รมว.กลาโหม เรียกผู้นำเหล่าทัพถกโผทหาร สั่งห้ามนำมือถือเข้าไป หวั่นความลับรั่วเหมือนกรณี “เสถียร” เผยที่ประชุมสั่งทบทวนโผทหารก่อนส่งกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง 8 มี.ค.
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 14.00 น. มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลกลางปี 2556 โดยมี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ทั้งนี้ ก่อนการประชุมเจ้าหน้าที่ได้ขอให้คณะกรรมการประกอบด้วย พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ซึ่งเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ไม่ให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องประชุมโดยให้ฝากกับนายทหารคนสนิท หรือนายทหารฝ่ายเสนาธิการที่เดินทางไปด้วย และมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์บริเวณโดยรอบด้วย
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการใช้โปรแกรมอัดเสียงสนทนาเพราะไม่ต้องการให้ความลับรั่วไหล และเกรงว่าจะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับกรณีของ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เคยนำโทรศัพท์บันทึกเสียงคำสั่งของ พล.อ.อ.สุกำพล ในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารไปร้องต่อศาลปกครอง ทั้งนี้ คณะกรรมการได้หารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ขอหารือกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. เป็นการส่วนตัว
ขณะที่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการเพื่อให้นโยบายในการปรับย้ายนายทหารกลางปี โดยให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพพิจารณาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งให้พิจารณาถึงความเหมาะสม มีความรู้ความสามารถ และคนเก่ง แต่ไม่ขอพูดในรายละเอียด เนื่องจากเกรงจะผิดคำพูดที่เคยสั่งห้าม ผบ.เหล่าทัพ ในเรื่องการประชุมโยกย้ายไปพูดต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตาม การพูดคุยกันในวันนี้จะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้
มีรายงานด้วยว่า พล.อ.อ.สุกำพล ให้นโยบายผู้บัญชาการเหล่าทัพพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากตำแหน่งปรับย้ายในช่วงเดือน เม.ย.มีน้อย ดังนั้น ต้องให้คนที่ทำงานดี และมีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะผู้ที่จะเกษียณอายุราชการในช่วงเดือน ก.ย.นี้ ทั้งนี้ ได้ให้ ผบ.เหล่าทัพ นำรายชื่อปรับย้ายนายทหารกลางปีกลับไปพิจารณาก่อนที่จะให้ส่งกลับมายัง พล.อ.อ.สุกำพล อีกครั้งในวันศุกร์ที่ 8 มี.ค.นี้ ซึ่งการประชุมในวันนี้เป็นไปด้วยความราบรื่นไร้ปัญหาความขัดแย้งใดๆ