xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ย้ำรัฐบาลดันแก้ ม.68 เปิดทางชำเรา รธน.ทั้งฉบับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ราเมศ รัตนะเชวง (แฟ้มภาพ)
รองโฆษก ปชป.ระบุ ส.ส.รัฐบาลดันแก้ รธน.มาตรา 68 ปูทางล้มล้าง รธน.ทั้งฉบับ ปิดอำนาจ ปชช. และศาล รธน.ที่จะตรวจสอบถ่วงดุลการชำเรา รธน.ทั้งฉบับ เชื่อถูกต้านแน่ พร้อมไล่ “เรืองไกร” ไปตรวจสอบให้ดีก่อนกล่าวหาศาล รธน.คดี “สมัคร”



นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์และทีมกฎหมายพรรค กล่าวถึงการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราของ ส.ส.รัฐบาล และ ส.ว.เลือกตั้งว่า ตนให้ความสนใจกับการแก้ไขมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลมีการเสนอแก้ไขเพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการลิดรอนอำนาจของประชาชนและอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามอำเภอใจอย่างเต็มรูปแบบ เพราะมาตรา 68 เป็นหัวใจสำคัญในการตรวจสอบความชอบของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่าประชาชนที่เห็นว่ามีการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ จึงถือเป็นเสี้ยนหนามของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยที่ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องพังลงไม่เป็นท่า

“การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 จึงเชื่อว่าเป็นการปูทางเพื่อเปิดช่องให้ล้มล้างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ปิดอำนาจประชาชนและศาลรัฐธรรมนูญที่จะคอยตรวจสอบถ่วงดุลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จึงเชื่อว่าจะมีหลายฝ่ายออกมาคัดค้าน รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ที่จะคัดค้านเรื่องนี้ด้วย”

นายราเมศยังฝากถึงรัฐบาลว่า ควรจะตระหนักว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวบทของรัฐธรรมนูญแต่อยู่ที่ผู้ใช้รัฐธรรมนูญ หากมุ่งแสวงหาประโยชน์ที่มิชอบเพื่อบุคคลบางกลุ่มหรือพวกพ้อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนจึงอยากให้คำนึงถึงหลักนิติธรรมในการแก้รัฐธรรมนูญด้วย

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตยย์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จะยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เอาผิดต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ตัดสินคดีนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีไม่ถูกต้องว่า การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปตามหลักกฎหมาย ยึดตามข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญและยึดถือรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดตรงไปตรงมา รวมถึงพิจารณาข้อเท็จจริงด้วย คำวินิจฉัยจึงเป็นไปอย่างถูกต้องแล้ว ดังนั้นสิ่งที่นายเรืองไกรทำคือพยายามบิดเบือนความน่าเชื่อถือของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จึงอยากให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบคำวินิจฉัยของตุลาการแต่ละคน และอยากให้นายเรืองไกรได้ไปตรวจสอบก่อนกล่าวหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน

“อยากให้นายเรืองไกรตระหนักว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร อย่าคิดว่าผูกพันทุกองค์กรยกเว้นนายเรืองไกรกับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น”


กำลังโหลดความคิดเห็น