สำนักข่าวอิศราอ้างแหล่งข่าว พนง.ไทยพีบีเอส ยันไม่มี บก.ตบเท้าเข้าพบ ผอ.สถานีก่อนเทป “ตอบโจทย์” ระงับออกอากาศ ชี้ก่อนหน้านี้ม็อบบุกสถานีจี้แบนเทป ส่งตัวแทนแจงแล้วแต่ไร้ผล แถมถูกต่อว่าด้วยอารมณ์รุนแรง หวั่นมีผลความปลอดภัยพนักงาน ด้าน ผอ.ไทยพีบีเอสแจงไม่มีข่าวไหนที่สำคัญกว่าความปลอดภัยของคนทำข่าว
วันนี้ (18 มี.ค.) สำนักข่าวอิศรา รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ให้ข้อมูลอีกด้านกรณีการยุติออกอากาศเทปรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอนที่ 5 ที่มีนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ และนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เป็นแขกรับเชิญเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ระบุว่าในวันดังกล่าว ไม่มีพนักงานระดับบรรณาธิการตบเท้าเข้าพบนายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการสถานีแต่อย่างใด เพราะการประชุมรอบสุดท้าย ก่อนที่นายสมชัยจะมีคำสั่งให้ยุติการออกอากาศเทปรายการดังกล่าว เกิดขึ้นโดยมีผู้อยู่ร่วมในการตัดสินใจราว 11-14 คน
“ในวันศุกร์มีการประชุมเพื่อแก้ปัญหากรณีมีกลุ่มคนมาเรียกร้องให้ยุติการออกอากาศถึง 3 รอบ รอบแรกในช่วงบ่าย คณะกรรมการนโยบายมีการนำเทปรายการตอบโจทย์ ตอนสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ ตอนที่ 5 ไปนั่งดู ก่อนลงมติว่าไม่มีความจำเป็นต้องยุติการออกอากาศ เพียงแต่ให้ทำวีทีอาร์ว่ามีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการออกอากาศ เพื่อให้เนื้อหารายการมีความรอบด้านมากขึ้น รอบที่สอง มีการเรียกประชุมพนักงานระดับ บก.ในเวลาราว 1 ทุ่ม เพื่อแจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบาย ที่ไม่มีใครคัดค้านอะไร” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวยังกล่าวว่า ส่วนการประชุมรอบที่สาม เกิดขึ้นในเวลาราว 21.00 น. หลังจากมีการนำผลการประชุมรอบที่สองไปแจ้งต่อผู้ชุมนุมใต้สถานี ซึ่งเวลานั้นยังคงนั่งติดตามผลการเรียกร้องให้ยุติการออกอากาศเทปรายการตอบโจทย์ฯ ตอบดังกล่าวโดยทันที โดยผู้ที่ลงไปเจรจาได้แก่นายมงคล ลีลาธรรม รองผู้อำนวยการสถานี แต่ปรากฏว่าผู้ชุมนุมนอกจากไม่รับฟังคำชี้แจง ยังต่อว่านายมงคลด้วยอารมณ์รุนแรง ทางผู้บริหารสถานีประเมินแล้วว่าอาจมีผลต่อความปลอดภัยของพนักงาน จึงมีการเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการสถานี ไม่มีการตบเท้าเข้าพบโดยบรรณาธิการ 2 คน ได้แก่ น.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ บรรณาธิการข่าวสังคมและนโยบายสาธารณะ และนายบุตรรัตน์ บุตรพรม บรรณาธิการรายการข่าว อย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
“เป็นการเรียกประชุม ไม่ใช่การตบเท้าเข้าพบ ในห้องนอกจาก ผอ.สมชัย ก็มีรอง ผอ.มงคล ฝ่ายกฎหมาย บก.จำนวนหนึ่ง และผู้ประสานงานกับทีมตอบโจทย์ โดยมีคนอยู่ในห้องราว 11-14 คน บางคนเดินเข้าๆ ออกๆ เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ ก็คุยกันมาเรื่อย กระทั่งมีคนบอกว่า เหลือเวลาอีก 15 นาทีจะถึงเวลาออกรายการตอบโจทย์เทปดังกล่าว รอง ผอ.มงคล จึงเสนอให้ ผอ.สมชัยตัดสินใจ ซึ่ง ผอ.สมชัยก็ตัดสินใจว่าจะให้เลื่อนการออกอากาศเทปรายการตอบโจทย์ตอนดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อจะได้มาพิจารณากันให้รอบคอบอีกครั้ง ผอ.สมชัยใช้คำว่าเลื่อนนะ ไม่ใช่ยุติ และไม่มีใครในวงนั้นเสนอให้ยุติหรือแบนเลย” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวยังระบุว่า ที่ตอนแรกมีข่าวว่า น.ส.ณัฏฐา โกมลวาทิน เป็นหนึ่งในบรรณาธิการที่เข้าพบนายสมชัยเพื่อขอให้ยุติการออกอากาศเทปรายการตอบโจทย์ตอนดังกล่าว ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะช่วงเวลาดังกล่าว น.ส.ณัฏฐาต้องจัดรายการที่นี่ไทยพีบีเอส ซึ่งเป็นรายการสด ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.ณัฏฐาตรงนี้จึงผิดพลาด
