สะเก็ดไฟ
รับงานร้อนคดีการเมืองไปแล้ว สำหรับ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านกฎหมาย ที่ได้รับมอบหมายภารกิจโดยตรงจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตั้งเป็นหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายตำรวจ เพื่อพิจารณาตรวจสอบรายการ “ตอบโจทย์” ในตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ที่มีปัญหา
คำสั่ง ตร.ที่ 192/2556 ลงวันที่ 21 มี.ค. ที่ตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ นำทีมพร้อมด้วย พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) และคณะทำงานชุดสืบสวน ร่วม 50 นาย ที่มาจากทั้งตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจสันติบาลร่วมกันตรวจสอบเรื่องนี้
จึงถูกจับตามองอย่างมากว่า พล.ต.อ.ชัชวาลย์จะใช้เวลานานแค่ไหนในการสอบสวนและพิจารณาข้อเท็จจริงที่ผู้ดำเนินรายการ คือ ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา และผู้ไปออกรายการบางคนที่มีการพูดในรายการแล้วมีเนื้อหาล่อแหลม โดยเฉพาะกรณีของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ไม่ใช่ว่าพอกระแสเริ่มจาง ทีมสอบสวนชุดนี้ก็ทำงานแบบหายเข้ากลีบเมฆ ไม่มีการเรียกประชุมพิจารณาอะไรกัน แบบนี้คงไม่ดีแน่ เพราะประชาชนจำนวนมากก็อยากรู้ว่าพนักงานสอบสวนจะมีแนวทางการสอบสวนและมีความเห็นในเรื่องการแสดงความคิดเห็นของผู้ร่วมรายการอย่างสมศักดิ์ เจียมฯ อย่างไร
เนื่องจากประชาชนจำนวนมากที่ติดตามชมรายการดังกล่าวก็มีข้อคาใจไม่น้อยว่า เนื้อหาบางตอนที่นายสมศักดิ์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถาบันนั้นค่อนข้างหมิ่นเหม่พอสมควร เรื่องที่ว่ากระทบกับความรู้สึกของประชาชนคนไทยทั้งประเทศนั้นกระทบแน่ หลายคนไม่เห็นด้วย และได้มีการแสดงออกกันไปมากแล้ว
แต่ก็อยากรู้ว่าในทางการสอบสวนของตำรวจแล้ว การแสดงความคิดเห็นของนายสมศักดิ์นั้น มันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่
ผลการพิจารณาของคณะทำงานชุด พล.ต.อ.ชัชวาลย์ จะเป็นบรรทัดฐานในอนาคต เมื่อมีการแสดงความคิดเห็นในลักษณะนี้หรือใกล้เคียงกับที่มีการออกอากาศทางตอบโจทย์ ที่ก็จะเป็นประโยชน์ไม่ใช่น้อย
ก็ต้องดูว่าผลการพิจารณาของทีมตำรวจชุดดังกล่าวจะออกมาแบบไหน และจะแล้วเสร็จได้เมื่อใด ซึ่งโดยความจริงแล้วหลายคนก็แสดงความเห็นว่าการพิจารณาของตำรวจไม่น่าจะใช้เวลานานอะไร เพราะข้อเท็จจริงมันสิ้นสุดลงแล้ว จากการนำเสนอเทปรายการทั้ง 5 ตอน
การสืบสวนสอบสวนก็น่าจะแค่พิจารณารายการที่มีการนำเสนอแล้วนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาพิจารณา แต่เพื่อให้เกิดความรอบคอบและเป็นธรรม ก็อาจเรียกผู้เกี่ยวข้อง เช่น ทีมงานรายการตอบโจทย์ หรือผู้บริหารสถานีไทยพีบีเอส มาชี้แจงบางประเด็น ที่พนักงานสอบสวนอาจสงสัยอยู่ หรืออาจขอดูหลักฐานอื่นเพิ่มเติมอาทิการติดต่อทีมงานรายการหรือทางสถานีว่ามี เทปรายการทั้งหมดที่มีการอัดกันในรายการทั้งหมดตั้งแต่นาทีแรกจนถึงนาทีสุดท้ายหรือไม่ เพื่อดูองค์ประกอบการพูดของผู้ร่วมรายการ และการถามของผู้ดำเนินรายการทั้งหมด
