“จิตตนาถ” ชี้ “ปชป.-พท.” ล้วนแต่เป็นเนื้อเดียวกัน เตือนคนกทม.อย่าหลงกับวาทกรรมขู่ให้กลัวพวกเผาเมือง ย้ำทางออกวิกฤต ปชป.ควรถอนตัวแล้วประกาศหนุนผู้สมัครอิสระคนใดคนหนึ่ง รับรองชนะเพื่อไทยแน่ พร้อมระบุคะแนนฮวบทำตัวเองทั้งนั้น เพราะไม่กล้าส่งคนเลือดใหม่ลงสมัคร แถมสาวกเที่ยวด่ากราดไปทั่วจนคนเอือม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนเคาะข่าว”
วันนี้ (25 ก.พ.) เมื่อเวลา 20.30 น.นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ กล่าวในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ว่า ตนรู้สึกว่าตอนนี้ตรรกะในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เพี้ยนไปแล้ว มันกลายเป็นการต่อสู้ของ 2 พรรคการเมือง แทนที่จะเป็นการคัดเลือกคนที่จะมาทำหน้าที่พ่อเมือง คนกรุงเทพฯ กำลังสับสนอะไรหรือเปล่า ตนเลยพยายามจะหาทางออกที่ดีกับทุกคน เพราะหลายคนไม่อยากที่จะได้คนที่เผาบ้านเผาเมืองเข้ามา หลายคนก็เบื่อที่กรุงเทพกลายเป็นเมืองแห่งการเมืองไปแล้ว ก็เลยเสนอทางออกให้ประชาธิปัตย์เสียสละด้วยการประกาศลาออกและสนับสนุนผู้สมัครอิสระคนใดคนหนึ่งไปเลย ที่กลัวเสียงแตก คะแนนก็จะได้รวมกัน แล้วเพื่อไทยก็ไม่ได้ด้วย ผู้สมัครอิสระก็จะได้มาดูแลกรุงเทพฯ ให้โอกาสคนใหม่ๆ บ้าง อย่างนี้คนกรุงเทพฯก็แฮปปี้ ปราศจากการเมืองด้วย
เราต้องตั้งสติกันใหม่ก่อนว่าการเลือกตั้ง กทม.คืออะไร วาทกรรมที่ว่าอย่าให้ประเทศโดนกินรวบ อย่าให้พวกเผาเมืองกลับเข้ามา ไม่เลือกเราเขามาแน่ นี่คือนโยบายผู้ว่ากทม. หรือ สรุปกำลังเลือกตั้งรัฐบาล หรือเลือกตั้งคนเข้ามาบริหารกทม.กันแน่ แล้วครั้งนี้หนักที่สุด ครั้งที่แล้วยังแข่งกันที่ภาพลักษณ์ แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องของวาทกรรม เรื่องของอารมณ์ความโกรธแค้น
นายจิตตนาถ กล่าวต่อว่า ถ้าประชาธิปัตย์ชนะคนกรุงเทพฯจะได้อะไร ตนว่าคนกรุงเทพฯซวย เพราะถ้าประชาธิปัตย์ได้ กรุงเทพฯโดนจับเป็นตัวประกันทันที เกิดการงัดข้อกันระหว่างรัฐบาลกับกทม. อย่างเช่นตอนน้ำท่วม แล้วคนที่รับผลกระทบก็คือประชาชน ส่วนเรื่องการกินรวบประเทศนี่ไม่ใช่แน่นอน เพราะประชาธิปัตย์ก็คอร์รัปชัน แล้วจะหนักกว่าเดิมด้วย เพราะนี่คือแหล่งอาหารสุดท้ายของแมลงสาบ เป็นที่ทำมาหากินที่สุดท้ายของประชาธิปัตย์
หากถามถึงผลงาน 4 ปี ที่ผ่านมาของ มรว.สุขุมพันธุ์ ประชาธิปัตย์ชูนโยบายว่าทำแล้วจะทำต่อ สร้างอุโมงค์ยักษ์น้ำก็ยังท่วม สนามฟุตซอล กล้องวงจรปิดปลอม หรือแคมเปญโตไปไม่โกง แต่เรื่องน้ำมันปาล์มขาดแคลนก็โกงกันชัดๆ
แล้วถ้าถามว่าเพื่อไทยชนะคนกรุงเทพฯได้อะไร ก็จะไม่ได้อะไรนอกจากเห็นการคอร์รัปชั่นแบบไร้รอยต่อ เห็นการอำนวยความสะดวกการเคลื่อนไหวทางการเมืองของฟากรัฐบาล เพราะได้ตำรวจเป็นพวกแล้ว แต่ถามว่าช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แล้ว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ เสื้อแดงก็กร่างได้อยู่แล้ว ไม่เห็นมีอะไรแตกต่างขึ้นมาเลย
ในเมื่อบอกว่าอย่าให้พวกเผาเมืองเข้ามา แต่ถ้ามองมุมกลับแล้วทำไมต้องให้คนประกันตัวพวกเผาเมืองกลับมาด้วย พออย่างนี้กลับมาบอกว่าประเทศไทยถูกกินรวบ ในเมื่อคุณก็จับมือกันอยู่ไม่ใช่หรือ ตนมองว่าประชาธิปัตย์และเพื่อไทย จริงๆ เป็นเนื้อเดียวกันหมดเลย อย่าง MOU 44 พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มาสวมตอต่อจาก MOU 43 พอประชาธิปัตย์ขึ้นมาก็เอาเรื่องปราสาทพระวิหารเข้าสู่ศาลโลก เห็นหรือไม่ ที่สุดแล้วมันก็คือเชือกเส้นเดียวกัน
เมื่อถามว่าทำไมต้องเลือกผู้สมัครอิสระ นายจิตตนาถ กล่าวว่า แนวคิดของผู้สมัครอิสระเขาต่างก็มองว่ามีโอกาสชนะไม่ใช่ว่าไม่มี การที่เราเลือกผู้สมัครจากนโยบาย ไม่ยึดติดกับพรรคการเมือง จะเป็นการปฏิวัติทางการเมือง โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ แล้วคนกล้าและดีก็จะมีมากขึ้น
มาที่เรื่องคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ เริ่มต้นตั้งแต่ประชาธิปัตย์ไม่จริงใจต่อคนกรุงเทพฯเลย เดิมทีอยากส่ง นายกรณ์ จาติกวณิช หรือเลือดใหม่ ที่มีความสดเข้ามาลงเลือกตั้ง แต่ปรากฎว่ากลัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไปลงอิสระแล้วเสียงจะแตก ในที่สุดก็เอากลับมา นายอภิสิทธิ์จากที่ไม่เอาก็กัดฟันหลอกตัวเองว่าสุขุมพันธุ์ดีที่สุด ตัวเองยังหลอกตัวเอง แล้วจะหวังอะไรกับคะแนนเสียงจากประชาชน
บวกกับกรณี น.ส.ราตรี โดนปล่อยตัว มันอยู่ที่ว่าประชาธิปัตย์รับมือเป็นหรือเปล่า ถ้าประชาธิปัตย์ออกมาขออภัยว่าทำเต็มที่แล้ว คนจะมองว่าดูแมน แต่กลายเป็นว่าดาหน้ากันออกมาขยี้ น.ส.ราตรี ให้จมดิน แล้วกองเชียร์ก็ไปด่าเสียๆ หายๆ นี่สร้างแรงเอฟเฟกต์ให้คนเห็นว่า น.ส.ราตรี โดนรังแก คนที่อยากช่วยประชาธิปัตย์เลยไม่เอาด้วยแล้ว ด้วยเหตุเหล่านี้ทำให้คะแนนนิยมนิ่ง แล้วมาตกวูบในเรื่องนโยบายทำแล้วจะทำต่อ โค้งสุดท้ายเลยต้องระดมผู้ใหญ่ในพรรคออกมาสร้างกระแสข่มขู่เรื่องกินรวบประเทศไทย
อีกอย่างคือการที่ผู้สนับสนุนเที่ยวไปข่มขู่ผู้สมัครอิสระทางสังคมออนไลน์ จนเกิดแรงต้านทางสังคมออนไลน์เยอะมาก พวกที่เคยร่วมกับเสื้อหลากสีที่ส่วนใหญ่เป็นพวกฟีลกู๊ด ก็กลายเป็นเทความนิยมให้ผู้สมัครอิสระหมดเลย ถือว่าประชาธิปัตย์เพลี่ยงพล้ำมาก
โพลหลายๆ สำนักอาจไม่ถูกต้อง แต่หาก พล.ต.อ.พงศพัศ คะแนนนำจริงก็ไม่แปลก เพราะคะแนนประชาธิปัตย์ดิ่งด้วยตัวเอง แล้วจะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และแกนนำเสื้อแดงเงียบๆ ไปหมด ตอนนี้เลยทำให้เพื่อไทยได้เปรียบอยู่ ฉะนั้นคนที่จะช่วยให้ประชาธิปัตย์ชนะไม่ใช่คนที่ดูเอเอสทีวี ไม่ใช่พลังเงียบ แต่คือเพื่อไทย อย่าทำอะไรเฟอะฟะออกมา แล้วคนจะหมั่นไส้หันไปเทให้ประชาธิปัตย์
นายจิตตนาถ ยังกล่าวด้วยว่า หากอยากให้พันธมิตรฯกลับไปเลือกประชาธิปัตย์ แนวคิดที่ตนเสนอให้ถอนตัว จะทำให้ดูเสียสละขึ้นมาทันที แนวคิดนี้ประชาธิปัตย์มีแต่ได้ พันธมิตรฯจะเทคะแนนให้ คนที่จะเลือกผู้สมัครอิสระ การใช้วาทกรรมเดิมๆไม่ได้ผลแน่นอน เพราะเขามีความคิดที่เป็นอิสระ แต่ถ้าหนุนเขา บวกคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์เอง ชนะเพื่อไทยแน่นอน ทางที่สองง่ายๆ นายอภิสิทธิ์ ไปขอโทษ น.ส.ราตรี ซะ
คำต่อคำ : “จิตตนาถ” ย้ำทางออกวิกฤตผู้ว่าฯ ปชป.ถอนตัวหนุนอิสระ ซัดคะแนนวูบทำตัวเอง
จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคนเคาะข่าว อีกไม่กี่วันแล้วที่คนกรุงเทพมหานคร จะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เลือกอย่างไร หลายคนในสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจจะรู้สึกคลื่นเหียนอาเจียนบ้างเพราะว่า เบื่อหน่ายเหลือเกินกับแคมเปญการเลือกตั้งในครั้งนี้ ทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น บางคนก็บอกว่า โดนข่มขู่จิตใจสารพัด โดยสร้างวาทกรรมให้เกิดความกลัวบ้าง โดนสร้างให้เกิดความรู้สึกว่า เอ๊ะถ้าไม่เลือกเราเขาคนนั้นก็จะมาแน่ หรือแม้แต่ว่าเลือกอิสระทำไมเสียงมันแตก หลากหลายนะค่ะที่ทำให้คุณผู้ชมทางบ้านหลายคน อาจจะรู้สึกว่า ไม่มั่นใจแล้วว่าจะเลือกผู้ว่าฯ กทม.อย่างไร ถึงจะทำให้ กทม.มันน่าอยู่มากขึ้น กว่าทุกวันที่เป็นอยู่นี้ วันนี้แขกรับเชิญของแอนที่แอนเชิญมา เนื่องจากมีการเขียนบทความลงเว็บไซต์ผู้จัดการ วิกฤตผู้ว่าฯ กทม.เส้นผมบังภูเขา อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์กล้าเสียสละหรือเปล่า โดยจิตตนาถ ลิ้มทองกุล
นี่แหละค่ะบทความนี้เลยทำให้หลายคน เออมันเป็นทางออกที่แปลกๆ อยู่เหมือนกัน แต่ว่าถ้าเป็นไปได้ มันก็เปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะเมืองหลวงได้เหมือนกัน ถามว่าทำไมคุณจิตตนาถถึงคิดอย่างนั้น และคุณจิตตนาถรู้สึกอย่างไร วันนี้จึงเขียนบทความนี้ออกมา เออมันเป็นทางออกที่มันน่าจะเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน เนื้อหาอย่างไรต้องให้เจ้าตัวเล่าเองนะค่ะ คุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือเอเอสทีวี ผู้จัดการ สวัสดีค่ะ
จิตตนาถ - สวัสดีครับ คุณแอนครับ
จินดารัตน์ - ตกลงมีอาการคลื่นเหียนบ้างไหมค่ะ
จิตตนาถ - ผมเฉยๆ แล้วครับ
จินดารัตน์ - เฉยๆ นะคะ
จิตตนาถ - ครับ ภูมิต้านทานดี
จินดารัตน์ - ถามที่มาก่อน ที่มาของบทความชิ้นนี้ เขียน อยากให้คุณจิตตนาถ เล่าให้คุณผู้ชมฟังก่อน เพราะบางท่านอาจจะไม่ได้อ่านนะคะ ว่าในเนื้อหาบทความ มันถึงไปโดนแทงใจใคร บางคนโดนถล่มเข้ามา สาวกพรรคโน้น พรรคนี้เข้ามา
