“เจ้าชายฟิลิปป์” และ “ยิ่งลักษณ์” ยินดีผลสำเร็จแผนปฏิบัติการร่วมไทย-เบลเยียม ก่อนร่วมงาน สโมสรสันนิบาต กระชับสัมพันธ์ขยายโอกาสทางการค้าการลงทุน แลกเปลี่ยนความรู้และการวิจัยทางการแพทย์
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เจ้าชายฟิลิปป์ มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรเบลเยียม (HRH. Prince Philippe of Belgium) พร้อมด้วยเจ้าหญิงมาทิลด์ พระชายา ได้เสด็จฯ ยังทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะพระราชอาคันตุกะส่วนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ 17-22 มี.ค. 56 โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รอรับเสด็จ และถวายการต้อนรับ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนเชิญเสด็จสู่ตึกสันติไมตรี หลังใน เพื่อหารือข้อราชการ โดยผู้ร่วมหารือฝ่ายไทย ประกอบด้วย นายกฯ และรัฐมนตรี อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทย-เบลเยียม เป็นต้น ส่วนผู้ร่วมหารือฝ่ายเบลเยียม นอกจากเจ้าชายฟิลิปป์แล้วยังมีผู้ร่วมคณะ อาทิ นายดิดิเยร์ เรนเดอร์ส รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ
โดยภายหลังการหารือ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงผลการหารือดังกล่าวว่า นายกฯได้กราบทูลรับเสด็จเจ้าชายฟิลิปป์ เจ้าหญิงมาทิลด์ พระชายา และคณะในการเสด็จเยือนประเทศไทย ที่สะท้อนถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ไทยและเบลเยียมในทุกมิติ พร้อมทั้งกราบทูลรายงานผลการเยือนเบลเยียมของนายกฯ ที่ประสบความสำเร็จ และการได้พบหารือนายกฯ เบลเยียม ซึ่งจะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ รวมถึงการประกาศเริ่มเจรจา FTA Thai -EU พร้อมทั้งกำหนดกรอบเวลา และรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์จาก FTA ฉบับนี้อย่างแท้จริง
นายสุรนันทน์กล่าวต่อว่า ในโอกาสนี้ เจ้าชายฟิลิปป์และนายกฯ ได้แสดงความยินดีต่อผลสำเร็จของ แผนปฏิบัติการร่วมไทย-เบลเยียมซึ่งใช้เวลากว่า 8 ปีในการดำเนินการเจรจาเพื่อจัดทำแผนดังกล่าว ซึ่งแผนปฏิบัติการร่วมนี้จะเป็นกรอบการดำเนินการความร่วมมือต่างๆ ของสองประเทศ
นายสุรนันทน์ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย-เบลเยียม ว่าเบลเยียมจะสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ทั้งด้านปริมาณและมูลค่า ที่ปัจจุบันมีนักลงทุนเบลเยียมให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริษัทสำคัญ เช่น Solvay VinythaiGlow Katoen Natie เป็นต้น และยังมีแผนการขยายการลงทุนในไทย ทั้งนี้ ไทยมีแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งภาคเอกชนของเบลเยียมสามารถมีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าว ขณะเดียวกัน ไทยส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในยุโรป ซึ่งเบลเยียมจะเป็นประตูสู่ยุโรปให้แก่ภาคเอกชนไทย โดยรัฐมนตรีเบลเยียมและภาคเอกชน ได้พบปะกับ รัฐมนตรีทางด้านเศรษฐกิจของไทย รวมถึงจะมีงานสัมมนาภาคเอกชน เพื่อแสวงหาลู่ทางการขยายโอกาสทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน รวมทั้งมีกำหนดการพบกับ รมว.สาธารณสุขของไทย ซึ่งเบลเยียมมีความรู้และความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ โดยเฉพาะการผลิตวัคซีน ที่ไทยและเบลเยียมจะได้แลกเปลี่ยนความรู้และการวิจัย ระหว่างสถาบันวิจัยของสองประเทศ นอกจากนี้ เบลเยียม ยังได้ชื่นชมพัฒนาการของอาเซียน และบทบาทของไทยในการขับเคลื่อนภูมิภาค โดยเบลเยียมแสดงความประสงค์ที่จะร่วมกับไทยในการพัฒนาอาเซียนและภูมิภาค โดยจะใช้ศักยภาพของเบลเยียมในฐานะศูนย์กลางของยุโรป และไทยในฐานะศูนย์กลางของอาเซียน ร่วมพัฒนาความร่วมมือของสองภูมิภาคเพื่อการเติบโตร่วมกัน
โดยภายหลังการหารือ มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรเบลเยียมทรงเป็นประธานในพิธีลงนามแผนปฏิบัติการร่วมไทย-เบลเยียม ระหว่าง รมว.ต่างประเทศของไทยและเบลเยียม โดยนายกฯร่วมเป็นสักขีพยาน จากนั้น นายกฯ กราบทูลเชิญมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรเบลเยียม และพระชายา เสด็จเข้าสู่งานสโมสรสันนิบาต ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก และงานถวายพระกระยาหารค่ำ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเสด็จเยือนไทยของเจ้าชายฟิลิปป์ ทรงนำคณะนักธุรกิจกว่า 200 รายร่วมคณะ เพื่อแสวงหาแนวทางความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและเบลเยียม พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายระหว่างภาคเอกชนทั้งสองให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยภาคเอกชนทั้งสองจะได้ร่วมกิจกรรมสัมมนาทางธุรกิจและมีตัวแทนจากภาครัฐ เช่น รัฐมนตรีเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ร่วมสัมมนาเพื่อสนับสนุนข้อมูล และโอกาสในประเทศไทย และในโอกาสเดินทางเยือนไทยครั้งนี้ เจ้าชายฟิลิปป์จะเสด็จเป็นประธานเปิดป้ายสัญลักษณ์โครงการปรับปรุงสะพานมิตรภาพไทย-เบลเยียม ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของไทยและเบลเยียม