xs
xsm
sm
md
lg

“สุกำพล” อ้างอย่ารีบร้อนรอผลถก “บีอาร์เอ็น”-กอ.รมน.จัด 12 แผน รปภ.ชุมชนใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม (ภาพจากแฟ้ม)
รมว.กลาโหม วอนใจเย็นรอผลถก “บีอาร์เอ็น” โต้ยังไม่คุยข้อเสนอโจรเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เผยส่งโผทหารให้นายกฯ แล้ว อีกด้านเหน็บ ปชป.เมินร่วมถกนิรโทษฯ เตือนอย่ามาโวยวายทีหลัง ขณะที่ กอ.รมน.แจง 12 ข้อ แผน รปภ.ชุมชนเมืองไฟใต้ ติดตั้งสัญญาณเตือนภัย ซีซีทีวีพื้นที่เสี่ยง วางกฎควบคุมถังแก๊ส ส่วนโผแม่ทัพ 4 พลิก “สกล” ขึ้นนั่งคุมไฟใต้ตามที่ “อุดมชัย” เสนอ

วันนี้ (11 มี.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เข้าพบเพื่อพูดคุยก่อนที่เดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อพูดคุยกับแกนนำกลุ่มบีอารเอ็น ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ว่า เรื่องนี้ต้องค่อยๆ เดินไป เราไปคาดการณ์ล่วงหน้าไว้เยอะ ยกแรกที่เราเจอกันคือ เราจะคุยกันภายใต้รัฐธรรมนูญไทยเท่านั้น ส่วนการพบกันครั้งต่อไปจะเป็นการคุยกันในรายละเอียดต่างๆ แต่มีการเสนอข่าวมีข้อเสนออย่างโน้นอย่างนี้ ทำให้เกิดความสับสน การพูดคุยต้องใจเย็น อย่าไปเสนอข่าวล่วงหน้ามากนัก ซึ่งการเจรจาเป็นเรื่องดีกว่าไม่เจรจา

ส่วนเรื่องความมั่นคงยังเดินตามปกติ การดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนยังต้องทำอยู่ ขณะนี้ยังเดินคู่ขนานกันทุกอย่าง ไม่ได้แยกกัน ส่วนที่มีข่าวว่า แกนนำบีอาร์เอ็นยื่นข้อเสนอให้ไทยยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นข้อแลกเปลี่ยนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีอะไร ยังไม่ได้คุยกัน เพียงแต่เป็นการคิดคาดเดา ตนยับไม่ได้รับรายงานอะไร ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องว่า เขาจะปกครองตัวเองเป็นเพียงข่าวลอย ซึ่งการพูดคุยครั้งต่อไปจะคุยให้เร็วที่สุด ตอนนี้เป็นเรื่องดีที่สองฝ่ายอยากคุยกัน เราจะได้รู้ว่า เขาต้องการอะไร และเราต้องการอะไร เป็นสิ่งที่ดีมาก

พล.อ.อ.สุกำพล ยังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารกลางปี ว่าขณะนี้ได้ส่งบัญชีปรับย้ายให้กับนายกรัฐมนตรีแล้ว ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เมื่อออกมาก็คงจบ เป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนตำแหน่งกันธรรมดา ส่วนกรณีที่จะมีการเปลี่ยนแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่นั้น ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าออกมาอย่างไร ตอนนี้ยังเป็นความลับอยู่ อย่าเพิ่งไปพูดถึง ขอให้ออกมาก่อนแล้วค่อยพูด

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พล.ท.สกล ชื่นตระกูล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่มีชื่อมาดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 แต่เหลืออายุราชการอีกเพียงปีเดียวจะเป็นปัญหาหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า คนที่จะมาทำงานเหมือนวิ่งผลัด ถ้าวิ่งกันให้ดีจะดีกว่าวิ่งเดี่ยว ซึ่งขึ้นอยู่ที่การส่งมอบและการสานต่อ ไม่ได้มีอะไรมาจำกัด การที่จะย้ายคนมีปัจจัยหลายอย่างในการพิจารณา เรื่องอาวุโสเป็นเพียงข้อหนึ่งในหลายสิบข้อ ยังมีเรื่องความเหมาะสมอีก ดังนั้นต้องมาดูว่า น้ำหนักอยู่ที่ไหน และวันนี้ต้องการคนอย่างไร หรือในโอกาสหน้าต้องการคนอีกแบบหนึ่งก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ไม่มีอะไรตายตัว

นอกจากนี้ พล.อ.อ.สุกำพล ยังกล่าวให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำผิดทางการเมือง ว่ารองปลัดกระทรวงได้มารายงานตนแล้ว โดยมีหลายเรื่องที่เป็นสิ่งที่ดี ถือเป็นการเริ่มต้นครั้งแรก และต้องไปคิดว่า จะมีกลุ่มไหนบ้างที่จะได้รับการนิรโทษกรรม และต้องดูให้ทั่วถึงกัน เพราะขณะนี้มีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รวมถึงกลุ่มคนที่ไม่เข้ามาร่วมด้วย เมื่อมีโอกาสแต่ไม่เข้ามาก็อย่าไปโวยวาย ผลออกมาอย่างไรต้องยอมรับ เพราะมีสิทธิ์แล้วแต่ไม่เข้ามาเอง ก็ช่วยไม่ได้ เราคงจะปล่อยเรื่องนี้ให้ช้าไป โดยให้คนอื่นรับกรรมอยู่ในคุก และให้มารอให้มีคนเข้ามาประชุมครบคงไม่เหมาะสม เพราะใช้เวลามานานแล้ว จึงต้องเดินหน้าต่อไปตามกระบวนการ ใครมีความคิดก็ต้องมาพุดคุยกัน หากช้าและรอให้ครบจำนวนก็จะทำให้ลำบากมากกขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อเราได้เชิญทางพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่เขาไม่มา และคนส่วนใหญ่ต้องมาคอยเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเขายืนยันว่า ไม่มาก็ต้องเดินหน้าต่อไป ส่วน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะครอบคลุมผู้กระทำผิดในคดีอาญาด้วยหรือไม่นั้น เรามีทีมงานดูแลเรื่องนี้อยุ่แล้ว ตนจะไม่วิจารณ์ว่าเป็นอย่างไร อยากให้คนที่มีหน้าที่ทำไป เมื่อเราไม่มีหน้าที่ก็อย่าให้ความเห็นอะไรมาก ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า จะถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ตนไม่ขอตอบแล้วกัน ขี้เกียจตอบ เพราะตอบทุกทีก็เหมือนกันหมด ไม่อยากตอบ เป็นเรื่องข่าวลอย

ด้าน พล.ท.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการรักษาความปลอดภัยชุมชนเมือง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ปัจจุบันการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้เข้าสู่ระยะที่ 2 คือการสร้างความเข้มแข็งในพื้นที่ มีการนำตำรวจอาสาสมัคร (อส.) ลงมาเพิ่มขึ้น ในยามปกติ คนที่รับผิดชอบแผนการรักษาความปลอดภัย มี 2 ท่านคือ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจังหวัด (ผบ.ฉก.จังหวัด) โดยกำหนดการวางกำลังดูแลพื้นที่ชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก ทั้งนี้ ในขั้นเริ่มต้นการวางกำลังจะอยู่ในความรับผิดชอบของ อส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน เมื่อพื้นที่ใดมีกำลังดังกล่าวไม่พอจึงจะนำทหารมาสนับสนุนเพิ่มเติม สำหรับการตั้งด่านตรวจหรือจุดตรวจ ประกอบด้วย ด่านตรวจประจำ/ถาวร ที่มีการปฏิบัติตลอด 24 ชม., ด่านตรวจที่จัดตั้งเพิ่มเติม และด่านตรวจเพื่อปิดล้อมสกัดกั้นภายหลังเกิดเหตุเพื่อลดช่องว่างในการปฏิบัติให้น้อยที่สุด

