xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ไฟเขียวขยาย “โครงการหลวง” - อัดฉีดงบ “บัตรทอง” ล่วงหน้า-เตือน “ม็อบหมอ” อย่ากระทบผู้ป่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากแฟ้ม
ที่ประชุม ครม.เห็นชอบ “เฉลิม” ของบ 1.8 พันล้านขยายโครงการหลวง นายกฯ ห่วงม็อบ 5 กลุ่มรอบ ส่งตัวแทนเจรจา “หมวดเจี๊ยบ” เตือน “ม็อบหมอ” ประท้วงอย่าให้กระทบคนป่วย อนุมัติงบล่วงหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค 1.9 แสนล้าน อนุมัติพิธีสารเที่ยวบินระหว่างรัฐบาลอาเซียน-จีน ขยายวงเงินเวนคืนด่วนศรีรัช จัดเตรียมเงินหมุนเวียน 700 ล้านบาทเข้าโรงจำนำรัฐ ส่วนเรื่องหมอกควันจ่อประสานเพื่อนบ้านหยุดเผาป่า

วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงแผนแม่บทโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืนระยะที่ 2 (พ.ศ. 2557-2561) ว่า ครม.รับทราบและเห็นชอบตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และ ผอ.ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ เป็นผู้เสนอ

ทั้งนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทโครงการขยายผลโครงการหลวง เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน ระยะแรก ระหว่างปี 2553-2555 พร้อมกันนี้ยังเห็นชอบการปลูกฝิ่นในระยะที่สอง และยังมีกรอบกำหนดเพื่อให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติ โดยมีงบประมาณในการจัดทำโครงการในวงเงิน 1,875,056,260 บาท

นอกจากนี้ยังให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันตั้งข้อเสนองบประมาณรายจ่ายประจำปี ภายใต้ชื่อรายการ “โครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน” โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557 เป็นต้นไป และมอบหมายให้ ป.ป.ส.ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายงานผลการดำเนินงานให้ ครม.ทราบทุก 6 เดือน

ด้าน ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า จากกรณีที่มีม็อบและกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 5 กลุ่มที่มาชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาล ว่านายกรัฐมนตรี ได้ห่วงใยและได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปพูดคุยและรับข้อเรียกร้องจากทั้ง 5 กลุ่มแล้ว โดยนายกฯ ให้ความสนใจนำมาพูดคุยใน ครม.ด้วย เช่นกลุ่ม 1. เครือข่ายองค์กรสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราขการแห่งประเทศไทย หรือ กบข. ได้ขอให้เปลี่ยนแปลงหลักเกณท์กลับไปใช้การจ่ายบำเหน็จบำนาญแบบเก่า กลุ่ม 2 กลุ่มผู้แทนจากชมรมแพทย์ชนบท กลุ่ม 3 เครือข่ายนักวิชาการสาธารณสุข เรียกร้องการจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสม กลุ่ม 4 พนักงาน ขสมก.เรียกร้องรถเมล์เอ็นจีวี และกลุ่มที่ 5 นักศึกษา 200 คนจากชายแดนภาคใต้ เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงรองนายกฯ เฉลิม เสนอการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น

ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องของสมาชิกกองทุน กบข. ซึ่งปัญหาจากข้าราชการเคยรับบำเหน็จบำนาญยุคที่ก่อนจะมีการจัดตั้งกองทุน และปรับมาเป็นสมาชิก กบข.ได้รับผลประโยชน์จาก กบข.เป็นเงินออม แต่สมาชิกอยากเก็บไปได้รับแบบเดิม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ ได้รับว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ว่าจะให้สิทธิข้าราขการกลับไปรับตอบแทนบำเหน็จบำนาญแบบเก่าได้หรือไม่ และเสนอ ครม.อนุมัติเพื่อเสนอเข้าสภาออกเป็น พ.ร.บ.เปลี่ยนแปลงหลักเกฑณ์เงินออมของ กบข. และในอนาคต หากจะมีการเปลี่ยนแปลงสิทธิข้าราชการ ยืนยันว่าจะไม่มีการกระทบ หรือยุบกองทุน หรือขายทุน กองทุนของ กบข.ทิ้ง โดย กบข.ยังมีภาระกิจดูแลเงินกองทุนสมาชิกต่อไป และไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกสมาชิกเปลี่ยนมาใช้ระบบบำเหน็จบำนาญทั้งหมด แม้ปริมาณเงินลงทุนเปลี่ยนไป รัฐบาลจะลงเงินให้อีก แม้ว่าข้าราชการเปลี่ยนเป็นบำเหน็จบำนาญ รวมทั้งเงินออมที่ได้เงินไปแล้วต้องนำเงินมาคืนกองทุนด้วย เป็นการบริหารกองทุนไม่มีใครเสียประโยชน์ทั้งสิ้น

