วานนี้(25 ก.พ.56) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของมาดามปัก กึน ฮเย ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ในเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเกาหลีใต้ ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง โดยในพิธีสาบานตนมีผู้เข้าร่วมกว่า 60,000 คน รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีแล้ว นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมหารือทวิภาคี กับมาดามปัก กึน-ฮเย ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับ น.ส.ปัก กึน ฮเย และหารือถึงความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนาบทบาทสตรีในภูมิภาคในฐานะผู้นำสตรีด้วยกัน ย้ำถึงความพร้อมของไทยที่จะสานต่อความร่วมมือในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะผลักดันการศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ และขยายการค้าให้ถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2016 ตามที่ได้เคยประกาศไว้ ส่วนการลงทุนจะเร่งเพิ่มและขยายการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะการลงทุนจากเกาหลีใต้ในประเทศไทยที่ยังมีโอกาสอีกมาก เช่น ยานยนต์ เหล็ก พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานที่ไทยกำลังเร่งพัฒนา เพื่อเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และการเชื่อมโยงภูมิภาค ซึ่งเกาหลีใต้จะสนับสนุนนักธุรกิจและนักลงทุนเดินทางมาประเทศไทย เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนและขยายธุรกิจร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี ถือโอกาสเชิญประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลีมาร่วมการประชุมระดับผู้นำด้านแหล่งน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤษภาคม 2556 เนื่องจากสาธารณรัฐเกาหลี นับเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีระบบ ซึ่งล่าสุดบริษัท K-water ของสาธารณรัฐเกาหลี เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกกรอบแนวคิด เพื่อออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยด้วย
**อ้าง “แม้ว” มาฮ่องกงแล้วจอปูแน่
วันเดียวกัน นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค"Paisal Puechmongkol"ตอบโต้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.)ที่ออกมาปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นักโทษหนีคดีอาญา โดยปฏิเสธว่าไม่ได้เดินทางมาเกาะฮ่องกง ซึ่งเป็นการโกหกคำโต มีใจความว่า
"ท่านแม้วผู้น่ารักน่าชังของผมมาที่ฮ่องกงตั้งแต่วันศุกร์แล้วแหละครับญาติโยมทั้งหลาย เมื่อวานยังอยู่ที่นั่นเลย แล้วพรรคการเมืองมันโกหกทำไมละครับว่าอยู่เยอรมัน อ๋อ ต้องโกหกสิ เพราะเมือวาน ๖.๓๐ น ยิ่งลักษณ์ออกจากสุวรรณภูมิไป"ฮ่องกง-เกาหลี" เลยกลัวคนรู้ว่าจะไปคุยกันนะซี ถามว่าเขาไปคุยกันเรื่องอะไรรึ ก็ไม่ได้ไปนั่งฟังจะรู้ได้ไง ก็ต้องเดาสิคร้าบ"
"ถามอับดุลแล้ว บอกว่าไปคุยกัน 3 เรื่อง 1.ทำไมไม่แก้รัฐธรรมนูญและนิรโทษกรรม... เอาแต่ร้องไห้ ไม่รู้เรื่อง มาคุยกันดีกว่า คุยก็คุยซิ หนูจะอยู่ครบเทอม 2.ปรับครมเอาพวกบ้าบอคอแตกออกไปมั่ง เห็นชุมพล เสธ.หนั่น ไปรอแล้วแล้วเซ็ง 3.ทะวายแอนด์รถไฟ จ้า จ๊ะ ทิงจา"
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นมีการตั้งข้อสีงเกตว่า ในวันเดียวกันในช่วงบ่ายนายกฯจะเดินทางด้วยเครื่องบินเที่ยวบินพิเศษของการบินไทยออกจากท่าอากาศยานทหารโซลแอร์เบส ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง เขตบริการพิเศษฮ่องกง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของฮ่องกงให้การต้อนรับ และในช่วงค่ำวัน เดียวกันนายวิบูลย์ คูสกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่นายกฯและคณะ
แต่ทั้งนี้ กำหนดการรับประทานอาหารค่ำนั้นระบุเพียงสถานที่แต่ยังไม่มีการระบุเวลาที่แน่นอนแต่อย่าง ใด
จากนั้นในเช้าวันอังคารที่ 26 ก.พ. นายกฯมีภารกิจรับประทานอาหารเช้าร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของภาคธนาคาร ณ โรงแรมที่พัก และต่อจากนั้นจะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือกับนายเหลียง เจิ้นอิง ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง และมีพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทย-ฮ่องกง และเวลาประมาณ 11.30น. นายกฯและคณะจะพบปะกับผู้แทนบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของฮ่องกงเป็นภารกิจสุดท้าย
