ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้มีคำสั่งยกเลิก และแต่งตั้งรองโฆษกพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ โดยระบุว่า เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ และให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของพรรคทั้งทางด้านสังคมและการเมือง ตลอดจนแนวนโยบายของพรรคต่อสาธารณชน ให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสถานการณ์ จึงมีการแต่งตั้ง นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส. สุรินทร์ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม และนางสาวอนุตตมา อมรวิวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นรองโฆษกพรรค ชุดใหม่ ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปรับเปลี่ยนทีมงานโฆษกครั้งนี้ เพราะทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเห็นว่า ที่ผ่านมาการตอบโต้ ชี้แจง ข้อกล่าวหาของฝ่ายตรงข้ามยังดีไม่เท่าที่ควร จึงมีการเปลี่ยนแปลงโดย ให้นายครูมานิตย์ เป็นตัวแทนของส.ส.กลุ่มภาคอีสาน ชี้แจงในลักษณะ ลูกทุ่ง เข้าใจง่าย แต่งตั้ง นายอนุสรณ์ เป็นตัวแทนของกลุ่มเสื้อแดง และปลอบใจที่อกหักจากตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามในลักษณะ ถึงลูกถึงคน ส่วนนางสาวอนุตตมา จะออกมาชี้แจงในบทบาทเชิงวิชาการ
สำหรับทีมรองโฆษกชุดเดิมนั้น ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต ได้รับการเลื่อนชั้น ขึ้นไปเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. ถูกปลด เพราะผู้ใหญ่ไม่พอใจ ที่ปากไว ไประบุว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคเพื่อไทย ถึงจะส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ กลายเป็นประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบยกมาโจมตี ต้องเสียเวลาชี้แจง และมีการมองว่า เป็นสาเหตุหนึ่งในการพ่ายแพ้ของพล.ต.อ. พงศพัศ พงศเจริญ ด้วย
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ กล่าวถึงกรณีที่ตนถูกปลดจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ว่า ความจริงตนได้แสดงเจตจำนงค์ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนแล้วว่า ต้องการลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวไปทำงานในสภาฯ อย่างเต็มตัวเพราะสภาก็มีความสำคัญในการเดินหน้ากฎหมายต่างๆมากกว่า ขณะที่วิปรัฐบาลก็ต้องการให้ไปช่วยงานในสภาฯ เพราะเห็นว่ามีความเหมาะสมกว่าคนอื่นๆ อย่างโฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้มาอภิปรายในสภาฯ อย่างเช่นตน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ถูกปลดเพราะเคยระบุว่า ส่งเสาไฟฟ้าก็ชนะในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ใช่หรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก และตัวเองได้ชี้แจงไปแล้วหลายครั้งว่า เป็นเพียงคำถามชี้นำ บวกกับมีการใส่ร้ายป้ายสีเพิ่มขึ้น ซึ่งหากนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะเชื่อ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเขา เพราะมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลที่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งในพรรค หากถามถึงความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ตนได้รับ คงต้องถามเลขาธิการพรรคมากกว่า
"เรื่องเสาไฟฟ้า คงไม่ใช่ปัญหา หากจะมีปัญหาก็เพราะเป็นเด็กคุณหญิง (สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์) และก่อนการเลือกตั้งผมก็เป็นผู้เสนอชื่อคุณหญิง"
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยต้องสามัคคี และต้องมีความแข็งแรง เพื่อต่อสู้กับศัตรูข้างนอก ที่จะต้องเผชิญปัญหาอีกมากมาย