ส่วนการชุมนุมของแพทย์ชนบท นายกฯ ได้สั่งการให้ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ไปพิจารณาหลักเกณท์การจ่ายค่าตอบแทนทางการแพทย์ บุคคลกร ที่ได้รับผลกระทบให้ รวมทั้งให้ รมว.สาธารณสุขมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน และสังคมในเกณฑ์จ่ายค่าตอบแทนบุคคลากรทางการแพทย์ ว่าได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นหรือไม่ และจ่ายเพิ่มให้แพทย์ไปทำงานในพื้นที่ห่างไกล ป้องกันบุคคลกากรสมองไหลอย่างไร และประชาชนได้รับประโยชน์หรือไม่

“รัฐบาลขอฝากไปถึงว่า การชุมนุมของแพทย์และบุคคลากรทางการแพทย์ อาจทำให้มีการหยุดงานช่วงสงกรานต์ ขอให้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิทธิผู้ป่วย และการให้บริการประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่รู้โนอิเหน่ด้วย ขอให้นำข้อคิดจากรัฐบาลฝากไปถึงผู้ไม่เห็นด้วยที่มาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล” ร.ท.หญิง สุณิสากล่าว

ทั้งนี้ รมว.สาธารณสุขได้ชี้แจงเบื้องต้นว่าได้ปรับเงินค่าตอบแทนแพทย์และบุคคลากร ด้วยแนวคิดโดยการจ่ายตามความสามารถ และไม่ยกเลิกการจ่ายตอบแบบเหมาจ่าย แต่ต้องปรับในบางพื้นที่ที่มีความจำเป็นต้องใช้ระบบความสามารถ ปรับปรุงต่าตอบแทนให้เหมาะสม เพื่อจูงใจบุคลลากรด้านการแพทย์ในพื้นที่ให้มากขึ้น และป้องกันสมองไหล ขณะนี้มีความคิดเห็นแตกต่าง ซึ่งได้เชิญผู้แทนทางการแพทย์มาร่วมประชุมกันในวันที่ 28 มี.ค.นี้ เพื่อมารายงานต่อ ครม.ต่อไป

ด้านกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอขออนุมัติเพิ่มงบประมาณในโครงการหลักประกันสุขภาพทั่วหน้า ขอล่วงหน้าของปี 2557 ในอัตราเหมาจ่ายให้กับประชาชนมาใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพทั่วหน้าในอัตรา 2,995.91 บาทต่อคน ซึ่งประชาชนได้สิทธิเพิ่มขึ้น 231 บาทต่อคน จากงบปี 56 ในอัตรา 2,765.65 บาทเท่านั้น รวมทั้งอนุมัติงบเพิ่มให้กับผู้ป่วยเอชไอวี 250 ล้านบาท โรคไตวาย 5,233 ล้านบาท และจัดสรรงบป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน โรคที่ติดเชื้อจากสารเสพติด 1,230 ล้านบาท จัดสรรงบประมาณเพิ่มประสิทธิภาพบุคคลากรทางการแพทย์ใน พื้นที่เสี่ยงภัย 288 แห่ง จำนวน 2,125 ล้านบาท โดยรวมงบอนุมัติในโครงการหลักประกันสุขภาพทั่วหน้า ทั้งหมด 196,811 ล้านบาท แบ่งเป็นงบจัดการภายในสำนักงานส่งเสริมหลักประกันสุขภาพ จำนวน 1,900 กว่าล้านบาท ที่เหลือเป็นงบให้บริการประชาชนแบบเหมาจ่ายรายหัว