ส่วนกรณีที่นายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ประกาศยุติการจัดรายการตอบโจทย์ แหล่งข่าวระบุว่า รายการตอบโจทย์เป็นของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นายภิญโญและทีมงานเพียงแค่มารับจ้างจัดรายการให้เท่านั้น รายการตอบโจทย์ถูกคิดขึ้นมาให้คู่กับรายการที่นี่ไทยพีบีเอส เวลานี้ผู้บริหารสถานีกำลังหารือกันอยู่ว่า ในวันจันทร์ที่ 18 มี.ค. 2556 จะให้ใครจัดรายการแทนนายภิญโญ รวมถึงพิจารณาว่าจะทำอย่างไรกับเทปรายการตอบโจทย์ ตอนสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ ตอนที่ 5 ซึ่งยังไม่ได้ออก และเป็นลิขสิทธิ์ของสถานี
อีกด้านหนึ่ง นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ลำดับเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องตัดสินใจชะลอการออกอากาศ เทปรายการตอบโจทย์ว่า ตามเงื่อนไขของเวลาในวันดังกล่าวเป็นการตัดสินใจตามสถานการณ์ที่เลื่อนไหลไปจนเสี้ยวนาทีสุดท้ายก่อนออกอากาศ ที่ฝ่ายบริหารและตัวแทนฝ่ายข่าวที่ลงไปเจรจากับผู้ประท้วงได้ประเมินร่วมกันว่า หากออกอากาศมีโอกาสที่จะนำไปการประจันหน้าและเหตุรุนแรง สุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัยของพนักงานองค์กร
เนื่องจากเวลา 14.00 น. กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยต่อการนำเสนอประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ในรายการตอบโจทย์ประเทศไทย เริ่มทยอยมาร้องเรียนที่สถานี ซึ่งโดยปกติทางสถานีจะจัดพื้นที่รองรับประชาชนที่มาแสดงความคิดเห็นบริเวณนอก อาคารสำนักงานเพื่อป้องกันเหตุที่ไม่คาดคิด แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดฝนตกลมแรง ฝ่ายดูแลอาคาร จึงเชิญผู้ร้องเรียนเข้ามาหลบฝนข้างในอาคาร โดยมีฝ่ายบริหารลงมาดูแลประสานงานอำนวยความสะดวกตามปกติ
ในช่วงเวลานั้น มีการประชุมคณะกรรมการนโยบาย นายสมชัยจึงนำประเด็นร้องเรียนไปรายงานให้ที่ประชุมรับทราบ ที่ประชุมกรรมการนโยบายได้หารือ และให้ความเห็นเป็นส่วนใหญ่ว่าสมควรให้ออกอากาศเทปดังกล่าวได้ ทั้งนี้มิได้มีการลงเป็นมติคณะกรรมการนโยบายแต่อย่างใด ดังนั้นผู้บริหารไทยพีบีเอส จึงยืนยันจุดยืนที่จะทำหน้าที่สื่อสาธารณะ โดยออกอากาศรายการตอบโจทย์ประเทศไทย ตอนที่ 5 และจะเปิดพื้นที่การสื่อสารเพิ่มเติมสำหรับความคิดเห็นที่แตกต่างเพิ่มขึ้นอีก โดยมีการชี้แจงแนวทางดังกล่าวผ่านช่วงข่าวค่ำไทยพีบีเอสเพื่อให้ผู้ประท้วงได้ชมพร้อมกันด้วย และส่งตัวแทนไปเจรจากับผู้ประท้วง แต่สถานการณ์เริ่มตึงเครียดอีกครั้งเนื่องจากผู้ร้องเรียนไม่พอใจกับคำชี้แจงหรือข้อเสนอการเปิดพื้นที่เพิ่มเติม และยืนยันที่จะให้ถอดรายการให้ได้ อีกทั้งประกาศว่าจะรวมตัวกันต่อที่สถานี พร้อมจะกระจายข่าวเรียกผู้สนับสนุนมาชุมนุมเพิ่มเติม โดยพวกตนจะนอนค้างคืนในอาคาร ซึ่งจะทำให้เกิดบรรยากาศการเผชิญหน้ากัน
