน พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากเสียชีวิต กล่าวปฏิญาณตนก่อนการปฏิบัติหน้าที่ด้วย







กำลังโหลดความคิดเห็น