จิตตนาถ - ที่มาที่ไป ผมเป็นคนรู้สึกว่าตอนนี้ตรรกะในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพี้ยนไปแล้ว ใช่ไหม คือมันเป็นการต่อสู้ของสองพรรคการเมือง แทนที่จะเป็นการคัดเลือกคนที่จะมาทำหน้าที่พ่อเมือง นี่มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร คนกรุงเทพฯ กำลังสับสนอะไรหรือเปล่า คราวนี้ผมเลยพยายามจะหาทางออกที่ดีกับทุกคน ใช่ไหมครับ คือว่าหลายคนไม่อยากที่จะได้คนที่เผาบ้านเผาเมืองเข้ามา หลายคนเบื่อที่กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองแห่งการเมืองไปแล้ว ที่โดนบิดเบือนไปแล้ว เลยหาโซลูชั่นเลยทั้งสองอย่างก็คือ พูดง่ายๆว่าให้พรรคประชาธิปัตย์ เสียสละไปเลย ประกาศลาออก และสนับสนุนผู้สัมครอิสระสักคนหนึ่งไปเลย ทำให้คะแนนเสียงที่เขาหาว่าข่มขู่ว่า ไปเลือกคนอื่น เสียงแตกได้รวมกัน แล้วประชาธิปัตย์จะได้ตามเป้าว่าเพื่อไทยไม่ได้นะ ประชาธิปัตย์ก็แฮปปี้แล้ว ผู้สมัครอิสระก็สามารถจะมาดูแลกรุงเทพฯได้ ให้โอกาสคนใหม่ๆ บ้าง อย่างนี้คนกรุงเทพฯ แฮปปี้กันได้ ปราศจากการเมืองด้วย นี่ก็เป็นที่มาที่ไปสั้นๆ ของบทความนี้
จินดารัตน์ - หมายความว่าให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากการเลือกตั้งซะ ให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ถอนตัวออกมา และไปสนับสนุนผู้สมัครอิสระ เอาคนใดคนหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าจะเป็นตัวตายตัวแทนได้ที่จะทำให้กรุงเทพฯ น่าอยู่ เสียงจะได้ไม่แตกอย่างที่เป็นห่วงกัน
นอกจากนั้น คุณจิตตนาถยังพูดถึงผลดีที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ อย่างที่บอกไปข้อแรกคือ เสียงไม่แตก พรรคเผาเมืองก็ไม่ได้ตำแหน่งผู้ว่าฯ อันที่ 2.บอกคะแนนแฝงของประชาธิปัตย์มาสนับสนุนผู้สมัครอิสระ
จิตตนาถ - ก็จะมีคะแนนแฝงมากขึ้น
จินดารัตน์ - ข้อที่ 3.เป็นการปฏิรูปภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า กล้าตัดสินใจ และเป็นผู้นำริเริ่มให้เกิดการปฏิรูปการเมืองจากการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างไรคะ
จิตตนาถ - กล้าริเริ่มการปฏิรูปการเมืองคือว่า เริ่มหาคนใหม่ๆ เข้ามา เลือกใหม่ๆ เข้ามา ไม่ใช่ว่าจะเป็นนักการเมืองในสังกัดตน ใช่ไหมครับ เห็นว่าใครมาก็นี่แหละ
จินดารัตน์ - คือสามารถดูแลกรุงเทพมหานครได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคของตัวเอง
จิตตนาถ - ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคการเมืองใช่ไหมครับ คนข้างนอกมาพรรคประชาธิปัตย์ก็สามารถสนับสนุนได้ และทำให้คนกรุงเทพฯ แฮปปี้ต่อไปด้วย
จินดารัตน์ - คือพูดง่ายๆ ว่าเลิกเห็นแก่พรรคตัวเอง แต่เห็นแก่ส่วนตัว เห็นแก่ กทม.มากกว่า
จิตตนาถ - ใช่ คือพรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนตรงนั้นกลับมาอีก
จินดารัตน์ - ได้ใจคนอีกว่า เออกล้าดี ข้อที่ 4.คุณจิตตนาถเขียนเอาไว้ว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.กลับมาเข้ารูปเข้ารอยตามวัตถุประสงค์ที่ควรจะเป็นอีกครั้งอย่างไรคะ วันนี้มันออกนอกลู่นอกทางไปขนาดไหนอย่างไร
จิตตนาถ - ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องที่มันสุดท้าย มันกลายเป็นเรื่องการกินรวบประเทศไทย มันกลายเป็นเรื่องไม่เลือกเราเขามาแน่ ใช่ไหมครับมันเลยกลายเป็นว่า ทุกผู้ทุกคนในสังคมเกิดความสับสนเกิดความกลัวไปหมด ขนาดพิธีกรเอเอสทีวีบางคน ตอนหลังยังค่อนข้างที่จะลุกลี้ลุกลนเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ใช่ไหมครับ คนในเอเอสทีวียังรู้สึกหวั่นไหวกับวาทกรรมตรงนี้เลย ผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่านอะไรแบบนี้ เลยคิดว่าผมดึงกลับมาก่อน เราต้องดูก่อนว่า ตรรกะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คืออะไร กลับมาตั้งสติกันใหม่ก่อน
จินดารัตน์ - เพราะแต่เดิมเราจะเห็นเวลาเลือกตั้งผู้ว่าฯ เราจะดูที่นโยบายว่า คนกรุงเทพฯ จะได้อะไรจากการที่เขาจะเป็นผู้ว่าฯ แต่วันนี้คงรู้สึกเหมือนคุณจิตตนาถหลายคนทั้งเมืองว่า เขาเป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรคการเมือง
จิตตนาถ - คำว่าอย่าให้ประเทศไทยโดนกินรวบ ผมถามว่ามันคือนโยบายหรอ หรือว่าอยากให้เลือกพวกเผาเมืองกลับเข้ามา นั้นคือนโยบายหรอ หรือว่าไม่เลือกเราเขามา นี่คือนโยบายผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครหรอครับ ลองถามตัวเองกันนิดนึงก่อน
จินดารัตน์ - และยังมีอีกนะคะว่า ถ้าพรรคเผาเมืองชนะการเลือกตั้ง ประเทศไทยก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เปรียบเสมือนเราเสียกรุงอีกครั้งหนึ่ง
จิตตนาถ - นี่คือนโยบายหรอครับ ใช่ไหมครับ
จินดารัตน์ - และก็อย่าปล่อยเพื่อนเลือกอิสระ อย่าเลือกผู้สมัครอิสระ เพราะจะทำให้เสียงแตก เลือกอิสระทำไมเสียของ เดี๋ยวเผาเมืองก็ยึดเมืองหลวงหรอก เลือกคนที่เลวน้อยกว่า หรือแม้แต่คุณสุขุมพันธุ์มีความเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง พรรคไม่มีอิทธิพลกับคุณชาย ต่างๆ เหล่านี้มันทำให้เรากลัวนะคะ
จิตตนาถ - อันนี้มันดังเกินกว่านโยบายแล้วไงครับ ข้อความเหล่านี้มันดังเกินกว่านโยบายที่คุณอยากที่จะกลับมาพัฒนากรุงเทพฯ อย่างไร หรือผู้สมัครรายอื่นต้องการสร้างสรรค์กรุงเทพฯ อย่างไร แมสเสจเหล่านั้นไม่ได้ส่งมาถึงสังคมเลย กลายเป็นเรื่องเหล่านี้ดังมากกว่า เพราะฉะนั้นสังคมไทยต้องกลับมาตั้งคำถามว่า สรุปพวกคุณกำลังเลือกตั้งรัฐบาล หรือคุณกำลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.กันแน่ คนที่จะมาบริหาร กทม.กันแน่ คุณเอาใครกันแน่
จินดารัตน์ - เพราะทุกวันนี้เวลาที่เราได้ยินว่า จะเลือกใคร ไม่เลือกใครอย่างไร ไม่เกี่ยวกับนโยบายเลย หรือแม้แต่เอาละหยิบนโยบายมาดูแต่ละข้อ เขาบอกว่า มันเป็นนโยบายฝันเฟื่องมันเป็นไปไม่ได้ และเหมือนกับพูดไปคนก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เพราะรู้สึกเขาขายความคิด แต่ว่าไม่เคยลงมือทำ คุณจิตตนาถคิดว่าคนกรุงเทพฯ จะตกอยู่ในภาวะแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว แต่ครั้งนี้หนักหนาสุดเลย
จิตตนาถ - ครั้งนี้หนักที่สุดนะครับ ไม่เคยมีครั้งไหนเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ครั้งที่แล้วก็โอเคเป็นเรื่องของการภาพลักษณ์สู้กับภาพลักษณ์ ยังถือว่าเป็นภาพลักษณ์สู้กับภาพลักษณนะ แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องของวาทกรรม นโยบายเป็นเรื่องฝันเฟื่องจับต้องไม่ได้ และเป็นเรื่องไร้สาระ ตอนนี้เป็นเรื่องของอารมณ์ความโกรธแค้นมากกว่าดึงกลับมาสู่ความเป็นจริงก่อน ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ก่อน
จินดารัตน์ - ดูจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ผู้สมัครอิสระหลากหลาย แล้วเป็นคนที่มีชื่อเสียงในสังคมพอสมควร แต่มาครั้งนี้ มันก็จะมีกลุ่มบางคนที่บอกว่า คนดีๆหายไปไหนกันหมด คนกล้าๆมีอยู่แค่นี้เหรอ คุณจิตตนาถคิดอย่างไรคะ คนกรุงเทพฯ เรามีทางเลือกแค่นี้จริงๆ เหรอ
จิตตนาถ - ณ ตอนนี้คงจะมีอยู่แค่นี้ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็อยู่ที่ว่าเราจะตกอยู่ในกับดักอยู่หรือเปล่า ว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองหรือเปล่า ถึงบอกว่า เราดึงสติกลับมาก่อน แล้วจะค่อยๆไปในทีละประเด็นกันดีกว่า
จินดารัตน์ - คุณจิตตนาถ เขียนในบทความตอนท้ายนะคะ ที่ถามว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ชนะ แล้วคนกรุงเทพฯ จะได้อะไร
จิตตนาถ - พี่แอนคิดว่าจะได้อะไรบ้าง พี่แอนพูดก่อน เหมือนกับเรามานั่งคุยกัน
จินดารัตน์ - แอนคิดว่าไม่ได้อะไรนะ จากที่ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว มันมีแต่ความว่างเปล่าในความรู้สึก
จิตตนาถ - พรรคประชาธิปัตย์เขาคิดว่าถ้าเขาชนะแล้วคนกรุงเทพฯ ได้อะไรบ้าง พี่แอนช่วยบอกหน่อยได้มั้ย
จินดารัตน์ - เขาบอกว่าอย่างน้อยก็ปกป้องคนเลว คนโกง เข้ามากอบโกยเงินงบประมาณของ กทม.อย่างน้อยที่สุดเขาก็จะปกป้องกรุงเทพฯ ไม่ให้โดนเผารอบที่ 2 ได้ พูดแบบทื่อๆ แค่นั้นที่แอนได้ยินวลีเด็ดของเขา อย่าเลือกคนโกง เขาชูป้ายว่าเขาคนดี ซื่อสัตย์ ไม่โกง
จิตตนาถ - อันนี้คือผลสรุปที่เขาสรุปมาให้นะครับ ทำไมเราไม่มองต่างมุมครับว่า เดี๋ยวเราจะไปทีละคนเลยนะครับ เอาจากพรรคประชาธิปัตย์ก่อน ถ้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว คนกรุงเทพฯ ได้อะไร ในมุมมองผมนะครับ ผมมองว่าคนกรุงเทพฯ ซวย ซวยจริงๆ เพราะว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้มาแล้ว ได้เป็นผู้ว่าฯ ปุ๊บ กรุงเทพฯ โดนจับเป็นตัวประกันทันที จะเกิดการงัดข้อกันระหว่างรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้การแก้ปัญหาไม่เป็นเนื้อเดียวกัน อย่างเวลาเกิดวิกฤตอย่างน้ำท่วมอย่างนี้ จะงัดข้อกันไปงัดข้อกันมา และเราจะเห็นเลยว่า มันจะมีความห่วยแตกเหลืออยู่เต็มไปหมด เพราะฉะนั้นคนซัฟเฟอร์ในที่สุดคือใครครับ คือประชาชนนั้นเอง เพราะว่าคนกรุงเทพฯ โดนจับเป็นตัวประกันใช่ไหมครับ นี่คือข้อที่ 1.
จินดารัตน์ - เราเห็นภาพนี้ชัดตอนน้ำท่วมนะคะ รัฐบาลว่าอย่าง ผู้ว่าฯ กทม.ว่าอีกอย่างนึง
จิตตนาถ - ใช่ ซึ่งเสล่อพอกัน ถามว่าทำไมเสล่อพอกัน พรรคประชาธิปัตย์บอกว่า ที่กรุงเทพฯ น้ำไม่ท่วม เป็นเพราะคุณสุขุมพันธุ์ ผมกำลังจะบอกว่า คนกรุงเทพฯ เขาไม่ได้กลัวน้ำท่วม เขาอยากให้น้ำมา และไปโดยเร็วที่สุด ถ้าพรรคประชาธิปัตย์กับรัฐบาลประสานกันได้ ให้น้ำมันไหลลงฟลัดเวย์ไปเลย และรีบระบายเร็วออกไปเร็วที่สุด ทุกอย่างจบให้เวลาเขาตามกำหนด 10 วัน 20 วันใช่ไหมครับ และทำให้จบจริง ไอ้อย่างนั้นทำให้ปัญหา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านยังบอกเลยว่า วังของฉันไม่ต้องมาเอากระสอบทรายถมนะ ท่านอยากให้น้ำมันไหลผ่านไป ขนาดในหลวงเรายังพูดอย่างนั้นเลย กลายเป็นว่ากรุงเทพฯ เป็นสมรภูมิระหว่าง พอน้ำท่วมรัฐบาลเสียหน้า พรรคประชาธิปัตย์ก็เสียหน้า ต่างคนต่างจะไม่ให้น้ำท่วม นี่เขาเรียกว่า ภาวะของคนกรุงเทพฯ โดนจับเป็นตัวประกัน
อันนี้คือข้อที่ 1 ที่คนกรุงเทพฯ จะได้ ข้อที่ 2.เรื่องของการกินรวบนี่ไม่ใช่ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์แน่นอนครับ ถ้าประชาธิปัตย์ได้อย่าคิดว่า คอร์รัปชั่นไม่มี เพราะนี่คือแหล่งสุดท้ายของอาหารแมลงสาบใช่ไหมครับ ถ้าคุณเป็นรัฐบาล คุณก็ยังมีโปรเจกต์โน้นโปรเจกต์นี้ แต่ กทม.ตอนนี้มันเป็นที่มั่นฐานที่เขาบอกว่า เป็นที่สั่นฐานสุดท้าย ที่ปัญหาสุดท้ายมันไม่ใช่ของประชาชนนะครับ เพราะที่มั่นฐานสุท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ยังเหลือภาคมใต้อยู่ กทม.เป็นที่ทำมาหากินที่สุดท้ายมากกว่า และคิดดูจากคนที่เคยทำมาหากินได้ ประสานคนโน้นคนนี้ที กินแบ่งประชาธิปัตย์นี่กินแบ่ง เพื่อไทยนี่กินรวบ จากแบ่งคนโน้นคนนี้ทีจนมันไม่เหลือที่ให้แบ่งแล้ว มันเหลือเฉพาะกรุงเทพฯ มันเหลืออาหารอยู่ก้อนสุดท้าย
พี่แอนหิวโซมาหนักกว่าเดิม 3 วัน พี่แอนจะไม่กินมุมมามจนอย่างนั้นเลยหรอครับ ใช่ไหมครับ นี่เราเอาตรรกะง่ายๆ ฉะนั้นกรุงเทพมหานคร จะเติมที่ให่ที่มีการคอร์รัปชั่นมากกว่าดิม
จินดารัตน์ - ไม่ว่าใครมาก็ตาม
จิตตนาถ - โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคือแหล่งอาหารสุดท้าย มันมีก้อนเค้กให้กินเหลืออยู่แค่นี้ ถ้าเป็นแมลงสาบคือ เหลือที่อยู่ก้อนเค้กให้กินอยู่ เหลืออยู่แค่นี้ ถ้าเป็นแมลงสาบคือ เหลือขี้อยู่ก้อนสุดท้ายแล้ว ให้ฉันกินอย่างนี้ ใช่ไหมครับ ผมกะว่าน่ากลัวมากกว่าเดิมอีกนะ เนี้ยครับก็หลักๆ ที่อยากให้ทุกคนคิดให้ดีๆ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้นี้แหล่ะ
จินดารัตน์ - เขาถามว่าผลงานพรรคประชาธิปัตย์ 4 ปีที่ผ่านมา ถามว่าผลงานอะไรที่เห็นเด่นชัด ที่ทำให้คนกรุงเทพฯ ยิ้มได้บ้าง คุณจิตตนาถคิดออกไหมค่ะ
จิตตนาถ - ทำแล้วทำต่อ ที่เขาบอกทำแล้วทำต่อ
จินดารัตน์ - อะไรบ้าง
จิตตนาถ - คือผมเห็นแล้ว ผมยิ้มเลย เพราะผมรู้สึกว่า ทีมเลือกตั้งมันคิดมาได้อย่างไรแบบนี้ ใช่ไหมครับ อุโมงค์แมลงสาบๆ ก็เดินลุยน้ำกันเข้าไป ใช่ไหมครับ สร้างอุโมงค์แล้วทำไมน้ำมันยังท่วมอยู่ รัชดา ห้วยขวาง โอ้โหท่วมกัน นี่โชคดีนะที่การเลือกตั้งครั้งนี้มีในวันเวลาอย่างนี้ ถ้าเกิดว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีในฤดูฝนแบบนี้ คิดดูซิว่าพรรคประชาธิปัตย์คะแนนจะดิ่งไปหมดเลย ใช่ไหมครับ เพราะอุโมงค์แมลงสาบต้องโทษพรรคประชาธิปัตย์หมดเลย ใช่ไหมครับ หรือสนามฟุตซอลอย่างนี้ เราก็เห็นกันอยู่
จินดารัตน์ - กล้องวงจรปิด
จิตตนาถ - ถ้าแล้วทำต่อ กล้องวงจรปิดที่เขาก็มาจับไต๋ได้ว่ามันไม่มีกล้องจริง
จินดารัตน์ - คือติดจริงๆ
จิตตนาถ - ทำแล้วทำต่อ คือคุณไปติดกล้องให้มันครบมากกว่าคุณจะไปติดกล้องปลอมหลอกชาวบ้านดีกว่า ใช่ไหมครับ ฉะนั้นถึงบอกว่านโยบายยิ่งทำออกมา ก็ยิ่งประจานตัวเอง ใช่ไหมครับ หรือแคมเปญเช่น โตไปไม่โกง นี้มันหน้าที่อะไรของพวก กทม.มาพูดว่าโตไปไม่โกง โตไปไม่โกงน้ำมันปาล์มตอนที่ขาด กรุงเทพฯ ขาดด้วย ถามเรื่องน้ำมันปาล์มมันโกงชัดๆ แล้วไทยเข้มแข็งน้ำมันปาล์มมันของพรรคไหน ก็ของพรรคประชาธิปัตย์ ฉะนั้นตัวเองพูดอะไรมันเหม็นขี้ฟันแทบทุกเรื่องเลย
จินดารัตน์ - แล้วพรรคประชาธิปัตย์มาเพื่อไทยบ้าง คุณพงศพัศ บ้าง
จิตตนาถ -โอเค เพื่อไทย เพื่อไทยมาถามว่าคนกรุงเทพฯได้อะไรบ้าง คนกรุงเทพฯ ก็ได้ผู้ว่าฯ ชื่อเหมือนหมาพุดเดิ้ล อันนี้คือแน่นอน คนกรุงเทพฯ ก็คงไม่ได้อะไร นอกจากเห็นการคอร์รัปชันแบบไร้รอยต่อ แล้วเห็นการอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม นปช.หรือกลุ่มต่างๆ ใช่ไหมครับ ตอนนี้ได้ตำรววจเป็นพวก และ ตอนนี้ได้กรุงเทพมหานครช่วยอีก แต่ไม่ได้หมายความว่าประชาธิปัตย์เป็นแล้วการเมืองโอเคนะ เพราะอย่างเวลาที่จะมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง หม่อมสุขุมพันธุ์ไม่ให้ใช้สนามหลวง ก็แทบจะไม่ได้ต่างอะไรกันจริงๆ แล้ว เอาเป็นว่าเราจะเห็นว่าเป็นการโกงไร้รอยต่อนั่นเอง ยิ่งโกงมากขึ้นจะเห็นทักษิณกินรวบแค่นั้นเอง ซึ่งสำหรับผม ผมเฉยๆ แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว สาวกหรือว่าคนไม่ชอบทักษิณ เขาคงรู้สึกว่าแบบนี้เหมือนทักษิณยึดประเทศ
จินดารัตน์ - จะรู้สึกอย่างนั้นได้ไหมคะคุณจิตตนาถ ว่าเขาก็พูดมีเหตุผลนะว่า หรือเมืองหลวงเป็นของพรรคเพื่อไทย ไม่เหลืออะไรแล้วนะ คือเขาก็ยึดประเทศจริงๆ ต่อไปนี้ เขาจะกร่างสุดฤทธิ์สุดเดชแค่ไหน คนกรุงก็เดินตามตรอก ซอกซอย ไม่กล้ามาเดินถนน อย่างนั้นก็มีโอกาสเป็นไปได้หรือเปล่าคะ
จิตตนาถ - ไม่นะครับ ผมถามนิดหนึ่งว่าแล้วช่วงที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นอยู่ทุกวันนี้ หรือแม้แต่ช่วงเผาบ้านเผาเมือง พรรคประชาธิปัตย์เองเป็นรัฐบาล คุณสุขุมพันธ์เป็นผู้ว่าฯ กทม.เขาก็กร่างได้อยู่แล้ว ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรที่แตกต่างขึ้นมาเลย
จินดารัตน์ - มีคนที่มองตรงกันข้ามเขาบอกว่า มันก็คงไม่มีอะไรเลวไปกว่านี้อีกแล้ว
จิตตนาถ - ถ้าคุณกลัวคนเผาเมือง ผมถามหน่อยว่าเวลาคนเผาเมืองเวลามันไม่ได้อำนาจ มันโดนปราบปราม มันก็ต้องหาวิธีคือเผาเมือง ถามว่าเขามีอำนาจอยู่แล้วเขาจะเผาเมืองไปทำอะไร นี่คิดง่ายๆ เลยนะ ไม่ใช่ว่าผมเชียร์เขานะ
จินดารัตน์ - คือความเลวร้ายในกรุงเทพฯ มันคงไม่ได้แย่ไปกว่าทุกวันนี้ที่เป็นอยู่
จิตตนาถ - ใช่ครับ นี่เราพูดเฉพาะพรรคเพื่อไทย มันก็ไม่ได้มีเหตุผลที่จะทำให้คนเผาเมือง แต่ถ้าเรามามองมุมกลับ เขาบอกว่า พรรคเพื่อไทยเผาเมือง อย่าให้พวกเผาเมืองกลับเข้ามา เราก็มองมุมกลับ แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้พวกที่ประกันตัวพวกเผาเมืองกลับมาเหมือนกันด้วย ฝั่งหนึ่งเผาเมือง อีกฝั่งหนึ่งไปปรองดอง ไปประกันตัวออกพวกเผาเมืองไม่ใช่เหรอ แล้วคำถามว่า พอมาแบบนี้ คุณมาบอกว่าประเทศไทยโดนกินรวบ คุณก็จับมือกันอยู่ไม่ใช่เหรอจริงๆ แล้ว ตอนที่ช่วงเผาบ้านเผาเมือง ผมจำได้ว่า ที่เขาขนแก๊สไปโรงพยาบาลจุฬา ที่ต้องอพยพสมเด็จพระสังฆราชออกไป ตอนนั้นแทนที่จะทำให้มันรู้เรื่องรู้ราวไป ตอนนั้นข่าววงในเลยคือว่า มีผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ระดับสูง ตัวสูงๆ คนที่เรียกพรรคประชาธิปัตย์ว่าแมงสาบนี่แหล่ะ ไปคุยกับทีมเผาเมืองด้วยซ้ำ ไปต่อรองกันด้วยซ้ำว่าจบแล้วต้องทำแบบไหนกันต่อ มีการวางแผนกันด้วยซ้ำว่าถ้าเกิดว่าเลือกตั้งแล้ว ถ้าประชาธิปัตย์มาอันดับหนึ่ง อาจจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยด้วยนะ นั่นก็แสดงว่าเขาจับมือกันอยู่ คือต่อให้สู้กันบนเวทีก็ยังมีการแตะมือกันเอาไว้ตลอด หรือใครที่บอกว่า ผมพูดจาสุดโต่งก็ให้นึกถึงอีโมชั่นนี้ ไม่เลือกเราเขามาแน่ อย่าให้พวกเผาเมืองมา ให้เอารูปของคุณรังสิมากอดกับจ่าประสิทธิ์ เอารูปนั้นขึ้นมาเลย