"วันนี้พรรคเพื่อไทยชนะแล้ว จึงมีการปรับเปลี่ยนทีมโฆษกใหม่ โดยเน้นงานทางด้านวิชาการ ทางกลุ่มเสื้อแดง และแบบลูกทุ่ง เพื่อเข้าถึงชาวบ้านได้ โดยไม่ต้องใช้ทีมโฆษกฯแนวรุกอย่างที่ตัวเองเคยทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ที่ต้องใช้ทักษะในเชิงรุกมากเป็นพิเศษ ส่วนจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง หรือไม่ ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยนิ่งนอนใจเกินไปเพราะสถานการณ์ตอนนี้มีศัตรูอยู่มากมาย ซึ่งไม่สามารถวางใจได้" นายจิรายุ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการปรับเปลี่ยนทีมงานโฆษกครั้งนี้ เพราะทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเห็นว่า ที่ผ่านมาการตอบโต้ ชี้แจง ข้อกล่าวหาของฝ่ายตรงข้ามยังดีไม่เท่าที่ควร จึงมีการเปลี่ยนแปลงโดย ให้นายครูมานิตย์ เป็นตัวแทนของส.ส.กลุ่มภาคอีสาน ชี้แจงในลักษณะ ลูกทุ่ง เข้าใจง่าย แต่งตั้ง นายอนุสรณ์ เป็นตัวแทนของกลุ่มเสื้อแดง และปลอบใจที่อกหักจากตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามในลักษณะ ถึงลูกถึงคน ส่วนนางสาวอนุตตมา จะออกมาชี้แจงในบทบาทเชิงวิชาการ
สำหรับทีมรองโฆษกชุดเดิมนั้น ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต ได้รับการเลื่อนชั้น ขึ้นไปเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. ถูกปลด เพราะผู้ใหญ่ไม่พอใจ ที่ปากไว ไประบุว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคเพื่อไทย ถึงจะส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ กลายเป็นประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบยกมาโจมตี ต้องเสียเวลาชี้แจง และมีการมองว่า เป็นสาเหตุหนึ่งในการพ่ายแพ้ของพล.ต.อ. พงศพัศ พงศเจริญ ด้วย
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ กล่าวถึงกรณีที่ตนถูกปลดจากตำแหน่งรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ว่า ความจริงตนได้แสดงเจตจำนงค์ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนแล้วว่า ต้องการลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวไปทำงานในสภาฯ อย่างเต็มตัวเพราะสภาก็มีความสำคัญในการเดินหน้ากฎหมายต่างๆมากกว่า ขณะที่วิปรัฐบาลก็ต้องการให้ไปช่วยงานในสภาฯ เพราะเห็นว่ามีความเหมาะสมกว่าคนอื่นๆ อย่างโฆษกพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้มาอภิปรายในสภาฯ อย่างเช่นตน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ถูกปลดเพราะเคยระบุว่า ส่งเสาไฟฟ้าก็ชนะในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ใช่หรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก และตัวเองได้ชี้แจงไปแล้วหลายครั้งว่า เป็นเพียงคำถามชี้นำ บวกกับมีการใส่ร้ายป้ายสีเพิ่มขึ้น ซึ่งหากนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะเชื่อ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเขา เพราะมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลที่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งในพรรค หากถามถึงความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ตนได้รับ คงต้องถามเลขาธิการพรรคมากกว่า
"เรื่องเสาไฟฟ้า คงไม่ใช่ปัญหา หากจะมีปัญหาก็เพราะเป็นเด็กคุณหญิง (สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์) และก่อนการเลือกตั้งผมก็เป็นผู้เสนอชื่อคุณหญิง"
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยต้องสามัคคี และต้องมีความแข็งแรง เพื่อต่อสู้กับศัตรูข้างนอก ที่จะต้องเผชิญปัญหาอีกมากมาย
"วันนี้พรรคเพื่อไทยชนะแล้ว จึงมีการปรับเปลี่ยนทีมโฆษกใหม่ โดยเน้นงานทางด้านวิชาการ ทางกลุ่มเสื้อแดง และแบบลูกทุ่ง เพื่อเข้าถึงชาวบ้านได้ โดยไม่ต้องใช้ทีมโฆษกฯแนวรุกอย่างที่ตัวเองเคยทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ที่ต้องใช้ทักษะในเชิงรุกมากเป็นพิเศษ ส่วนจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง หรือไม่ ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยนิ่งนอนใจเกินไปเพราะสถานการณ์ตอนนี้มีศัตรูอยู่มากมาย ซึ่งไม่สามารถวางใจได้" นายจิรายุ กล่าว