โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เผยประธานศาล รธน.ไม่สบายใจ หวั่นตุลาการเข้าใจผิด ยันไม่ได้หมายความว่าวินิจฉัยชิมไปบ่นไปใช้ไม่ได้ แต่พูดแค่หมายถึงรูปแบบการเขียนไม่ใช่เนื้อหา เซ็งสื่อพาดหัวแรงไม่ตรงความหมาย แถมกลัวพวกฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียดโจมตี แต่ยังไม่แถลงแจง
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายสมฤทธิ์ ไชยวงค์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวระบุนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวยอมรับในเวทีสัมมนา “การรักษาดุลยภาพทางการเมืองของศาลรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตย” ที่ จ.เพชรบุรี ชี้คำวินิจฉัยในคดีของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีจัดรายการอาหาร “ชิมไปบ่นไป” เป็นคำวินิจฉัยที่ใช้ไม่ได้ว่า หลังจากที่มีข่าวออกมาในลักษณะดังกล่าว ทางนายวสันต์รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกรงว่าคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 8 คนจะเข้าใจผิด คิดว่าประธานศาลรัฐธรรมนูญคิดเช่นนั้น ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้วไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นเลย อีกทั้งก็เกรงว่าจะถูกฝ่ายการเมืองนำเรื่องดังกล่าวเป็นไปประเด็นทางการเมือง โจมตีศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายวสันต์ ก็ยืนยันว่าไม่ได้หมายความว่าคำวินิจฉัยในเรื่องดังกล่าวนั้นใช้ไม่ได้ แต่สิ่งที่มองว่าใช้ไม่ได้เป็นเรื่องของรูปแบบการเขียนคำวินิจฉัย ไม่ใช่เนื้อหาของคำวินิจฉัยที่ตกเป็นข่าวแต่อย่างใด
“หลังจากที่ทราบข่าวทางประธานศาลรัฐธรรมนูญก็รู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะการโปรยหัวข่าวที่ดูจะหนักและแรงไป แม้ว่าท่านจะอ่านในข่าวแล้วเห็นว่าไม่ได้มีความหมายตามพาดหัวข่าวเลย แต่ก็ ยังวิตกกังวลว่าจะมีคนที่ฟังไม่ศัพท์ จับไปกระเดียด จะเอาสิ่งเหล่านี้ไปโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดเป็นประเด็นทางการเมืองอีกรอบได้ “โฆษกศาลรัฐธรรมนูญกล่าว
นายสมฤทธิ์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเท่าที่พูดคุยกับทางประธานศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้มีการหารือว่าจะมอบหมายให้ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
ขณะที่ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ส่งเอกสารข่าวเพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าวโดยระบุว่า นายวสันต์กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า การกล่าวถึงกรณีดังกล่าวนั้นไม่ได้หมายความว่าคาวินิจฉัยดังกล่าวใช้ไม่ได้ แต่สิ่งที่มองว่าใช้ไม่ได้ เป็นเรื่องของรูปแบบการเขียน คำวินิจฉัย ไม่ใช่เนื้อหาของคำวินิจฉัยดังที่ตกเป็นข่าวแต่อย่างใด เพราะในการวินิจฉัยคดีของศาลนั้นเป็นความลับ ไม่มีการยกร่างคำวินิจฉัยในแนวทางต่างๆ ไว้ล่วงหน้าแน่นอน อีกทั้งเมื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแถลงด้วยวาจาก่อนลงมติ และเมื่อลงมติเสร็จ ก็จะนำมติของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาเขียนเป็นคำวินิจฉัยกลางทันที ดังนั้น ในเรื่องรูปแบบของการร้อยเรียงลาดับในการวินิจฉัยอาจจะดูสับสน เข้าใจยาก ไม่เป็นไปตามลำดับความ ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของการผิดพลาดบกพร่องในส่วนของเนื้อหาคำวินิจฉัยแต่อย่างใด