ร.ท.หญิง สุณิสายังแถลงถึงจัดการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ช่วงวันที่ 30-31 มี.ค.นี้ ว่าทางสภาพัฒน์ได้เสนอให้ ครม.ติดตามความคืบหน้าโครงการที่ได้รับอนุมัติจาก ครม. และเสนอให้รัฐมนตรีที่สนใจจะไปติดตามตวามคืบหน้าโครงการ เช่น โครงการจัดตั้งกลุ่มการเรียนรู้อาเซียนของมหาวิทยาลัยราชภัฏฉะเชิงเทรา โดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ไปดูโครงการ รวมทั้งโครงการพัฒนาคุณภาพวิธีไทย โดย รมว.สาธารณสุขและ รมช.มหาดไทย ไปติดตาม และโครงการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การแปรรูปปลาสลิด ที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยนายวรวัจน์ เอื้อภิญญากุล รมต.สำนักนายกฯ ไปตรวจสอบโครงการ

นอกจากนี้ ครม.ได้อนุมัติงบการใช้รถยนต์ขนาด 8 ที่นั่งในการทำหน้าที่ของผู้ตรวจราชการ วงเงิน 11 ล้านกว่าบาท งบผูกพัน 5 ปี ช่วงปี 56-60 เพื่อให้สำนักเลขาธิการนายกฯ เช่ารถยนต์ 12 คันเพื่อให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ ได้ใช้ตรวจราชการ

ขณะที่ นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.มีมติขออนุมัติลงนามพิธีสาร 2 ว่าด้วยสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 5 แนบท้ายความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศระหว่างรัฐบาลแห่งรัฐสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ และเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

โดยมีสาระสำคัญของร่างพิธีสาร 2 ว่าด้วยสิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพ ดังนี้ 1. เส้นทางบิน ความถี่ และสิทธิรับขนการจราจรการบินใช้สิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 5 ได้เต็มที่โดยไม่จำกัดจำนวนความถี่ ทั้งบริการขนส่งผู้โดยสาร และ/หรือสินค้า ด้วยอากาศยานแบบใดๆ ตามเส้นทาง จาก 1 ใน 10 จุดที่กำหนดในอาเซียน ผ่านจุดใดๆ ใน 10 จุดที่กำหนดในอาเซียนไปยังจุดใดๆ ใน 28 จุดที่กำหนดในจีน และพ้นไปยังจุดใดๆ ใน 10 จุดที่กำหนดในอาเซียน โดยใช้สิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 5 ได้ถึง 14 เที่ยวต่อสัปดาห์ ทั้งบริการขนส่งผู้โดยสาร และ/หรือสินค้า ด้วยอากาศยานแบบใดๆ ตามเส้นทาง จาก 1 ใน 10 จุดที่กำหนดในอาเซียน ผ่านจุดใดๆ นอกจีนและอาเซียน ไปยังจุดใดๆ ใน 10 จุดที่กำหนดในจีน และพ้นไปยังจุดใดๆ นอกจีนและอาเซียน และกลับ

สำหรับสายการบินของจีน ทำการบินใช้สิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 5 ได้เต็มที่โดยไม่จำกัดจำนวนความถี่ ทั้งบริการขนส่งผู้โดยสาร และ/หรือสินค้า ด้วยอากาศยานแบบใดๆ ตามเส้นทาง จากจุดใดๆ ใน 28 จุดที่กำหนดในจีน ผ่านจุดใดๆ ใน 10 จุดที่กำหนดในอาเซียนไปยังจุดใดๆ ใน 10 จุดที่กำหนดในอาเซียน และพ้นไปยังจุดใดๆ ใน 10 จุดที่กำหนดในอาเซียน และทำการบินใช้สิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 5 ได้ถึง 14 เที่ยวต่อสัปดาห์ ทั้งบริการขนส่งผู้โดยสาร และ/หรือสินค้าบนพื้นฐานของแต่ละคู่ประเทศ ด้วยอากาศยานแบบใดๆ ตามเส้นทาง จากจุดใดๆ ใน 10 จุดที่กำหนดในจีน ผ่านจุดใดๆ นอกจีนและอาเซียน ไปยังจุดใดๆ ใน 10 จุดที่กำหนดในอาเซียน และพ้นไปยังจุดใดๆ นอกจีนและอาเซียน และกลับ โดยต้องบทบัญญัติสุดท้าย การมีผลบังคับใช้ พิธีสารดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เมื่อประเทศสมาชิกอาเซียนและจีนมอบเอกสารแจ้งการเข้าเป็นภาคีแก่เลขาธิการอาเซียน ครบ 3 ประเทศ โดยจะมีผลบังคับใช้กับสมาชิกที่มอบเอกสารแจ้งดังกล่าวเท่านั้น ทั้งนี้ ก่อนการมอบเอกสารแจ้งการเข้าเป็นภาคีพิธีสาร 2 ประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องมอบเอกสารแจ้งการเข้าเป็นภาคีพิธีสาร 1 ด้วย

