“เพื่อแม้ว” ตั้งวอร์รูมสู้ศึกเคลื่อนไหวปม “แก้ รธน.-2 ล้านล้าน-พระวิหาร” วางตัว “วราเทพ” คุมเกมในสภาฯ “โต้ง-ชัชชาติ” รับบทแถ เตรียมแผนโต้ฝ่ายต้านดึงสมรสลูกเจ๊แดง-บุตรชายคนสนิท “ฮุน เซน” โยงเขาพระวิหาร
วันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า หลังจากผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา และรัฐบาลพยายามที่เร่งพิจารณาว่าด้วย พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทให้แล้วเสร็จ โดยสัปดาห์หน้าจะมีการเสนอเลื่อนการพิจารณาขึ้นมาเร็วขึ้น ขณะที่วันที่ 15-19 เม.ย.รัฐบาล ไทยเตรียมขึ้นแถลงด้วยวาจาคดีข้อพิพาทปราสาทพระวิหารต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งพรรคประเมินว่าจะมีการชุมนุมของกลุ่มที่เคยออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านนอกสภาฯ ด้วย ดังนั้น ทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยจึงได้เตรียมรับมือโดยการตั้งทีมวอร์รูมมอนิเตอร์การชี้แจงในสภา และประเด็นต่างๆ ที่จะมีตอบโต้กันทางการเมือง โดยประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะมีนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย น.พ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายนพดล ปัทมะ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายสุชน ชาลีเครือ รวมถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ซึ่งอยู่ในทีมยุทธศาสตร์ทั้งหมดเป็นทีมวอร์รูม
ขณะที่การชี้แจง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทในสภาฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นคนคุมเกมในสภา โดยให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เป็นหลักในการชี้แจง
ส่วนการแถลงด้วยวาจาต่อสู้คดีข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร ทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยได้ให้อดีต รมว.ต่างประเทศ อาทิ นายสมพงษ์ นายนพดล และทีมกฎหมายพรรค นายพงศ์เทพ นายนิวัฒน์ธำรง นายชูศักดิ์มาเป็นทีมวอร์รูมเพื่อการชี้แจงและให้ข้อมูลเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยเองหวั่นว่าจะนำมีการนำประเด็นการสมรสระหว่างนายแนม ลินาล บุตรชายนายเซียง นัม ส.ส.จังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของสมเด็จฯ ฮุน เซน กับ น.ส.ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาวของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคไทย ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ค.นี้มาโยงกับคดีปราสาทพระวิหาร รวมถึงได้มีการประเมินว่าไทยมีแนวโน้มแพ้คดีในศาลโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการสไกป์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มายังที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 19 มี.ค. สั่งให้เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ ห้ามไม่ว่าใครก็ตามที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญห้ามพูด ส่วนคนที่มีหน้าที่พูดก็ให้ออกมาพูดบ้าง โดยมอบหมายให้นายนพดล เป็นผู้คุมในเรื่องนี้ และย้ำให้ ส.ส.พรรคเข้าประชุมสภาฯ ทุกคน ห้ามทำให้องค์ประชุมไม่ครบอีกเด็ดขาด โดยในสภาฯ จะมีนางเยาวภาควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด และช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาฯให้ทุกพื้นที่ทำการสำรวจความนิยมของตัวเองใน พื้นที่เพราะหากคะแนนลดลงอาจจะมีผลกระทบ สำหรับนายกฯ ต้องประเมินตัวเองว่าการทำงานตัวเองด้วย พรรคกับรัฐบาลทำงานไปด้วยกัน คนที่เป็น รมต.ก็เข้าพรรคบ้าง ไม่ใช่บอกว่าไม่มีเวลาแล้วไม่เข้าพรรคเลย และการปรับ ครม.ครั้งนี้จะปรับเฉพาะพรรคชาติไทยพัฒนาเพียงพรรคเดียว โดยครั้งหน้าจะเป็นการปรับใหญ่ และต้องเข้าใจตำแหน่งมีน้อย แต่คนทำดีมีฝีมือจะได้อยู่ต่อ แต่คนที่กระทรวงก็ไม่เข้า พรรคก็ไม่มาก็ต้องปรับออก ส่วนประธานกรรมาธิการที่กำหนดให้อยู่ในวาระคนละ 2 ปี ถ้าแสดงฝีมือทำงานดีก็จะเลื่อนมาเป็น รมต. ถ้าทำงานไม่ดีก็ถูกปรับออกจากประธานกรรมาธิการเหมือนกัน
ทั้งนี้ ในการสไกป์ พ.ต.ท.ทักษิณได้ให้พรรคมีการประชาสัมพันธ์พรรคใหม่ทั้งหมด โดยเมื่อวันที่ 19 มี.ค. พรรคเพื่อไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เซ็นคำสั่งยกเลิกและแต่งตั้งรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วยนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด และ น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ ขณะที่โฆษกพรรคยังเป็นนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โดยปรับนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ พ้นจากการเป็นรองโฆษก หลังจากออกมาพูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใครหรือเสาไฟฟ้าลงสมัครก็จะชนะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.