กระทั่งเวลาล่วงไปถึงประมาณ 21.00 น. ในช่วงที่หน้าจอเป็นรายการที่นี่ไทยพีบีเอส ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวและฝ่ายบริหาร 10 กว่าคนที่เข้าไปเจรจาพูดคุยกับผู้เรียกร้อง ได้มาประชุมกันอีกครั้งเพื่อประเมินสถานการณ์ว่ามีแนวโน้มจะตึงเครียดขึ้นอีกเพราะ มีข่าวว่าจะใช้โซเชียลมีเดียระดมคนมาชุมนุมที่สถานีเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งที่ประชุมเห็นเป็นส่วนใหญ่ว่า หากมีการเติมคนมากขึ้น และทางเราไม่ถอย สื่ออาจกลายเป็นคู่ขัดแย้งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น ถือเป็นการตัดสินใจเสี้ยวนาทีสุดท้าย ซึ่งตอนนั้นในฐานะที่ตนเคยเป็นบรรณาธิการข่าวมาก่อน เคยได้รับการอบรมมาว่า “ไม่มีข่าวไหนที่สำคัญกว่าความปลอดภัยของคนทำข่าว” และในฐานะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ มีหน้าที่ ที่ต้องปกป้องรักษาทรัพย์สินของราชการ จึงจำเป็นต้องตัดสินใจ ที่จะชะลอการออกอากาศ เพื่อลดการเผชิญหน้าและนำเข้าสู่การพิจารณาตามกลไกที่เรามี คือ คณะอนุกรรมการ รับและ พิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน โดยผลการพิจารณาคาดว่าคงจะออกมาใน วันจันทร์ หรือวันอังคารที่ 18-19 มี.ค.นี้ และตนยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงจากภายในหรือภายนอกอย่างที่มีปรากฏในสื่อ
นายสมชัยย้ำว่า ไทยพีบีเอสยังรักษาจุดยืนการทำรายการตอบโจทย์ต่อไป ส่วนกรณีที่นายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา ที่ตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นพิธีกรรายการอย่างกะทันหัน ก็ต้องเคารพการตัดสินใจ ซึ่งก็น่าเสียดาย เพราะนายภิญโญและทีมงานของเขาได้ทุ่มเทให้กับการทำงานตลอดมา จนทำให้รายการเป็นที่รู้จักกว้างขวาง เป็นเครดิตของนายภิญโญ ถึงกระนั้นยืนยันว่ารูปแบบเนื้อหารายการจะยังต้องดำเนินต่อไป โดยกำหนดให้เป็นพื้นที่กลางในการนำเสนอความคิดหลากหลาย และเป็น พื้นที่แลกเปลี่ยนในประเด็นสำคัญๆ อย่างตรงไปตรงมาของสังคมไทยต่อไป
สำหรับการตัดสินใจยุติการจัดรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ของนายภิญโญ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 มี.ค.) สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้งดออกอากาศเทปรายการตอบโจทย์ประเทศไทย ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ตอนที่ 5 ซึ่งเป็นตอนสุดท้าย หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในนามกลุ่มคนไทยผู้รักชาติ ประมาณ 30 คน นำโดยนางซินเทีย เอี่ยมสะอาด ได้เดินทางมายังที่ทำการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อเรียกร้องให้หยุดทำการออกอากาศของเทปรายการตอบโจทย์ประเทศไทย
ภายหลังทางสถานีฯ ได้ออกคำชี้แจงโดยระบุว่า การประชุมพิจารณาเทปรายการ พบว่ามีเนื้อหาที่สมดุลในการแสดงความคิดเห็น แต่ในการประเมินสถานการณ์ เวลาประมาณ 21.00 น. พบว่าอาจมีการขยายความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น คณะผู้บริหารพิจารณาภายใต้หลักการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม องค์การฯ จะต้องไม่สร้างปัจจัยความขัดแย้งเพิ่มเติมหรือเป็นคู่ขัดแย้งเอง นำมาสู่การตัดสินใจพิจารณาทบทวนการนำเสนอประเด็นอ่อนไหวอย่างรอบคอบอีกครั้ง และนำเรื่องร้องเรียนเข้าสู่การพิจารณาของอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ตามมาตรา 46 พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551