หากทำแบบนี้การพิจารณาของตำรวจก็น่าจะได้รับข้อเท็จจริงครบถ้วนและหากมีผลการพิจารณาใดๆ ออกมา ทุกฝ่ายก็จะได้ยอมรับได้ ถ้าแจงให้หมดทุกขั้นตอนการพิจารณา
เชื่อว่าเรื่องแบบนี้คงไม่ต้องชี้แนะกันให้มาก จะหาว่าสอนจระเข้ว่ายน้ำเสียอีก เพราะระดับ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ รายนี้ชื่อชั้นด้านการสอบสวนถ้าดูจากทำเนียบผู้บริหารระดับสูงในสตช.เวลานี้ ถือว่าอยู่ระดับต้นๆ ของ สตช.เลยทีเดียว
ถ้าเทียบระดับ พล.ต.อ.ด้วยกัน หลายคนบอกว่าเป็นรองก็แค่ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.คนเดียว แต่หากในพวกตำรวจรุ่นๆ เดียวกันก็น่าจะหาใครมากิน พล.ต.อ.ชัชวาลย์ยาก
ดังนั้นหลายคนที่อยากรู้ว่าครั้งนี้ สตช.เอาจริงเอาจังแค่ไหน หรือว่าแค่รับลูกตามกระแสการเมือง ของแบบนี้ก็ต้องให้เวลากันก่อน ขืนจะให้ทำแบบเร่งรัด ก็จะถูกหาว่า ทำงานแบบมีธง โหนกระแส
ที่ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ออกมาบอกเมื่อสามวันก่อน หลังได้รับคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวที่บอกว่าตำรวจยังไม่ได้ชี้ชัดไปเลยว่าผิดหรือไม่ผิด ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ แต่จะรีบดำเนินการโดยเร็วที่สุด ถ้าพบว่าผิดก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย ลำดับแรกตำรวจต้องสอบสวนเสียก่อนว่าผิดหรือไม่ จึงระบุผู้มีส่วนผิดได้ พนักงานสอบสวนจะต้องเอาทุกตอนทั้งหมดมาดู การสอบสวนจะดูที่เจตนาว่าเข้าข่ายมีความผิดหรือไม่ ซึ่งการกระทำในภาพรวมจะเป็นตัวบอกได้ว่าการกระทำนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมกับบอกว่าถึงเวลานี้ตำรวจยังไม่เรียกใครมาให้ปากคำ เพียงแต่ประชุมคณะทำงานเพื่อแบ่งงานกันเท่านั้น
ฟัง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปลายสัปดาห์กันแบบนี้ ทางฝ่ายเห็นด้วยกับการทำรายการตอบโจทย์หรือไม่เห็นด้วย ก็น่าจะพอสบายใจได้ เพราะดูแล้วก็น่าเชื่อได้ว่าตำรวจคงไม่สอบกันแบบเล่นตามกระแสแน่นอน
เพราะก็ต้องไม่ลืมว่า พล.ต.อ.ชัชวาลย์เองก็คงไม่อยากให้ใครมาว่าได้ว่าทำงานตามกระแส จะเสียเครดิตตัวเองที่สร้างเอาไว้ก่อนหน้านี้ในฐานะมือกฎหมายแถวหน้าของ สตช. ที่ผ่านตำแหน่งสำคัญๆ มาแล้วมากมาย อาทิ ผู้บังคับการกองคดี-ผู้บังคับการภาควิชาการสอบสวน กองบัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ-ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ-ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง-ผู้ช่วย ผบ.ตร.จนมาถึงปัจจุบันในตำแหน่งที่ปรึกษา สบ 10 ด้านกฎหมาย ที่ยังเหลืออายุราชการอี ก2 ปีครึ่ง
ผลการสอบสวนเรื่องนี้จะออกมาแบบไหน ก็ต้องดูแล้วว่า พล.ต.อ.ชัชวาลย์ และลูกทีมอีกร่วม 50 คน เมื่อพิจารณาเสร็จแล้วจะมีการอธิบายเรื่องนี้กับสังคมอย่างไร