จินดารัตน์ - ขอดูหน่อยค่ะทีมงาน ขอดูอีกสักครั้ง
จิตตนาถ - แช่ไว้เลยครับ พี่โสบอก ต้องเลือกยุทธศาสตร์ ท่าน ส.ศิวรักษ์ บอกต้องเลือกยุทธศาสตร์ อย่าให้เขากินรวบ มันไม่มีกินรวบหรอกครับ มันฮั้วกันหมด มันต่อสายกันหมด เราจะเห็นหมดเลยว่า คือถ้าผมวิเคราะห์การเมืองนะ พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย จริงๆ แล้วเป็นเนื้อเดียวกันหมดเลย เป็นเนื้อเดียวกันอย่างไร สมมุติมีกล่องมืดอยู่ เราล้วงปลายของกล่องๆ หนึ่ง เราจะเห็นว่า นี่มันมาจากพรรคเพื่อไทยนี่ พรรคเพื่อไทยกำลังขายชาติอยู่ อย่างเช่นกรณีของเขาพระวิหาร ตอนที่ทำทางขึ้นร่วมกัน มันมาจาก MOU 44 แล้วคุณปล่อยให้มีการก่อสร้างอะไรกันในพื้นที่ตรงนั้น นั่นคือมุมที่เราเห็น นพดลเดินทางไปซูเอี๋ยกับกัมพูชา แต่พอเรามาต่อสู้เราล้วงอีกมือหนึ่งออกมา ไอ้ตรงนี้ ไอ้ต้นเชือก มันมาจาก MOU 43 ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมคุณวีระ ราตรี โดนจับ ทำไมอยู่ๆ คุณอภิสิทธิ์ถึงไปบอกว่านี่คือพื้นที่ของเขมรที่เขาโดนจับ หรือไปบอกให้คุณพนิชนำร่องในการขอพระราชทานอภัยโทษว่าเข้าเขตเขมร หรือมีข่าวว่าคุณสุเทพ ดอดไปคุยกับเตีย บัญห์ ที่ฮ่องกง สรุปแล้ว MOU 43 มีที่มาคือ MOU 43 ก็โดนทักษิณสวมตอด้วย MOU 44 พอพรรคประชาธิปัตย์ ได้มาก็กะจะสวมตออีก ก็คือกรณีที่เราสู้กันอยู่ จะเอาเรื่องเข้าศาลโลก ไอ้นี่ก็มาอีก เห็นไหมครับว่าในที่สุดก็คือเชือกเส้นเดียวกัน หรือตัวอย่างล่าสุดง่ายๆเลย เรื่องโรงพัก ตั้งสมัยคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็อาจจะฮั้วกับบางคนก็ได้ ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับญาติพี่น้องของคนปากห้อยหรือเปล่าไม่ทราบ โยงกันไปกันมา ก็ไม่เสร็จสักที เพราะว่าตัวเองไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อ พอมันมาถึงสมัยรัฐบาลนี้เปลี่ยนอธิบดีตำรวจไป 2 คน มันยังไม่เสร็จ แต่มันก็มีการจ่ายกัน มันก็โยงกันไปกันมาต่อ จนกระทั่งลามไปถึงคุณจูดี้ด้วยซ้ำ เห็นไหมครับว่าในที่สุดเชือกเส้นเดียวกันเปล่า
จินดารัตน์ - คือสาวไปเชื่อมเป็นเนื้อเดียวหมด
จิตตนาถ - กลับมาต่อ ถ้าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ในวิกฤต 2540 กรณี ปรส. ก็ไม่มีพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่มีรัฐบาลอภิสิทธิ์ไปประกันเผาบ้านเผาเมือง เพราะต้องการจะจับมือแล้วก็รีบเลือกตั้ง มันก็จะไม่มีรัฐบาลปู ในที่สุดผมก็เลยไม่ได้มองว่าเป็นการกินแบ่ง หรือกินรวบ หรือประเทศไทยจะโดนยึด ผมมองว่า นักการเมืองมันคือเนื้อเดียวกันหมด เอาเป็นว่า มันอยู่คนละปลายเชือก มันเป็นเชือกแห่งความชั่วร้ายทั้งคู่ ฉะนั้นคนกรุงเทพฯ กำลังหลงมายาคติตรงนี้อยู่
จินดารัตน์ - เขาบอกว่าความได้เปรียบเสียเปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย ต้องดูกันดีๆดูความเคลื่อนไหวของแต่ละฝั่ง เดี๋ยวพักกันก่อน ช่วงหน้าเดี๋ยวกลับมา เราจะมาถามถึงผู้สมัครอิสระบ้างว่า วันนี้เขาพอจะมีโอากาสอะไรได้บ้างในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สักครู่ค่ะคุณผู้ชม
จินดารัตน์ - กลับอีกช่วงหนึ่ง รายการคนเคาะข่าวค่ะ เรากำลังวิเคราะห์สนามการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. กับคุณจิตตนาถ ลิ้มทองกุล นะค่ะ เราคุยกันถึง 2 พรรคใหญ่ๆที่เขาบอกว่าเป็นศึกแย่งชิงเมืองหลวง แทนที่จะกลายเป็นว่าหาผู้ว่าฯกทม.พ่อเมืองดีๆมาบริหารกรุงเทพ เลยกลายเป็นว่าที่นี้ กลายเป็นสนามรบระหว่าง 2 พรรคการเมืองไปแล้วนะค่ะ ผู้สมัครอิสระหลายคนก็พยายามที่จะใช้ความกล้า บางคนนะค่ะที่บอกใช้ความกล้า แต่ว่าบางคนเข้ามามีจุดประสงค์ใด ก็มิอาจจะทราบได้ กล้าที่จะลงมาสมัคร เพราะว่าที่ผ่านมา เขาก็ผลัดกันแพ้ พลัดกันชนะ ทีนี้ถามว่าคนที่จะเลือกผู้สมัครอิสระส่วนใหญ่ ก็รู้ว่าเลือกไปยังไงก็ไม่ชนะ และคิดว่าทำไมเขาต้องเลือกผู้สมัครอิสระ
จิตตนาถ - ผมคิดว่า เป็นการให้กำลังใจ แล้วเป็นการที่เริ่มปฏิวัติ ปฏิรูปทางการเมือง ผมาอาจจะยกคำพูดของนีล อาร์มสตรอง ที่เดินผ่านควงจันทร์ ที่ก้าวบนดวงจันทร์ ก้าวแรก เขาบอกว่า มันอาจจะเป็นแค่ก้าวเล็กๆนะ ก้าวของเขามันไม่ได้ยาวไม่ได้ใหญ่ ก้าวเล็กๆ แต่มันเป็นก้าวใหญ่ของมนุษยชาติ ก็เหมือนกันการที่เราเลือกตามใจ ตัวเราเอง เพราะเราเห็นว่า คนๆนั้นดี นโยายเขาดีเหมาะสมที่จะเป็นพ่อเมือง นี้ต่างหากโดยที่ไม่ติดอยู่กลับอิทธิพลของพรรคการเมือง อาจจะเริ่มจากเล็กๆมันจะค่อยๆมีพลังมากขึ้น จำนวนคนเหล่านี้ก็จะค่อยๆมากขึ้น
จินดารัตน์ - คนกล้าและคนดีที่หันอาสามาดูแลกรุงเทพฯให้
จิตตนาถ -ถ้าพูดถึงเรื่องคะแนนเสียงอิสระ อีกสักพักเขาคงมองว่า ถ้าเกิดว่าคะแนนเสียงคนกรุงเทพฯอีกประมาณเท่าไรนะ ล้านกว่าเปล่าครับ ล้านกว่าหรืออิสระเทมาที่คนหนึ่งๆ อย่างสมมุติคุณสุหฤท มองแบบนี้ ท่านเสรีพิศุทธ์มองแบบนี้ หรือว่าคุณโฆสิตอาจจะมองแบบนี้ อันนี้เราเอามาเฉพาะ 3 คนที่มีโอกาส ผมคิดว่าวายน็อต ทำไมจะไม่ละ ใช่ไหมครับ มันก็ไม่ได้มีอะไรจะเสียครั้งหนึ่งในชีวิต เราออกมาทำอะไรให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลงมั้งดีกว่า ก้าวเล็กๆดีกว่า ผมก็คิดว่านี่คือแนวคิด ทำไมผู้สมัครอิสระถึงเลือกที่จะออกมา คือเขายังมองว่า เขายังมีโอกาสที่จะชนะอยู่ ไม่ใช่เขาไม่มอง
จินดารัตน์ -ก็ไม่แน่ เพราะผู้สมัครอิสระ เขามีความคาดหวังว่าพลังเงียบในกรุงเทพฯ จะออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันอย่างถล่มทลาย นาทีนั้นแหล่ะเขามีโอกาสจะชนะได้
จิตตนาถ -และเขาอาจจะมองในจุดนี้ก็ได้ครับ เขาอาจจะมองในจุดที่ว่าแชมป์เก่าอย่างพรรคประชาธิปัตย์ เอาคนที่ไม่สดมา ก็คือคุณชายหมู คือไม่สด มีแผลเยอะมาก คนกรุงเทมพฯก็ไม่ได้ปลื้ม ถ้าเกิดพรรคประชาธิปัตย์เอาคนที่สดมาจริงๆ อย่างนั้นอ่า เขาจะพิจารณาก่อน
จินดารัตน์ -ก็มีหลายกระแสวิพากษ์วิจารณ์ บอกว่า ถ้าวันนั้นพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจเอาคุณกรณ์ลง อาจจะไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้
จิตตนาถ -ใช่ มันก็เลยสะท้อน กลับไปสะท้อนของความนิยม ตอนนี้ผมจะกลับที่ความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ตอนแรกเราพูดถึงเรื่อง ถ้าเกิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ชนะได้อะไร พรรคเพื่อไทยชนะได้อะไร ตอนนี้กลับไปถึงคะแนนนิยมแล้วมันต้องเริ่มตั้งแต่ตอนแรกก่อนว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่จริงใจกับคนกรุงเทพฯ เลย เพราะอะไร เพราะว่าเป็นที่รับรู้กันในข้อมูลข่าวสารกันว่า ทั้งทีมคุณอภิสิทธิ์และคุณกรณ์ และก็ผู้บริหารพรรค อยากที่จะส่งคุณกรณ์ หรือเลือดใหม่ที่มีความสดเข้ามาชิงเลือกตั้งผู้ว่าฯ คือเอาแบบเคลียร์ เอาแบบชัวร์ เลย ตอนนั้นผมยังคิดลึกๆ เลยว่า ยุทธศาสตร์ผมคิดว่า คุณอภิสิทธิ์รอไปเป็นนายกฯ ฝันไปเหอะชาติหน้า คุณอภิสิทธิ์มาลงเป็นผู้ว่าฯ กทม.นี่นะชุบตัวใหม่ได้ แล้วเอาทีมที่แบบ ทีมคุณกรณ์ และเป็นตัวของตัวเอง จะได้หมดข้ออ้างว่า ต้องพึ่งคุณสุเทพ ต้องพึ่งคนโน้นต้องพึ่งคนนี้ นี่คือเวทีที่คุณสามารถที่จะมีสปอร์ตไลท์ แสดงความโดดเด่นตามใจตัวเองได้เลยเวทีเล็ก แต่ว่ามีอิมแพคมากมายมหาศาลเหลือเกินปรากฏว่า พอเป็นคุณกรณ์ผมคิดว่าดี ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ในอนาคตอาจจะมาเป็นผู้นำพรรคได้ ผมมาคิดว่าดีแล้ว