ขณะเดียวกัน ที่ประชุม ครม.มีมติมติอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้สัตยาบันความตกลงอาเซียนด้านศุลกากร ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านศุลกากรของประเทศสมาชิกอาเซียน ส่งเสริมให้มีการจัดทำกระบวนการทางศุลกากร พิธีการศุลกากร วิธีปฏิบัติในการควบคุมทางศุลกากร รวมถึงการจัดการเคลื่อนย้ายสินค้าและยานพาหนะให้เรียบง่าย สอดคล้องกัน และทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้อาเซียนบรรลุการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายใต้เป้าหมายของการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) ได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สำหรับขอบเขตของความตกลง บทบัญญัติของความตกลงนี้ต้องนำไปใช้กับสินค้าที่นำเข้า ส่งออก ขนส่งผ่าน หรือถ่ายลำผ่านอาณาเขตของรัฐสมาชิกทั้งหลาย ตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องของรัฐสมาชิกทั้งหลาย โดยไม่มีบทบัญญัติใดของความตกลงนี้ที่ขัดขวางรัฐสมาชิกรัฐหนึ่งรัฐใดในการอำนวยความสะดวกเกินไปกว่าที่กำหนดไว้ในความตกลงนี้ รัฐสมาชิกทั้งหลายต้องพยายามให้ความสะดวกอย่างครอบคลุมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยขยายวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 หรือทางพิเศษศรีรัช วงเงิน 605 ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ สำหรับแหล่งเงินที่จะนำมาใช้จ่ายเพื่อเป็นค่าจัดกรรมสิทธิ์เพิ่มเติม จำนวน 605 ล้านบาทดังกล่าว ให้ใช้จ่ายเงินจากรายได้ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงคมนาคม โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย รับไปพิจารณาดำเนินการโดยประสานงานในรายละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้วรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย

ส่วนนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ของบกู้เงินทุนหมุนเวียน จากกระทรวงการคลังเพื่อใช้ในกิจการสำนักงานธนานุเคราะห์ 700 ล้านบาทใช้หมุนเวียนรับจำนำและอื่นๆ ซึ่งเป็นช่วงใกล้เปิดเทอม เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินหมุนเวียนเพื่อป้องกันการขาดสภาพคล่องของสถานธนานุเคราะห์ หากมีประชาชนมาใช้บริการ

นอกจากนี้ยังแถลงว่า นายกฯ เป็นห่วงปัญหาหมอกควันในภาคเหนือที่มีความรุนแรงขึ้น โดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ ได้สรุปสถานการณ์หมอกควันไฟป่าในภาคเหนือ และปริมาณคุณภาพอากาศโดยรวมในระดับปานกลางถึงระดับอันตรายในหลายจังหวัด มีปริมาณฝุ่นละอองมากถึง 120 ไมครอน เช่น จ.แม่ฮ่องสอน มีระดับถึง 176 ไมครอน ในวันที่ 25 มี.ค. ซึ่งในช่วงนี้ขึ้นมาเยอะมาก ได้สั่งกรมฝนหลวง พยายามทำฝน จริงๆ ช่วงหน้าแล้งจะเกิดไฟป่า รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านก็เผ่าป่าด้วย โดยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ และรมว.ศึกษาธิการ ได้เสนอว่าอาจจะต้องคุยกับประเทศเพื่อนบ้านในการร่วมมือดับไฟป่า

พร้อมกันนี้ นายปลอดประสพได้สั่งการให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสด้า ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีติดตามภาพถ่ายดาวเทียม ดูจุดที่เกิดปัญหาหมอกควันเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ไทยหรือประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ กรมฝนหลวง ได้พยายามทำฝนหลวง แต่ช่วงนี้สภาพความชื้นในอากาศไม่พอ ทำฝนได้ยาก ทำให้ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาฝุ่นละอองในอากาศสูงมาก ซึ่งในที่ประชุมได้ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไปเร่งหาทางลดปัญหาดังกล่าวเพราะจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนได้


กำลังโหลดความคิดเห็น