สำหรับแผนการรักษาความปลอดภัยชุมชนเมือง มี 12 ข้อ คือ 1.ติดตั้งสัญญาณเตือนภัยให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ล่อแหลม 2.ให้มีการควบคุมและบูรณาการเครือข่ายวิทยุเครื่องแดงที่ช่วยเหลือราชการในการแจ้งข้อมูลข่าวสารให้เกิดประสิทธิภาพ 3.จัดกองหนุนเพื่อสนับสนุนการรักษาความปลอดภัยเขตเมืองในพื้นที่ต่างๆ ให้มีความพร้อมตลอด 24 ชม.4.พิจารณานำกฎหมายที่มีอยู่มาใช้เป็นเครื่องมือในการกำหนดการควบคุม เช่น การกำหนดสีของถังดับเพลิง หรือถังแก๊สให้แตกต่างจากพื้นที่อื่น เพื่อให้แยกแยะแหล่งที่มาได้ง่าย รวมทั้งเป็นการควบคุมไม่ให้นำไปก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ต่อไป 5.ปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของจุดตรวจ/ด่านตรวจ 6.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับภูมิทัศน์พื้นที่สองข้างทางในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความปลอดภัยและเป็นการป้องกันการก่อเหตุรุนแรงตามเส้นทางด้วย 7.เร่งรัดเรื่องการบูรณาการติดตั้งกล้องซีซีทีวีให้เกิดประโยชน์สูงสุด และครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่

8.ประสานการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) และ ผบ.ฉก.จังหวัดทั้งด้านการพัฒนาและความมั่นคง 9.กำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันการวางระเบิดอย่างเข้มงวด 10.มีการซักซ้อมแผนการรักษาความปลอดภัยเขตเมืองเพื่อเตรียมการรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น 11.การบังคับใช้กฎหมายจะปรับลดระดับเมื่อพื้นที่มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยจะลดระดับกฎหมายอย่างค่อยเป็นค่อยไปทีละอำเภอ 12.เน้นย้ำว่าแม้การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลจะเข้าสู่กระบวนการพูดคุยสันติภาพ แต่ กอ.รมน.และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ยังคงต้องปฏิบัติงานในการรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ตามปกติ อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะต้องอาศัยการบูรณาการของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ดังนั้น กอ.รมน.จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนสนับสนุนด้านการรักษาความปลอดภัยด้วยการช่วยกันเป็นหูเป็นตา สังเกตสิ่งผิดปกติ และแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ได้ทางสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า 1341 ตลอด 24 ชม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ รมว.กลาโหม ได้เชิญปลัดกระทรวงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพมาหารือกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนนำบัญชีรายชื่อเสนอนายกรัฐมนตรี โดยในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพไทย กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดเพิ่มเติม มีเพียงในส่วนของกองทัพบกที่มีการปรับเปลี่ยนผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งจากเดิมได้วางตัว พล.ต.กิตติ อินทสร รองแม่ทัพภาคที่ 4 ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง โดยได้มีการเปลี่ยนมาชื่อเป็น พล.ท.สกล ชื่นตระกูล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ตามที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เสนอมา โดยปัจจุบัน พล.ท.สกล เป็นผู้อำนวยการส่วนข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และรอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่ง พล.ท.สกล ยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.13 ของ พล.ท.อุดมชัย และยังทำงานในพื้นที่ชายแดนภาคใต้มายังต่อเนื่อง พล.ท.อุดมชัย จึงต้องการให้ พล.ท.สกล มาทำงานในพื้นที่แทน แม้ว่า พล.ท.สกล จะเหลืออายุราชการอยู่เพียงปีเดียวก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น