ปรากฏพอหม่อมสุขุมพันธุ์ทราบข่าวแกก็บอกว่า ไม่งั้นจะลงอิสระ อ้าวก็กลายเป็นว่ากลัวเสียงแตก อีกแค่กลัวเสียงแตก ก็เลยมีมติพรรคกันใช่ไหมครับ พอมีมติพรรคกัน ส.ก. ส.ข.พรรคแน่นอนทำมาหากินมาแล้ว ก็มีผลประโยชน์กันครับ ในที่สุดเลยเอาคุณสุขุมพันธุ์กลับมา คุณอภิสิทธิ์จากที่ไม่เอาคุณสุขุมพันธุ์ก็มากัดฟันเลย สุขุมพันธุ์ดีที่สุด คือหลอกตัวเอง ตัวเองยังหลอกตัวเองและกัดฟันว่า ตัวเองต้องมารักคุณสุขุมพันธุ์ ใช่ไหมครับ เพราะทีมคุณกรณ์ทั้งหมดนั้นแหละ จากที่แบบเหม็นคุณสุขุมพันธุ์ เหม็นหมูตอนนี้มากันเป็นแถวเลย โอ้โหคุณสุขุมพันธุ์ดี คุณไม่ซื่อสัตย์กับตัวคุณเอง ในการส่งคนที่ดีที่สุดที่คุณคิดว่า ควรจะมาในวิกฤตแบบนี้ มาและคุณจะหวังอะไรกับคะแนนเสียงของประชาชน เรื่องความซื่อสัตย์ต่อตัวเองคุณก็แพ้พรรคเพื่อไทยเขาแล้ว
จินดารัตน์ - เขาบอกว่า คะแนนเสียงความนิยมในช่วงโค้งสุดท้าย ต้องกลับไปมองถึงกองเชียร์บรรดาฮาร์ดคอร์ทั้งหลายของทั้งสองฟากฝั่งนี่นะคะ
จิตตนาถ - ใช่
จินดารัตน์ - นี่มีผลกับคะแนนเสียงที่จะไปลงวันที่ 3 มีนาคม มากน้อยแค่ไหน
จิตตนาถ - ครับ เอาอย่างนี้เดี๋ยวๆ กลับมาที่ตรงนี้ก่อน ข้อแรกคือว่า พอจัดผู้สมัครแบบนี้ คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์เลยนิ่งๆ นโยบายมันก็ขายไม่ได้ บวกกับพอมันมีกรณีของคุณราตรีโดนปล่อยตัวมา ใช่ไหมครับ พรรคเพื่อไทยเขาจะทำด้วยเรื่องของการเมือง หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ มันอยู่ที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์รับมือเป็นหรือเปล่า ถ้าคุณราตรีกลับมาพรรคประชาธิปัตย์ คุณอภิสิทธิ์ ไปรับคุณราตรี คุณกษิตไปรับ คุณพนิชไปรับเอาดอกไม้ไปให้ใช่ไหมครับ ไปพูดจาปรับความเข้าใจ ผมพยายามเต็มที่นะครับคุณราตรี ตอนนั้นข้อมูลผมได้อาจจะผิดพลาดไป เดี๋ยวเรามานั่งคุยกันใหม่แบบนี้ ผมเชื่อว่าทุกอย่างดีขึ้น คนจะเห็นความแมนของพรรคประชาธิปัตย์
จินดารัตน์ - จะได้ใจคนอีกเยอะ
จิตตนาถ - จะได้ใจคนอีกเยอะ แต่พอมีกรณีคุณราตรีมาแล้ว ภาพมันออกมาว่า คุณราตรีเสียสละ พรรคประชาธิปัตย์วอร์รูมก็เลยคลั่งกันใหญ่เลย ถ้าราตรีเป็นวีรสตรี เป็นฮีโร่ขึ้นมาเมื่อไหร่ เท่ากับว่าตัวเองเป็นหมา เพราะส่งเขาไปติดคุก คือแทนที่จะมาปลอบประโลมเขา ก็ยิ่งต้องขยี้เขาให้จมดิน เลยจะเห็นว่าทั้งคุณกษิตก็จะออกมา คุณพนิชก็จะออกมา แต่จะออกมาพูดเรื่องที่คนจับได้หมดเลย และกองเชียร์พรรคประชาธิปัตย์ถล่มคุณราตรีในโซเชียลเน็ตเวิร์กหมดเลย ว่าโง่ไปให้เขาติดกับ
จินดารัตน์ - ไปด่าเขาเสียๆ หายๆ
จิตตนาถ - ไปด่าเขาเสียๆ หายๆ แต่ในขณะที่คนติดคุก นี่มันสร้างแรงเอฟเฟคที่ทำให้คนที่แบบเขามีสามัญสำนึก ที่เขาอยากจะช่วยพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว ถึงเขาจะรู้สึกไม่ได้ศรัทธา แต่ผลงานที่ผ่านมา เขาเห็นว่าคุณราตรีโดนรังแก ยิ่งไม่เอาใหญ่เลย อันนี้เลยทำให้คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์เลยยิ่งตกวูบเข้าไปใหญ่ มาตกวูบต่อมาคือเรื่องของ ทำแล้วจะทำต่ออย่างที่พูดมา ก็เลยยิ่งนิ่งเข้าไปใหญ่ เห็นไหมครับ พอนิ่งขึ้นมาในที่สุดก็เลยต้องโค้งสุดท้าย ก็เลยต้องระดมทั้งท่านนายกฯ ชวน ท่านใครต่อใครออกมาพูดเรื่องของการกินรวบประเทศไทย ฐานที่มั่นสุดท้ายประเทศไทย ซึ่งผมได้ฉายภาพให้เห็นแล้วว่า มันไม่มีหรอกมันก็มีแค่เชือกเส้นเดียวกัน
จินดารัตน์ - อย่างกับมีกล่องบัง ทุกคนคือจับปลายเชือกคือ การชั่วร้าย การคอร์รัปชั่นอยู่ เท่านั้นเองใช่ไหมครับ พรรคเพื่อไทยไม่ได้กินพรรคประชาธิปัตย์กินมูมมามกว่าเดิมอีก เพราะว่าเป็นแหล่งอาหารสุดท้าย นี่คือโค้งสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ หม่อมก็จะวัดกันว่าสัปดาห์นี้ ถ้าเขาสามารถจุดตรงนี้ติด ทำให้คนกรุงกลัว และเปลี่ยนใจได้ นั้นคือโอกาสของเขาใช่ไหมครับ แต่ถ้าเกิดว่า เขาจุดไม่ติด และทำให้คนรำคาญก็อีกอย่างหนึ่ง นอกจากเรื่องคุณราตรีแล้ว พอมีผู้สมัครคนอื่นออกมา หรืออย่างคุณสุหฤท คุณเสรีพิศุทธ์ คุณโฆสิตหรือว่าใครต่างๆ โฆษณาแคมเปญในเว็บไซต์ต่างๆ ใช่ไหมครับ พูดอะไรต่างๆ กองเชียร์พรรคประชาธิปัตย์จะไปไล่ปอดเขาหมดเลย ใครเลือกพวกนี้เสียงแตก โง่จะปล่อยให้พวกเผาเมืองมาหรอ เสียของเปล่าๆ
จินดารัตน์ - เขาเคยทำผลงานอะไรให้บ้างไหม
จิตตนาถ - ไปหาว่า คุณเสรีพิศุทธ์เป็นนอมินีของคุณทักษิณ ไปหาว่า คุณโฆสิตเป็นนอมินีของคุณทักษิณ อันนี้ผมช่วยไม่ได้ ขณะคุณโฆสิตอาจจะมีภาพที่เคยไปสัมภาษณ์ เขาก็ซวยไป นั้นคือผมกรรมที่เขาทำมา ฉะนั้นคุณเสรีพิศุทธ์อาจจะเป็นที่เข้าใจผิด ก็แก้ตัวกันไป แต่ว่ากลับมาคือว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ไปไล่ข่มขู่คนอื่น เลยทำให้เกิดแรงต้านจากโซเชียลเน็ตเวิร์กเยอะมาก ย้อนกลับไปนะครับ ช่วงที่พันธมิตรฯ สู้กับพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงนั้นพรรคประชาธิปัตย์สร้างกลุ่มขึ้นมาใหม่ เรียกว่าเสื้อหลากสี คือรวมพวกสมัน ทำไมเรียกว่าสมัน สมันนั้นคือเป็นคนที่จิตใจ ฟิวกู๊ด เหมือนหนังจีทีเอชดูแล้วฟิวกู๊ด แต่จะโดนภาพลักษณ์ของคุณอภิสิทธิ์ หรือว่าหมอตุลย์หลอกให้ไปโน้นนี่ตลอด แล้วเวลาเกิดความฉิบหายเสียหายก็จะงงว่าทำไมคุณอภิสิทธิ์เป็นขนาดนี้ ไอ้เสื้อหลากสีก็จะเริ่มน้อยลง เริ่มไม่ค่อยช้อกเข้าไป สังเกตดู พวกฟิวกู้ดส่วนใหญ่ไปอิสระหมดเลย จะไม่กลับมาที่ประชาธิปัตย์ เราจะเห็นได้ว่า ตอนนี้โซเซียลเน็ตเวิร์กพรรคประชาธิปัตย์เที่ยงธรรมมาก จากกลุ่มฟิวกู้ดตรงนี้ คุณสุหฤท อาจจะได้ไป ท่านเสรีอาจจะได้ หรือคุณโฆสิตอาจจะได้ในจุดตรงนี้เพิ่มขึ้น พอพรรคประชาธิปัตย์ไปไล่ด่าเขา มันก็เลยกลายเป็นหอกสนองกลับมา มันก็เหลือที่ว่า เราจะเห็นประชาธิปัตย์พยายามจะชิงกลุ่มบุคคลมาคือไปจัดตั้งไอ้กลุ่มวัยรุ่น ที่บอกว่าอย่าให้เป็นนอมินีใคร มันจะไม่จัดตั้งได้ไง อยู่ๆ วัยรุ่นมันจะมีรถโทรโข่งมา 4-5 อัน เรียกผู้สื่อข่าวมาทุกสำนักได้ไง เขาก็พยายามจะสร้างตรงนี้ไง
อีกอันที่ผมเห็นความพยายามชัดเจนเลย คือว่าพยายามจะดึงน้องปลื้ม กับน้องทับทิม มาขึ้นเวที
จินดารัตน์ - อย่าให้ฟังว่าคุณสุรบถพูดว่าอย่างไร ไปฟังกันค่ะ
(VTR ปลื้ม- สุรบถ หาเสียง)
จินดารัตน์ - ขอคำเดียว แค่เลือกคนดี
จิตตนาถ - นักการเมืองที่น้องปลื้มพูดสำหรับผมหมายถึงทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์เลย และผมก็เชื่อว่า นักการเมืองที่ดีมีเสียสละ ผมก็จะรอว่า เมื่อไหร่น้องปลื้มจะเป็นนักการเมือง ผมอยากให้น้องปลื้มเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วันหนึ่งแล้วน้องปลื้มมาเปลี่ยนพรรค เหมือนที่น้องปลื้มทำรายการ VRZO เป็นตัวแทน เป็นปากเสียงของวัยรุ่นจริงๆ เพราะปัจจุบันพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เป็นปากเสียงของใครเลยนอกจากเป็นปากเสียงให้ตัวเอง ปากเสียงให้ผลประโยชน์ของตัวเองอย่างเดียว
จินดารัตน์ - อยากให้น้องปลื้มเอาวิธีคิดแบบนี้ไปใช้ได้จริงในพรรคของตัวเองบ้าง
จิตตนาถ - คุณอภิสิทธิ์จะต้องเรียนจากน้องปลื้มแล้วต้องไปเชิญคุณปลื้มมาเป็นหัวหน้าพรรค
กลับมาถึงคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เลยต้องเอาน้องปลื้มมาดึงวัยรุ่น ในทางกลับกันทำไมไม่คิดบ้างว่า ไม่ต้องเอาคุณกรณ์ก็ได้ ถ้าน้องปลื้มอายุถึงลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุน คุณไม่คิดหรือว่า ไอ้คนที่จะเลือกคุณสุหฤท หรือวัยรุ่นเด็กแนวทั้งหลาย พวกฟิวกู้ดมันเทไปที่น้องปลื้มอยู่แล้ว คะแนนจะพุ่งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ก็เอาเป็นว่านี่คือวิกฤตที่พรรคประชาธิปัตย์เจออยู่ อยู่ที่ว่าโค้งสุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์จะตีขึ้นได้หรือเปล่า คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์ที่บอก 4 ปีที่แล้วทรุดมากๆ อันนี้ก็เลยเป็นหนึ่งในที่ผมเอามาอนุมานว่า ถ้าเกิดว่าพรรคประชาธิปัตย์เจอกับโพลล์ชี้นำทางคุณจู้ดี้ขึ้นมา ซึ่งก็ต้องบอกว่า โพลล์ก็ชี้นำว่าคุณจู้ดี้มีคะแนนเพิ่มๆ อาจจะไม่ได้จริงเสมอไปก็ได้ เพราะว่าการที่คุณไปสัมภาษณ์กลุ่มคนที่คุณสัมภาษณ์อาจจะไม่ได้มีสิทธิ์เลือกตั้งใน กทม.ก็ได้ อาจจะเป็นที่มาทำมาหากินเป็นคนต่างจังหวัดเฉยๆก็ได้ อาจจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ อาจจะมารับจ้างอยู่ แต่ว่าชื่อไม่ได้มีในทะเบียนบ้านก็ได้ อันนี้ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็มี 4- 5 โพลล์ ที่นำร่องมา แล้วบวกกับวิธีการที่แมลงสาบตีหัวตัวเองทำให้คนเบื่อ ทำให้ไม่แปลกว่าคุณจู้ดี้มาเพราะประชาธิปัตย์ดิ่งด้วยตัวเองต่างหาก
จินดารัตน์ - ในทางกลับกันถ้ามองไปอันนี้ไม่ได้ชื่นชมนะคะ คุณผู้ชมอย่าเข้าใจผิดว่า เรากำลังชื่นชมพรรคเผาเมือง ไม่ใช่ แต่ว่าจะชี้ให้เห็นว่า ในขณะเดียวกันอีกฟากฝั่งหนึ่งเขาบอกว่าทักษิณเงียบมาก พยายามให้แกนนำเสื้อแดงพูดน้อยๆ แสดงบทบาทน้อยๆช่วงนี้ เพราะถ้าออกมาเมื่อไหร่สะกิดแผลคนกรุงเทพฯเท่านั้น ความฉลาดในการหาเสียงหรือเล่นเกมการเมืองในกรุงเทพฯ พรรคเผาไทยน่าจะได้คะแนนมากกว่า
จิตตนาถ - ณ ตอนนี้จากกระแสที่มันเป็นแบบนี้ผมก็คิอว่าคุณจู้ดี้น่าจะได้เปรียบอยู่นิดหนึ่ง ก็อยู่ที่ว่ากระแส คือคนจะช่วยให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะ ไม่ใช่พ่อแม่พี่้น้องที่ดู ASTV ไม่ใช่พลังเงียบ คนจะช่วยให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะคือพรรคเพื่อไทยนะ อย่าทำอะไรเฟอะฟะงี่เง่าออกมานะ คนมันก็จะหมั่นไส้พรรคเพื่อไทย แล้วจะกลับมาเทให้พรรคประชาธิปัตย์เอง ไม่ต้องออกมาเที่ยวด่าชาวบ้าน ด่าเราว่ารับเงินทักษิณ พรรคประชาธิปัตย์ไปอวยเพื่อไทยเยอะๆ
จินดารัตน์ - เขาบอกว่า พันธมิตรฯ มีอคติกับประชาธิปัตย์เอเอสทีวีมีอคติกับประชาธิปัตย์ คุณจิตตนาถ ค่ะ
จิตตนาถ - ผม ก็อย่างที่เรียนมาครับ คือผมไม่ได้มีอคติ เอเอสทีวีไม่ได้มีอคติ เพียงแต่ว่า เราอยู่ตรงจุดที่เรามองเห็นความจริง ว่า มันคือเชือกเส้นเดียวกัน เพียงแต่ว่ามันมีกล่องมันมาบังเท่านั้นเอง แต่พอคุณยกกล่องดำออก คุณจะเห็นเลยว่าทั้ง 2 พรรคคืออยู่ในเชือกเส้นเดียวกัน และมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรให้กับคน ใช่ไหมครับ
จินดารัตน์ - อย่างผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์เอง เขาบอกว่าออกมาวิพากษ์วิจารณ์คุณพิชัย รัตตกุล ทำไมคือวิธีหาสียง หรือแม้แต่แนวนโยบายในการออกไปหาเสียงของคุณชายหมูกับคุณอภิสิทธิ์ แทนที่จะใช้ผู้ใหญที่น่าเชื่อถือของพรรค ก็เลือกใช้เขาสิ เชิญเขามาไปเดินหาเสียงด้วย จะได้สร้างความเชื่อมั่น แต่กลับกลายเป็นคุณอภิสิทธิ์เดินคนเดียวกับแก๊งไอติมของเขา มันจะได้อะไร ถ้าหากวันหนึ่งถ้าผู้ว่าฯกทม. ประกาศผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว คุณชายหมูแพ้คุณชายอภิสิทธิ์ ควรต้องเป็นคนรับผิดชอบ เท่านั้นแหล่ะ โอโห เดินสาวกแมลงสาบนี้ถล่มซะยับเลย
จิตตนาถ - คุณพิชัย รัตตกุล ผมว่าจริงๆเป็นเรื่องดีนะ เพราะว่าถ้าคุณพิชัย รัตตกุล เปลืองตัวไป คือเปลืองตัวโดยใช่เหตุอะครับ ผมว่าคุณพิชัย มีคุณภาพมากกว่าทั้งคุณอภิสิทธิ์ และคุณชายหมู นะครับ ก็ถือว่าเป็นบุญของคุณพิชัยที่ ไม่ได้เปลืองตัวโดนดึงไปอยู่ตรงนั้น อื้ม
จินดารัตน์ - อย่างปกเอเอสทีวีผู้จัดการรายสัปดาห์เล่มล่าสุด
จิตตนาถ - อันนี้ก็กำลังสะท้อนว่า โค้งสุดท้ายมันทำให้พรรคประชาธิปัตย์ดิ้นพล่านมาก อย่างในคอลัมน์ที่ผมเขียน ที่ผมให้ทางสวาทไปคนเข้ามาอ่านตั้ง 70,000 คน หลัก 7 หมื่นแล้ว คนคอมเม้นเข้ามา 400 กว่าคอมเม้นแล้ว คือไม่ใช่ 400 คอมเม้นนิ่งๆนะ มาด่า มาอะไรเนี้ย ส่วนใหญ่จะเป็นแมลงสาบซะมากกว่า โอโหเป็นกองกำลัง คือมันผิดสังเกตมาก เรื่องพรรคประชาธิปัตย์กดบวกเข้ามา ปึ้มๆๆๆ เลย แต่ผมต้องการเทสอะไรบางอย่าง ธรรมดาเว็บเมเนเจอร์ เราจะมี เรียกว่าระบบกำจัดแมลงสาบ พอถึงจุดหนึ่งแล้วกำจัด อี๊ดๆๆ ผมบอกคุณอ๊อฟ ว่าลิสต์เลย อ๊อฟปล่อยให้แมลงสาบออกมาอาละวาดให้เต็มที่ และเราจะได้เห็นวิธีการตรรกะของเขา เราก็จะได้เห็น โอเคอันนี้จะเป็นอันที่มีคนตอบรับ พอกลับมาที่ปกของเอเอสทีวีผู้จัดการเช่นเดียวกัน ผมเขียนนำร่องก่อน เพราะผมทราบว่าเอเอสทีวีผู้จัดการจะออกมาวันเสาร์-อาทิตย์ ใช่ไหมครับ แล้วปรากฏว่า เนื้อหาจะเหมือนคอลัมน์ที่เขียนนี้แหล่ะ แนวคิดเดียวกัน กรุงเทพฯมีทางสว่างอยู่นะ ถ้าคุณไ-ม่อยากให้พรรคเพื่อไทยหรือว่า ทักษิณชนะ ทางสว่างก็เหมือนกันคือว่าให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวซะ แล้วก็ประกาศสนับสนุนผู้สมัครอิสระซัก 1 ราย แล้วคะแนนเสียงของผู้สมัครอิสระจะมารวมการบวกคะแนนเสียงพรรคประชาธิปัตย์ มันจะเพิ่มขึ้นมา พวกฟิวกู๊ดที่มันห่างหาย คุณมันก็จะกลับมาเลือกคุณ ใช่ไหมครับ แนวคิดนี้ก็ให้พรรคประชาธิปัตย์เลือกเอาว่า ตกลงแล้วคุณอยากจะเป็น ไอ้มดแดงหรือว่าอยากจะเป็นแมลงสาบ ให้คุณเลือกเอา ไอ้มดแดงก็คืออะไร คือคนรุ่น อาจจะรุ่นพี่แอนทันนะ ทันนะ
จินดารัตน์ -ทันๆค่ะ
จิตตนาถ -รุ่นคุณสนธิอาจจะไม่ทัน ใช่ไหมครับ รุ่นผมทัน ไอ้มดแดงคือ ฮีโร่ผู้พิทักษ์ความยุติธรรม ทำให้บ้านเมืองสะอาด กรุงเทพฯกลับมาสะอาด กลับมาผ่องใสอีกครั้งหนึ่ง คุณจะสวมบทเป็นไอ้มดแดงไหม ถ้าคุณเสียสละอย่างนี้คุณมีสิทธิกลับมาเป็นพระเอกนะ แต่ถ้าเกิดว่าคุณยังดึงดันทุรัง ไปเที่ยวด่าคนอื่นๆ ใช่ไหมครับ ไปสร้างวาทกรรมไปสร้างความหวาดกลัว ตัดต่อโปสเตอร์เลือกตั้ง คุณจะกลายเป็นแมลงสาบ ฉะนั้นฝั่งแมลงสาบคุณจะเห็นเลย เป็นเรื่องของกรุงเทพฯที่ตกอยู่ในความกลัว คือมีฝั่งสุขุมพันธุ์ ข้างหลัง จะเป็นคุณจูดี้ ยายปูใช่ไหมครับ ที่หาเสียงเบอร์ 9 ก็เป็นรูปบ้านเมืองโดนเผา กลายเป็นว่าสาวกพรรคประชาธิปัตย์ บอกดูสิ เอเอสทีวีสนับสนุนจูดี้ หาว่าจูดี้เป็นมดแดง หาว่าสุขุมพันธุ์เป็นแมลงสาบ คนเรานี้ด่าตัวเองก็ได้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน อันนี้มันสะท้อนเรื่องนี้ รวมกับเรื่องคอมเม้นในเว็บ แล้วรวมถึงเรื่องของคุณราตรี มันกำลังสะท้อนว่า พรรคประชาธิปัตย์และสาวก ไม่ลืมหูลืมตาเลย คือดิ้นพล่านอยากเอาชนะ ทำทุกวิถีทางบ้าคลั่งอย่างไม่ลืมหูลืมตา
จินดารัตน์ -ถามว่ายังมีโอกาสไหมที่พรรคประชาธิปัตย์จะดึงคะแนนจากพันธมิตรบางส่วนที่ปลดแอกตัวเองจากความกลัวแล้ว เดี๋ยวคำถามนี้ แอนขออนุญาต คุณจิตตนาถไว้กลับมาตอบช่วงต่อไปนะค่ะ พักกันสักครู่ค่ะ
จินดารัตน์ - กลับมาช่วงสุดท้ายแล้วนะคะ พูดคุยกันเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มีบางคนเขาเชียร์ผู้สมัครคนหนึ่ง เขาก็มาบอกว่า การที่ไปเลือกผู้สมัครอิสระเบอร์นั้น เบอร์นี้ถามหน่อย คนพวกนี้เขาทำอะไรเป็น เลือกเขามาแล้วทำอะไรได้เหรอ
จิตตนาถ - ผมว่าอย่างน้อยเขาก็มีความคิดที่เขาอยากจะเปลี่ยน ผมคิดว่าความคิดที่อยากจะเปลี่ยนสำคัญที่สุดเลย
จินดารัตน์ - แอนก็นึกย้อนกลับไปว่า จริงๆแอนน่าจะบอกว่าจริงๆก็เลือกเขาไปก่อนสิ ว่าทำอะไรเป็นหรือเปล่า
จิตตนาถ - เอาง่ายๆ คุณอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลคราวที่แล้ว คุณอภิสิทธิ์ได้เปลี่ยนอะไรหรือเปล่า เปล่า หม่อมสุขุมพันธุ์ 4 ปี เปลี่ยนอะไรหรือเปล่า แต่คนที่เขาสมัครอิสระทุกคนเขาอยากจะเปลี่ยน แค่เขามีความคิดอยากจะเปลี่ยน เลือกเขามา เขาได้เปลี่ยนสักข้อ ถือว่าโอเคแล้วนะ ผมคิดว่าแค่นี้ก็ดีกว่าแล้ว
