เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-กระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกคำแถลงในวันเสาร์ (12) ยืนยันจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการทำหน้าที่ของลักห์ดาร์ บราฮิมี ทูตพิเศษชาวแอลจีเรีย วัย 79 ปี ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในซีเรีย แต่ย้ำว่า รัฐบาลมอสโกไม่ยอมรับเงื่อนไขในการเจรจาสันติภาพของฝ่ายกบฏที่ระบุ ต้องการให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ผู้นำซีเรียต้องยอมสละอำนาจเสียก่อน
ท่าทีล่าสุดของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นที่สุดชาติหนึ่งต่อระบอบอัสซาดมีขึ้น หลังการหารือเมื่อวันศุกร์ (11) กับบราฮิมีที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหาทางยุติความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 2 ปี และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 60,000 ราย นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2011 เป็นต้นมา
โดยในการหารือดังกล่าวซึ่งรัสเซียส่งนายมิคาอิล บ็อกดานอฟ รองรัฐมนตรีต่างประเทศ เข้าร่วมหารือกับทูตพิเศษบราฮิมี รวมถึง มีนายวิลเลียม เบิร์นส์ รองรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯเข้าร่วมด้วยนั้น ไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ เนื่องจากรัสเซียไม่อาจยอมรับเงื่อนไขของฝ่ายสหรัฐฯที่เสนอให้บาชาร์ อัล อัสซาดยอมสละอำนาจเสียก่อน แล้วจึงค่อยเริ่มกระบวนการสันติภาพกับฝ่ายกบฏ
คำแถลงของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุว่า รัฐบาลมอสโกยินดีให้การสนับสนุนต่อการทำหน้าที่ของทูตพิเศษยูเอ็นในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในซีเรียต่อไป แต่รัสเซียยังคงยืนยันในจุดยืนเดิมที่ว่า อนาคตของซีเรียควรอยู่ภายใต้การตัดสินใจของประชาชนชาวซีเรียผ่านทางกระบวนการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองอย่างสันติ ซึ่งต้องมีประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดเข้าร่วมด้วย
ขณะที่แหล่งข่าวทางการทูตในกรุงมอสโกเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ต้องการให้ประธานาธิบดีอัสซาด ผู้นำซีเรียถูกบีบออกจากอำนาจ และปูตินพร้อมขัดขวางสหรัฐฯกับชาติพันธมิตรที่พยายามหาช่องทางใช้กำลังทางทหารเข้าโค่นล้มรัฐบาลซีเรียทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีปูตินยังคงยืนกรานในท่าทีเดิม ที่จะไม่เปิดรับการลี้ภัยของผู้นำซีเรียและครอบครัวในแผ่นดินของรัสเซีย