ทั้งนี้ ในการเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษ ที่จะพบปะกับนายเหลียง จุ้นอิง ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งในปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างความคุ้นเคยและสานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลฮ่องกงจากสมัย นายโดนัลด์ จัง โดยไทยจะยืนยันความร่วมมือระหว่างกัน ความต่อเนื่องของนโยบายและการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน และจะเน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นของประเทศ หลังเกิดวิกฤตอุทกภัย ให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของไทยมีความแข็งแรงอย่างไร เพื่อเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุน และจะใช้โอกาสนี้พูดคุยถึงยุทธศาสตร์ประเทศไทย ที่จะเน้นการลงทุนที่เน้นโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะพบกับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารและการลงทุนที่สำคัญของฮ่องกง และตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของฮ่องกง เพื่อย้ำศักยภาพการท่องเที่ยวในประเทศไทยและจูงใจนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง
ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และกระทรวงการคลัง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมคู่ขนานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศไทย โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะกล่าวสุนทรพจน์ถึงโอกาสของไทยภายใต้แผนยุทธศาสตร์ประเทศด้วย
"จากนั้นตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไปจนถึงเวลาที่จะเดินทางเพื่อเตรียมตัวกลับไทยประมาณ เวลา20.50น. นายกฯไม่มีกำหนดการอย่างเป็นทางการและระบุเพียงว่ารับประทานอาหารค่ำเป็นการส่วนตัว โดยที่ไม่มีการระบุสถานที่ และต่อจากนั้นเวลาประมาณ 21.00น. นายกฯและคณะจะเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงกลับประเทศไทยและคาดว่าจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 22.45น.
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับ น.ส.ปัก กึน ฮเย และหารือถึงความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนาบทบาทสตรีในภูมิภาคในฐานะผู้นำสตรีด้วยกัน ย้ำถึงความพร้อมของไทยที่จะสานต่อความร่วมมือในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะผลักดันการศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ และขยายการค้าให้ถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2016 ตามที่ได้เคยประกาศไว้ ส่วนการลงทุนจะเร่งเพิ่มและขยายการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะการลงทุนจากเกาหลีใต้ในประเทศไทยที่ยังมีโอกาสอีกมาก เช่น ยานยนต์ เหล็ก พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานที่ไทยกำลังเร่งพัฒนา เพื่อเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และการเชื่อมโยงภูมิภาค ซึ่งเกาหลีใต้จะสนับสนุนนักธุรกิจและนักลงทุนเดินทางมาประเทศไทย เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนและขยายธุรกิจร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี ถือโอกาสเชิญประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลีมาร่วมการประชุมระดับผู้นำด้านแหล่งน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤษภาคม 2556 เนื่องจากสาธารณรัฐเกาหลี นับเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีระบบ ซึ่งล่าสุดบริษัท K-water ของสาธารณรัฐเกาหลี เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกกรอบแนวคิด เพื่อออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยด้วย
**อ้าง “แม้ว” มาฮ่องกงแล้วจอปูแน่
วันเดียวกัน นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค"Paisal Puechmongkol"ตอบโต้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.)ที่ออกมาปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นักโทษหนีคดีอาญา โดยปฏิเสธว่าไม่ได้เดินทางมาเกาะฮ่องกง ซึ่งเป็นการโกหกคำโต มีใจความว่า