จินดารัตน์ - เรื่องอำนาจผู้ว่าฯ กทม.มันจะอะไรกันนักกันหนามันจะเป็นจะตาย จะเอากันให้ถึงตาย ถามว่าอำนาจผู้ว่าฯ กทม.ทำอะไรได้บ้าง เปลี่ยนประเทศนี้ได้มั้ย หรือไปมีอิทธิพลกับรัฐบาลได้หรือเปล่า หรือพอเรายึดหัวหาดตรงนี้ไว้ได้ เราจะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ ทำอะไรได้มากกว่ารัฐบาล มีคนเขาตั้งคำถามอย่างนี้ ทำไมเอาเป็นเอาตายกันขนาดนี้
จิตตนาถ - อันนั้นผู้ว่าฯ กทม.อยู่ที่ว่าใครเป็นแล้วต้อการที่จะต่อยอดอย่างไร ถ้าเกิดว่า คุณสุขุมพันธุ์เป็น มันก็ไม่ได้มีการต่อยอดอย่างไร ในที่สุดก็เป็นแหล่งหากินแหล่งสุดท้ายของแมลงสาบแค่นั้นเอง คุณสุขุมพันธุ์อนาคตทางการเมืองจบไปหมดแล้ว นี่พูดตรงๆนะครับจากที่ผมวิเคราะห์ ไม่ได้มีอะไร คนไม่ได้แฮปปี้อะไรกันมากขึ้น แต่ถ้าเกิดว่าพรรคประชาธิปัตย์เมคเซ็นท์ว่าไม่ได้ส่งหม่อมสุขุมพันธุ์ เอาคุณกรณ์หรือน้องปลื้มมาเป็น แล้วเปลี่ยนประเทศไทยจริงๆหรือคุณมาร์คเป็นแล้วเปลี่ยน กทม.ให้ทำตามใจเหมือนกับไม่ต้องมีข้ออ้างแล้วว่าติดอันโน้นติดอันนี้แล้วทำขึ้นมา แน่นอนนั่นจะเป็นตัวอย่างที่ดีในการจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ฟื้นคืนชีพกลับไปสู่ความนิยมที่คนอาจจะเลือกได้ใหม่ ตรงนี้ต่างหากที่เป็นเบเนฟิตจากผู้ว่า กทม.ถ้าคุณทำเป็น คนที่ไม่มีต้นทุน อย่างผู้สมัครอิสระทุกคน คุณเสรีพิศุทธ์ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.คุณเสรีพิศุทธ์ก็อยากเป็นอ๋อง ไม่อยากที่จะ เดี๋ยวจะหาว่าไปใกล้ชิดทักษิณ เขาก็อยากจะเป็น Independen อยากจะ Somebody ขึ้นมา เป็นตัวของตัวเอง ถ้าเขาได้ตรงนี้ขึ้นมา ทำแล้วมันเวิร์คเหมือนอย่างที่คุณลุงจำลองทำแล้วเวิร์ค เหมือนอย่างที่คุณสมัครทำ อย่างน้อยก็มีกระแสตอบรับมาประมาณหนึ่ง ก็มีที่ทางให้เขาสามารถยืนอยู่ได้ หรือคุณสุหฤทก็เหมือนกันทุกคนสามารถมีที่ทางต่อไปได้หรือจะอยู่ที่ผู้ว่าฯ กทม.ต่อไป แต่เป็นที่นับถือมากกว่านายกรัฐมนตรีก็ทำได้อย่างคุณจูดี้ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก คุณจูดี้ไม่ต่างอะไรจากคุณสุขุมพันธุ์ก็เป็นมาก็เล็กๆ ศัพท์ไก่ศัพท์อะไรของแกไป มันก็แค่นั้นเองคุณจูดี้ไม่ได้ไปมากกว่านี้แล้ว ถึงบอกว่าอำนาจพวก กทม.จริงๆ แล้วไม่ได้มีอะไรเลย แค่อำนวยความสะดวก แต่อยู่ที่ว่าคุณจะใช้มันทำอะไรที่มันเป็นประโยชน์ และมันต่อยอดได้หรือเปล่า นี่มุมมองของผมนะครับ
จินดารัตน์ - แอนเห็นหนังที่คุณจิตตนาถหยิบมาด้วยวันนี้ เดอะแคมเปญ
จิตตนาถ - เดอะแคมเปญ
จินดารัตน์ - มันเหมือนมันต่างอย่างไรกับ เผื่อหลายคนอาจจะกลับไปหาหนังเรื่องนี้ดู
จิตตนาถ - อันนี้เป็นหนังที่กำลังวางตลาดอยู่เลย อยู่ตามร้านดีวีดี เผอิญผมไปมาแล้วผมเปิดดูแล้วตลก ไอ้วิลล์ฟาเรลล์จะเป็นคนที่ตลกทะลึ่ง
จินดารัตน์ - คนขวามือผมทองนะคะ
จิตตนาถ - เป็นตลกที่มันตลกมาก ตลกทะลึ่ง มันเป็นเรื่องของการเลือก ส.ส. น่าจะเป็น ส.ส.ของทางอเมริกา คนนึงจะเป็นเจ้าของตำแหน่งเก่าคือ วิลล์ฟาเรลล์ ส่วนอีกคนเป็นผู้สมัครที่มันเนิร์ดๆ หน่อย เล่นสกปรกกันมาก ต้องการเป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ไม่ต่างอะไรกับที่สองพรรคนี้กำลังเล่นเกมสกปรกเลย ไม่ต่างอะไรกับที่มีการไปตัดต่อรูปดารานักร้อง หรือนักมวยว่ามาสนับสนุนพรรคนี้ ไม่ต่างกับการอะไรที่ออกหวย ไม่ต่างอะไรที่ไปตัดต่อรูปเผาเมือง เหมือนกันทุกอย่างเลย เพียงแต่ว่าอันนี้เขาจะเล่นเรื่องส่วนตัวกัน คือว่าไอ้คนตัวเล็กมันไปเจาะจุดอ่อนของวิลล์ฟาเรลล์ว่า ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก มันเลยไปแอบถ่ายให้ลูกของไอ้วิลล์ฟาเรลล์ ไอ้คนนี้ไปเรียกตัวเองว่า แดด
จินดารัตน์ - เรียกตาหนวดว่า แดด
จิตตนาถ - ออกอากาศเลย ว่าคุณพ่อออกอากาศเลย คะแนนนิยมไอ้นี้ก็เพิ่มขึ้นใช่ไหมครับ โอ้โหขนาดลูกของคู่แข่งนี่นะ
จินดารัตน์ - ยังยอมเรียกเขาว่าพ่อเลย
จิตตนาถ - ไอ้นี้มันเลยแค้น มันเลยไปหลอกเมียของไอ้นี่ไปนอนด้วย เมียไอ้นี่ก็อ้วนมาก ไปหลอกมานอนด้วย แล้วเอาฉากเลิฟซีนมาออกอีก ใช่ไหมครับ ปรากฏว่าคะแนนของไอ้วิลล์ฟาเรลล์ก็ตีตื้นขึ้นมาอีก เพราะคนเขาบอกว่า โอ้โหไอ้นี่มันต้องอย่างนี้สิ คือ ผู้ชาย ปรากฏไอ้สองคนนี้นัดเคลียร์กัน ปรากฏว่าพอเจอกันปุ๊บไอ้หนวดยิงไอ้คนนี้เลย ยิงไอ้วิลล์ฟาเรลล์เลย ยิงที่ขาเลย มึงนอนกับเมียกู มึงต้องเจออย่างนี้ คะแนนตาหนวดพุ่งขึ้นมาอีก เอาเป็นว่า สาดโคลนใส่กันด้วยวิธีสกปรกต่างๆ นาๆ แต่จุดจบของเรื่องคืออะไรคือว่า มันมีกลุ่มทุนที่ตอนแรกหนุนตาหนวดอยู่ ให้มาเป็นคู่แข่งกับคุณวิลล์ฟาเรลล์ กลุ่มทุนกลุ่มนี้ต้องการที่จะสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษในรัฐนี้ โดยเอาแรงงานต่างชาติเข้ามา ไอ้นี่เลยขอถอนตัว ไอ้กลุ่มทุนเลยไปสนับสนุนวิลล์ฟาเรลล์ที่คะแนนกำลังตกอยู่ ให้คะแนนยิ่งฉีกเข้าไปใหญ่เลย พุ่งขึ้นมาใหญ่ ในที่สุดในที่สุดเลือกตั้งมาแล้ว วิลล์ฟาเรลล์ ชนะคือคนเก่าชนะ แต่คนเก่ารู้สึกละอายใจว่า ไอ้ตัวเล็กนอกจากว่า มันจะสู้ยิบตาแล้ว มันพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชนจริงๆ ปรากฏว่า วิลล์ฟาเรลล์ เสียสละตำแหน่งประกาศขอถอนตัวให้คนนี้ได้เป็น ส.ส.แทน และ ส.ส.คนนี้กลับมาชำระความสะอาดในสภาฯ ทั้งหมดเลย วกกลับมาทำให้การเมืองอเมริกาเปลี่ยน อันนี้เป็นบทสรุปของเรื่อง มันก็เลยเป็นจุดที่ผมคิดว่า คอลัมน์นี้ก็เลยเกิดว่า วิกฤตของผู้ว่าฯ กทม.มันจะแก้ไขได้ โดยการที่ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเสียสละหรือเปล่า ก็ย้อนมาที่ตรรกะนิดนึงคือว่า ตรรกะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 1.เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ สกปรกที่สุดตั้งแต่มีการตั้งกรุงรัตนโกสินทร์มาเลยใช่ไหมพี่แอน ไม่เคยมีอะไร 1.สกปรกที่สุด 2.คือว่าบิดเบือนที่สุด ก็เลยเป็นอะไรที่ผมอยากจะเขียนออกมา พอสกปรกที่สุดโดนบิดเบือนที่สุดแล้ว ทำอย่างไรเราถึงจะได้การเลือกตั้งกลับมา มันก็ต้องกลับมาที่ต้นเหตุ ต้นเหตุของการบิดเบือนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ให้เป็นสงครามชิงบ้านชิงเมือง มันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่หรอ ถ้าอย่างนั้นพรรคประชาธิปัตย์คุณควรที่จะคืน เขาเรียกว่าอะไร คืนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
จินดารัตน์ - แบบที่ควรจะเป็น
จิตตนาถ - แบบที่ควรจะเป็นให้กับคน กทม.คือว่า คุณก็ถอนตัว ทีนี้คุณถอนตัวเดี๋ยวหาว่า ผมไปสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพราะคน กทม.ไม่มีใครหรอกครับ ชอบคนเผาบ้านเผาเมือง ผมก็ไม่ชอบครับ ถ้าอย่างนั้นคุณก็สนับสนุนผู้สมัครอิสระสักคนนึงใช่ไหมครับไป ด้วยคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีอยู่ระดับนึงแล้วเบอร์ 16 บวกกับคะแนนของผู้สมัครอิสระอาจจะเป็น บวก 17 บวกเบอร์ 11 บวกเบอร์ 10 บวกอะไรต่างๆ ขึ้นมา มันแซงเบอร์ 9 อยู่ 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว
ถ้าคุณทำอย่างนั้นได้ขึ้นมาจริงๆ วาทกรรมที่คุณบอกว่า ไม่อยากให้พวกเผาเมืองกลับมา ซึ่งเป็นเขาเรียกว่า ไพริตี้อันดับ 1 คุณก็ทำสำเร็จแล้วไม่ใช่หรอ คือว่าพวกเผาเมืองไม่ได้เลือกมาเป็นผู้ว่าฯ คุณถือว่าคุณต้องวินแล้วไม่ใช่หรอ คุณต้องพอใจแล้วนะ แล้วอีกอย่างหนึ่งคุณประกาศสนับสนุนผู้สมัครอิสระคนหนึ่ง เสียงผู้สมัครอิสระรวมตัวกันได้ ผู้สมัครอิสระเขาอาจจะรวมทีมกันเป็นรองผู้ว่าฯ ก็ได้ บวกกับทีม และแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์จะบอกว่า อย่างนี้ทำงานอย่างไร ก็ ส.ก. ส.ข.ในมือคุณก็มีอยู่ คุณก็ประกาศหนุนหลังไป มันก็เดินหน้าต่อไปได้ ใช่ไหมครับ เลยทำให้ กทม.มันเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล เป็นเรื่องของนโยบาย เป็นเรื่องของการทำให้บ้านเมืองดีขึ้นจริงๆ ขึ้นมา ไอ้แฟนคลับของคุณที่เสียไปจากที่คุณไปไล่ด่าชาวบ้าน มันก็กลับมาเองใช่ไหมครับ เผลอถ้าคุณประกาศแบบนี้ พันธมิตรฯ ที่เสียความรู้สึกกับคุณ จะบอกว่า เอ๊ะเขา
