xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ไฟเขียวจัดทำความตกลงวิชาการกับปาปัวนิวกินี ก่อนนายกฯ ไปเยือน 24-25 มี.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
​ครม.อนุมัติการจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี โดยรับรองคำแถลงข่าวร่วมและอนุมัติลงนามบันทึกความเข้าใจในระหว่างการเยือนปาปัวนิวกินีอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี 24-25 มี.ค. พร้อมทั้งจัดทำกรอบความร่วมมือว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนด้านการศึกษาระหว่างรัฐบาลนิวซีแลนด์และรัฐบาลไทย

วันนี้ (19 มี.ค.) นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมมีมติคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้ ​1. เห็นชอบร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี ​2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในความตกลงดังกล่าว ​3. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

​ทั้งนี้ ร่างความตกลงฯ จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดกรอบแนวทางความร่วมมือที่มุ่งสนองตอบต่อความต้องการในการพัฒนาของปาปัวนิวกินี และเป็นกลไกที่จะช่วยรัฐบาลไทยในการบริหารการให้ความร่วมมือทางวิชาการแก่ปาปัวนิวกินีอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะส่งผลต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศผู้ให้ร่วมกับประเทศผู้รับ อีกทั้งยังส่งเสริมบทบาทเชิงรุกของไทยในเวทีระหว่างประเทศ โดยใช้ความร่วมมือทางวิชาการเป็นเครื่องมือในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยรัฐบาลแห่งรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีจะอำนวยความสะดวกและให้สิทธิพิเศษและความคุ้มครองที่สำคัญและเกี่ยวข้องแก่เจ้าหน้าที่ไทยที่เข้าไปปฏิบัติงานในปาปัวนิวกินี และการนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ภายใต้โครงการความร่วมมือทางวิชาการ เช่น การยกเว้นภาษี การอำนวยความสะดวกพิธีการทางศุลกากร และหากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือตามข้อตกลงดังกล่าวในส่วนของรัฐบาลไทยจะใช้จ่ายจากงบประมาณประจำปีหมวดเงินอุดหนุนงานให้ความร่วมมือทางวิชาการและเศรษฐกิจแก่ต่างประเทศของสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) (กต.) ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ โดยเห็นชอบคำแถลงข่าวร่วมไทย-ปาปัวนิวกินีในหลักการและอนุมัติให้นายกรัฐมนตรีร่วมรับรองคำแถลงข่าวร่วมดังกล่าว ​และเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือทวิภาคีไทย-ปาปัวนิวกินี และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ​รวมถึงหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงเอกสารข้างต้น ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้ กต.สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

โดยกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเดินทางเยือนปาปัวนิวกินีอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคม 2556 เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และยืนยันเจตนารมณ์ร่วมเชิงนโยบายระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี จึงได้มีการจัดทำเอกสาร ในการทำคำแถลงข่าวร่วมไทย-ปาปัวนิวกินี เพื่อแสดงถึงการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและปาปัวนิวกินี โดยการเยือนปาปัวนิวกินีครั้งนี้เป็นการเยือนระดับนายกรัฐมนตรีครั้งแรกของไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในทุกมิติ

ทั้งนี้ การเยือนดังกล่าวยังเป็นการแสดงความพร้อมของไทยในฐานะประเทศผู้ให้ใหม่ (emerging donor) และแสดงถึงบทบาทนำของไทยในภูมิภาคอาเซียนด้วย​​บันทึกความเข้าใจระหว่าง กต.แห่งราชอาณาจักรไทยกับ กต.แห่งรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคี จัดทำขึ้นเพื่อจัดตั้งกรอบและกลไกการหารือทวิภาคีระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศของไทยและปาปัวนิวกินีในลักษณะเปิดกว้าง โดยทั้งสองฝ่ายสามารถกำหนดวาระการหารือ ระดับหัวหน้าคณะ ช่วงเวลาสถานที่ประชุมหารือ ประเด็นหารือให้ครอบคลุมความสัมพันธ์ทวิภาคี ประเด็นระหว่างประเทศและอื่นๆ ตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นเหมาะสม และเป็นการให้คำมั่นที่จะพัฒนาและกระชับสายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพระหว่างทั้งสองประเทศ ตลอดจนกำจัดปัญหาอุปสรรคและความเข้าใจที่ไม่ตรงกันที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งการสนับสนุนความร่วมมือด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม และให้ความสำคัญของการจัดตั้งกลไกการหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างทั้งสองประเทศอย่างสม่ำเสมอ

ขณะเดียวกัน ครม.เห็นชอบคำแถลงข่าวร่วมและอนุมัติลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไทย-นิวซีแลนด์ และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าว ในระหว่างการเยือนนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ รวมถึงหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงเอกสารข้างต้นในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้ กต. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติการจัดทำและลงนามกรอบความร่วมมือว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนด้านการศึกษาระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลนิวซีแลนด์ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ทั้งนี้ หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขกรอบความร่วมมือฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ ให้ ศธ.หารือกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้นๆ แทนคณะรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น