กกต.แถลงภาพรวมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มีผู้ใช้สิทธิ 63.96% สูงสุดในประวัติการณ์ บัตรเสีย 1.37% ไม่ประสงค์ลงคะแนน 1.75% “สุขุมพันธุ์” ทำลายสถิติ 1.2 ล้านแต้ม ขอบคุณชาวกรุงมาใช้สิทธิ เผยเรื่องร้องเรียนมี 14 เหตุ ไม่พบขายเสียง ชูนิมิตหมายที่ดี จ่อปรับปรุงวางหน่วยเลือกตั้งพ้นแดด-ฝน
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง แถลงภาพรวมการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ปรากฏว่ามีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 63.98 บัตรเสียร้อยละ 1.37 บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนร้อยละ 1.75 ซึ่งจากสถิติพบว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ มีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยในปี2547 เคยมีสถิติผู้ออกมาใช้สิทธิสูงสุดร้อยละ 62.5 แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่ามากที่สุด ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้รับคะแนนสูงสุดถึง 1,256,349 คะแนน เป็นจำนวนคะแนนที่สูงกว่าที่นายสมัคร สุนทรเวช เคยได้รับการเลือกตั้งเมื่อปี 2543
“กกต.ต้องขอขอบคุณประชาชนชาวกรุงเทพฯ ที่ร่วมกันออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ถึงแม้ว่าจะมีฝนตกก็ตาม แต่ทุกคนก็ยังให้ความสนใจกับการเลือกตั้งครั้งนี้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ช่วยดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสื่อฯที่สนับสนุนและเผยแพร่ ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ออกมาด้วยความเรียบและสุจริต ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในระบอบประชาธิปไตย และสามารถช่วยให้การเลือกตั้งของ กทม.พัฒนามากขึ้นจากอดีตเมื่อ 20 ถึง 30 ปีที่ผ่านมา” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์ยังเปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ทาง กกต.กทม.จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาผลการเลือกตั้งก่อนเสนอ กกต.กลางประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เบื้องต้นทราบว่าขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนและร้องคัดค้านเข้ามาให้ กกต.กทม.พิจารณา 14 เรื่อง โดย 4 เรื่องได้รับเป็นเรื่องร้องคัดค้านแล้ว ส่วนอีก 10 เรื่อง อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้อง คาดว่า กกต.กทม.น่าจะสรุปผลการพิจารณาเสนอ กกต.กลางภายในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ ทั้งนี้ในส่วนของเรื่องร้องเรียนไม่พบว่ามีเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง มีเพียงแต่การพูดกันและมีข่าวออกมาเท่านั้น ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คนออกมาใช้สิทธิโดยไม่มีตัวเงินเป็นปัจจัยในการเลือกตั้ง ส่วนประชาชนที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งก็ขอให้ดำเนินการแจ้งเหตุขัดข้องเพื่อรักษาสิทธิภายใน 7 วัน นับแต่วันเลือกตั้งคือวันที่ 10 มีนาคม
นายประพันธ์ยังกล่าวถึงกรณีที่มีนักเรียนไปขอใช้สิทธิใกล้สถานที่สอบ GAT-PAT ว่าคงเป็นความปรารถนาดีของกรรมการประจำหน่วยที่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ไม่มีเจตนาทุจริต แต่ว่ากรณีนี้ไม่มีผลต่อการเลือกตั้งโดยรวม
สำหรับกรณีการที่มีหลานไปใช้สิทธิแทนย่านั้น นายประพันธ์กล่าวว่า อาจเป็นการผิดพลาดและเข้าใจผิด ไม่ได้มีลักษณะการทุจริต อย่างไรก็ตามปัญหาที่พบในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ กกต.จะสรุปข้อบกพร่องทั้งหมด ก่อนที่จะนำไปปรับปรุงแก้ไขในการจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยเฉพาะเรื่องสถานที่หน่วยเลือกตั้งที่อาจต้องอยู่ในอาคาร ป้องกันแดดและฝนที่จะตกลงมาในช่วงการเลือกตั้ง รวมทั้งเรื่องการย้ายคนเข้าทะเบียนบ้าน