"ท่านแม้วผู้น่ารักน่าชังของผมมาที่ฮ่องกงตั้งแต่วันศุกร์แล้วแหละครับญาติโยมทั้งหลาย เมื่อวานยังอยู่ที่นั่นเลย แล้วพรรคการเมืองมันโกหกทำไมละครับว่าอยู่เยอรมัน อ๋อ ต้องโกหกสิ เพราะเมือวาน ๖.๓๐ น ยิ่งลักษณ์ออกจากสุวรรณภูมิไป"ฮ่องกง-เกาหลี" เลยกลัวคนรู้ว่าจะไปคุยกันนะซี ถามว่าเขาไปคุยกันเรื่องอะไรรึ ก็ไม่ได้ไปนั่งฟังจะรู้ได้ไง ก็ต้องเดาสิคร้าบ"
"ถามอับดุลแล้ว บอกว่าไปคุยกัน 3 เรื่อง 1.ทำไมไม่แก้รัฐธรรมนูญและนิรโทษกรรม... เอาแต่ร้องไห้ ไม่รู้เรื่อง มาคุยกันดีกว่า คุยก็คุยซิ หนูจะอยู่ครบเทอม 2.ปรับครมเอาพวกบ้าบอคอแตกออกไปมั่ง เห็นชุมพล เสธ.หนั่น ไปรอแล้วแล้วเซ็ง 3.ทะวายแอนด์รถไฟ จ้า จ๊ะ ทิงจา"
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นมีการตั้งข้อสีงเกตว่า ในวันเดียวกันในช่วงบ่ายนายกฯจะเดินทางด้วยเครื่องบินเที่ยวบินพิเศษของการบินไทยออกจากท่าอากาศยานทหารโซลแอร์เบส ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง เขตบริการพิเศษฮ่องกง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของฮ่องกงให้การต้อนรับ และในช่วงค่ำวัน เดียวกันนายวิบูลย์ คูสกุล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่นายกฯและคณะ
แต่ทั้งนี้ กำหนดการรับประทานอาหารค่ำนั้นระบุเพียงสถานที่แต่ยังไม่มีการระบุเวลาที่แน่นอนแต่อย่าง ใด
จากนั้นในเช้าวันอังคารที่ 26 ก.พ. นายกฯมีภารกิจรับประทานอาหารเช้าร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของภาคธนาคาร ณ โรงแรมที่พัก และต่อจากนั้นจะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือกับนายเหลียง เจิ้นอิง ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง และมีพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทย-ฮ่องกง และเวลาประมาณ 11.30น. นายกฯและคณะจะพบปะกับผู้แทนบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของฮ่องกงเป็นภารกิจสุดท้าย
ทั้งนี้ ในการเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษ ที่จะพบปะกับนายเหลียง จุ้นอิง ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งในปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างความคุ้นเคยและสานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลฮ่องกงจากสมัย นายโดนัลด์ จัง โดยไทยจะยืนยันความร่วมมือระหว่างกัน ความต่อเนื่องของนโยบายและการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน และจะเน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นของประเทศ หลังเกิดวิกฤตอุทกภัย ให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของไทยมีความแข็งแรงอย่างไร เพื่อเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุน และจะใช้โอกาสนี้พูดคุยถึงยุทธศาสตร์ประเทศไทย ที่จะเน้นการลงทุนที่เน้นโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะพบกับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารและการลงทุนที่สำคัญของฮ่องกง และตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของฮ่องกง เพื่อย้ำศักยภาพการท่องเที่ยวในประเทศไทยและจูงใจนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง
ขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และกระทรวงการคลัง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมคู่ขนานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศไทย โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะกล่าวสุนทรพจน์ถึงโอกาสของไทยภายใต้แผนยุทธศาสตร์ประเทศด้วย
"จากนั้นตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไปจนถึงเวลาที่จะเดินทางเพื่อเตรียมตัวกลับไทยประมาณ เวลา20.50น. นายกฯไม่มีกำหนดการอย่างเป็นทางการและระบุเพียงว่ารับประทานอาหารค่ำเป็นการส่วนตัว โดยที่ไม่มีการระบุสถานที่ และต่อจากนั้นเวลาประมาณ 21.00น. นายกฯและคณะจะเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงกลับประเทศไทยและคาดว่าจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 22.45น.