จินดารัตน์ - เออกล้าดีนะ
จิตตนาถ - คุณไปเที่ยวเรียกร้องให้คนอื่นเขาเสียสละ ทำไมคุณไม่เสียสละ และเสียสละครั้งนี้คนที่ได้นั้นคือ คุณมากกว่าชาวบ้านอีกนะ คุณได้มากกว่าผู้สมัครอิสระอีกนะ เพราะคุณได้คะแนนเสียง ได้ความรักของคน กทม.กลับคืนมาเหมือนช่วงที่คุณอภิสิทธิ์กลับมาเป็นรัฐบาลใหม่ๆคือหล่อมากเลย เสียสละอย่างเดียว คือ เสียคุณชายออกไปแค่นั้นเอง คุณน่าจะเลือกประโยชน์ของประชาชนมากกว่า คือพูดง่ายๆว่าแนวคิดนี้พรรคประชาธิปัตย์มีแต่ได้ แต่ถามว่าทำไมเขาด่าผมกันเยอะ แล้วทำไมมันถึงไม่มีความเป็นจริง เขาก็บอกว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะพรรคประชาธิปัตย์เองก็เคยที่จะไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.แล้วตอนนั้น เพราะเห็นแน่นอนว่าแพ้ทักษิณแน่นอนตอนนั้นก็เลยไม่ส่ง บรรหารก็ไม่ส่ง ประชาธิปัตย์ก็ไม่ส่ง มันไม่ใช่ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ มันเคยมีมาแล้ว แต่ถามว่าครั้งนี้ทำไมถึงไม่ทำ เพราะว่าลงทุนค่าป้าย ลงทุนค่าโปรโมทไปเป็นจำนวนเงินที่เยอะมหาศาลแล้ว คุณจะเห็นได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ใช้งบประมาณการเลือกตั้งครั้งนี้เยอะกว่าพรรคเพื่อไทยเยอะ ระดมทุน ป้ายพรรคประชาธิปัตย์หมดเลย
จินดารัตน์ - เขาบอกจะให้ดีนะ คะแนนมันจะไม่ลดไปมากกว่านี้ ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์อยู่นิ่งๆเงียบๆกันบ้าง
จิตตนาถ - แล้วยังไงรู้ไหม จะย้อนกลับมาอย่างไร ตรรกะคือ พอคุณลงทุนเยอะ เวลาคุณเป็นผู้ว่า คุณก็ต้องเอาคืน เพราะว่าจำนวนเงินนี่ไปไม่รู้กี่ล้าน หลักสิบล้าน หลักร้อยล้าน เงินเดือนคุณสุขุมพันธ์ ทำมากี่ชาติถึงจะได้ ผมถึงบอกไงครับว่าถ้ากลับมาคราวนี้ก็ซูเปอร์คอร์รัปชั่น มันไม่ใช่กินรวบแต่เป็นแหล่งอาหารสุดท้ายของแมงสาบ นี่กินกันตายไปเลย
จินดารัตน์ - เขาบอกว่า วันที่ 3 มีนาคม ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งแต่ต้องปราศจากความกลัวให้เคารพความรู้สึกตัวเอง ถ้าคิดว่าเบอร์ 16 ดี ให้เลือกเขาไปเลย ถ้าคิดว่าเบอร์ 9 ดีก็เลือกเขาไป คิดว่าเบอร์ 17 ดีก็เลือกเขาไป ให้เคารพความรู้สึกตัวเอง
จิตตนาถ - อยากให้ดูจากนโยบาย อย่าให้ดูจากความกลัว มันจะมีคอมเมนท์อย่างที่บอกกับพี่แอนไว้
จินดารัตน์ - เมื่อสักครู่คุณจิตตนาถอ่านให้ฟังก็ขำดีนะ
จิตตนาถ - มันก็จะมีอย่างผู้ใหญ่ที่ทางมีการรีเฟอร์ถึง อย่างท่าน ส.ศิวรักษ์ หรือพิธีกรเราอย่างพี่โส ก็จะมา เขาบอกว่า คุณสนธิ คุณจิตตนาถคะ ท่าน ส.ศิวรักษ์ ได้ออกมาชี้ทางสว่างให้แล้ว พวกคุณ 2 พ่อลูกรู้สึกกันอย่างไรบ้างคะ พวกคุณต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนนะคะ เวลาเหลือน้อยเดี๋ยวจะไม่ทันการณ์ พวกเรากำลังรอการตัดสินใจอยู่ค่ะ ท่าน ส.ศิวรักษ์ ออกมาพูดอะไรพี่แอนจำได้ไหม
จินดารัตน์ - ก็ใช้ตรรกะเเบบคล้ายๆ คือถ้าเลือกก็เสียงแตก ถ้าเลือกอิสระ ก็ให้เลือกคุณชายสุขุมพันธุ์
จิตตนาถ - เขาตอบออกมาน่าสนใจมากเลยนะ มีท่านหนึ่งตอบมา ทางสว่างนั้นมี 2 สี ทางสว่างที่ท่าน ส.ศิวรักษ์ หรือพี่โส ชี้ทาง เขาเรียกว่าทางสว่างสีดำ ผู้ใดเลือกทางนั้นย่อมจะพบกับความสุข แต่มันเป็นความสุขที่จอมปลอม อย่างน้อยทักษิณไม่กินรวบ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกินมูมมามกว่า ส่วนทางที่พันธมิตรฯ เลือกนั้น คือทางสว่างสีขาว ต่างกันอย่างไร คือทางสว่างแห่งการหลุดพ้น อันนี้ก็แล้วแต่จะเลือกแล้วกันว่า คุณจะเลือกหนทางแห่งความสุข หรือคุณจะเลือกหนทางแห่งการหลุดพ้น
จินดารัตน์ - มีหลายคอมเมนท์ตอนนี้ก็ยังไม่หยุดเข้ามากระหน่ำ
จิตตนาถ - จะมาหาว่าคุณสนธิกับผม รับเงินทักษิณมาบ้าง ตอนนี้มันถึงขั้นหนักเลยนะ ประมาณว่า อย่างรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ว่าด่าคุณพายัพ ว่าเกี่ยวกับศาสนา เป็นชุดเลยนะ ไม่ได้ด่าประชาธิปัตย์เลยนะ ก็มีคอมเมนท์บอกว่า มันด่าทักษิณ เป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้อยู่แล้ว แต่พอแตะประชาธิปัตย์ โอ้โห รับเงินเขามากันเป็นแถวเลย
จินดารัตน์ - ลองเข้าไปอ่านเว็บไซต์ผู้จัดการคุณก็จะเห็นความเคลื่อนไหวของบรรดาผู้สนับสนุนจากทั้ง 2 พรรค ก็จะเข้ามา เราอ่านแล้วก็อย่าไปคิดมากคุณผู้ชม มันเกิดแบบนี้มา
จิตตนาถ - มีคอมเมนท์ขำมากเลย จะคอยดูจุดจบของไอ้พ่อลูกคู่นี้ แต่ผมเชื่อจริงๆนะว่าจุดจบของพวกคุณ คุณจิตอนาถมันคงไม่สวยแน่ ก็ไม่เป็นไรครับ อันนี้เราก็ไม่ว่ากัน แต่เดี๋ยวก่อนจบพี่แอน อยากจะรู้ไหมว่าทำอย่างไรให้ประชาธิปัตย์ได้คะแนพันธมิตรฯ มันมี 2 แนวทาง แนวทางแรกอย่างที่ผมบอก หล่อหน่อย ประกาศหนุนอิสระสักคน แล้วเดี๋ยวพันธมิตรฯ เขาจะเทไปแน่นอน ไม่ใช่เฉพาะพันธมิตรฯนะครับ อิสระเอง คนที่เลือกอิสระเขามีความอิสระในหัวใจเขาอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม กลวิธีเดิม หรือวาทกรรมเดิมๆใช้ไม่ได้ ถ้าคุณบังคับให้เลือกเขาจะไม่เลือกแต่ถ้าคุณมาสนับสนุนพวกเขาบวกกับแรงของพวกเขา คุณชนะแน่นอน นี่คือทางที่หนึ่ง ทางที่สอง ไม่ง่าย คุณอภิสิทธิ์ไปขอโทษคุณราตรีซะ คุณพนิช คุณกษิต ไปขอโทษคุณราตรีซะ อาจจะไม่ขนาดกราบเท้าอย่างที่ผมพูดหรอก แต่ขอโทษ โอเค ผมเข้าใจนะครับไปคุกมาลำบากอย่างไร ทำเนียนๆก็ได้ ไปทำให้ดูเป็นลูกผู้ชายหน่อย รับรองว่าโอเค คุณพอใช้ได้ เหมือนกับท่านประยุทธ์ไม่ต้องมายอมรับว่า ขอโทษผู้จัดการโดยตรงก็ได้ ขอโทษสังคมก็โอเค ใช่ไหมครับอย่างนี้รับรองว่า
จินดารัตน์ - เป็นการแสดงความรับผิดชอบ
จิตตนาถ - เป็นการแสดงความรับผิดชอบว่า อย่างนี้รับรองว่า คะแนนพันธมิตรฯ เทกลับมาให้พรรคประชาธิปัตย์แน่นอน
จินดารัตน์ - แต่ก็พูดไปตั้ง 2 ข้อ มันไม่เกิดแน่นอน
จิตตนาถ - นั้นสิครับ มันไม่เกิดขึ้นมาเลยไม่รู้จะทำอย่างไร
จินดารัตน์ - พยายามบอกมีหลายคนบอกทางออกว่า บอกกันมาก็หลายปี แต่ไม่เคยบังเกิดผล แต่ถือว่าเหมือนกับแนะนำกัน เลิกอาละวาด เลิกไปเข้าบ้านคนโน้นคนนี้ ไปอาละวาดไปด่าเขา ไปสร้างวาทกรรมให้เกิดความกลัว ระวังนะคะเขากลัวเขาจะยิ่งกล้า กล้าที่จะปลดแอกตัวเองจากความกลัว
จิตตนาถ - และคีย์เวิร์ด เพราะว่าเอาเป็นว่า ผมคิดว่าดูรายการวันนี้หลายคนน่าจะมีความมั่นคงทางจิตใจมากขึ้น แต่ก็ถ้าเกิดว่าเมื่อไรจิตใจไม่มั่นคง โดนคาถาเขาสะกด ผมมีคาถาแก้ อย่าเลือกพวกเผาเมือง แล้วทำไมต้องเลือกคนที่ประกันพวกเผาเมืองออกมา และก็ท่องคาถานี้
จินดารัตน์ - ก่อนเข้าคูหา
จิตตนาถ - กลับไปไง คือเขาใส่คาถาอะไรเรามา เราก็ใส่คาถานั้นเข้าไปถูกไหมครับ ประมาณอย่างนี้ไม่เลือกเราเขามาแน่ บอกเลือกไปก็ไร้บอยใช่ไหมครับอะไรอย่างนี้ ใช่ไหมครับ ท่องอย่างนี้ไว้ และที่สำคัญถ้าท่องแล้วยังไม่ได้ผล เดี๋ยวขึ้นรูปอีกทีเลยนะ ขึ้นรูปคุณรังสิมากับจ่าประสิทธิ์กอดกัน และจำเอาไว้เลยว่า พรรคการเมืองจับเชือกเส้นเดียวกันอยู่แค่คนละปลายแค่นั้นเอง ตัวเชือกครอบเอาไว้ด้วยกล่องดำคือ ความไม่รู้ของคน กับวาทกรรม ตัวเชือกนั้นก็คือ การคอร์รัปชั่น การแอบเจรจากัน การหาประโยชน์จากประชาชนนะครับ และคุณดูว่าคุณเลือกเขาลงหรือเปล่า ที่แท้มันก็พวกเดียวกันนั้นแหละ
จินดารัตน์ - แอนขอบคุณคุณจิตตนาถนะคะ เอาเป็นว่าแล้วแต่ท่านผู้ชม ใจคิดอย่างไรอยากเลือกใครก็ไปกาเบอร์นั้น ต้องปราศจากความกลัว และต้องเคารพความรู้สึกตัวเองด้วย
จิตตนาถ - ครับ ขอบคุณครับพี่แอน
จินดารัตน์ - งั้นลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