พท.โต้ “อภิสิทธิ์” ยันแก้ รธน.เพื่อส่วนรวม ปัดตั้งวอร์รูมรับมือประเด็นร้อนการเมือง แต่มีคณะทำงานดูแลสถานการณ์ เสียดาย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ร่วมขบวนการสันติภาพเจรจรโจรใต้ บีอาร์เอ็น เหน็บหากสำเร็จอย่ามาตีกินผลงาน ชี้ค้านกู้ 2 ล้านล้านตัดโอกาสของประชาชน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญโดยระบุว่า ม.68 เป็นการลดอำนาจประชาชนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงประชนยังสามารถไปร้องศาลรัฐธรรมนูญได้ แค่กำหนดให้ชัดเจนขึ้นว่าต้องผ่านอัยการสูงสุดก่อน
ส่วนการแก้มาตรา 190 พรรคเพื่อไทย ไม่ได้แก้เพื่อตัวเองแต่แก้เพื่อทุกรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศในอนาคต และเพิ่มการพัฒนาศักยภาพประเทศไม่ใช่เพิ่มศักยภาพพรรคเพื่อไทย ขณะที่มาตรา 237 การลงโทษทั้งพรรคด้วยความผิดของคนคนเดียวเป็นความไม่ยุติธรรม
ส่วนที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าพรรคเพื่อไทยมีการตั้งวอร์รูมรับมือประเด็นร้อนทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ขอปฏิเสธว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีวอร์รูมมีแต่คณะทำงานที่จะดูสถานการณ์ทางการเมือง เพื่อรายงานข้อมูลที่ถูกต้องเป็นประโยชน์ให้ประชาชน
นายอนุสรณ์ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นเพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า แม้แต่นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ยังเห็นด้วยว่าการเจรจาพูดคุยเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแก้ปัญหา แต่น่าเสียดายที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนำโดยนายอภิสิทธิ์ และนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคออกมาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมขบวนรถไฟสันติภาพครั้งนี้
หากการเจรจาสำเร็จเกิดสันติภาพในพื้นที่ตามเป้าหมายหลัก คือ ลดเหตุรุนแรงรายวัน หยุดการกระทำรุนแรงต่อเป้าหมายอ่อนแอ และหยุดคาร์บอมในเขตเมือง พรรคประชาธิปัตย์จะออกมาตีกินว่ามีส่วนร่วมในการเกิดสันติภาพไม่ได้ โดยยืนยันว่าการเจรจาเป็นการจัดการภายในจะไม่มีการยกระดับไปเวทีนานาชาติอย่างแน่นอน ส.ส.พรรคเพื่อไทยขอสนับสนุนแนวทางดังกล่าวของรัฐบาล พร้อมขอเชิญชวนทุกฝ่ายมาช่วยกันแก้ปัญหาและเป็นกำลังใจให้รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จะเจรจาให้เกิดความสงบสุข
ด้าน น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตามพรรคประชาธิปัตย์ออกมาขวางรัฐบาลกรณีออก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเพื่อปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานของประเทศนั้น พรรคเพื่อไทยยืนยันนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเชื่อมต่อภูมิภาคต่างๆ ทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ที่สำคัญเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการขนส่งสินค้า ดังนั้นสินค้าไทยจะแข่งขันกับตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ พรรคได้ให้ ส.ส.ลงพื้นที่ถามความเห็นประชาชนทั่วประเทศซึ่งให้การตอบรับการทำงานของรัฐบาลอย่างดี ดังนั้นการออกมาคัดต้านถือเป็นการตัดโอกาสของประชาชน จึงอยากเรียกร้องให้พิจารณาอย่างสมเหตุสมผลและนึกถึงความสุขของประชาชนทั้งประเทศ
