รมว.กลาโหมปิดประตูคุยเอกราชปัตตานี หลังประธาน “พูโล” ออกทีวี ชี้ผิดรัฐธรรมนูญ มทภ.4 ชี้มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น แต่ช่อง 3 ออนแอร์โจ๋งครึ่มต้องดูความเหมาะสม ชี้ “กัสตูรี” ประธานพูโลไม่มีบทบาท หตุไร้กองกำลัง เผยหวังสร้างค่าให้ตัวเอง พร้อมตอกกลับ ใครกันแน่ไม่จริงใจแก้ปัญหาไฟใต้ “บิ๊กบัง” ย้อนมีบทบาทจริงหรือ เชียร์ “วาดะห์” ดับไฟใต้ แต่ต้องปรับความเข้าใจ
วันนี้ (25 ก.พ.) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกัสตูรี มะห์โกตา ประธานขบวนการปลดปล่อยสหปัตตานี (พูโล) ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าว 3 มิติ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 อ้างว่ายังมีบทบาทต่อเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ตนไม่ได้ติดตามเรื่องดังกล่าว ส่วนที่มีการเรียกร้องเรื่องเอกราชปัตตานีนั้นคงเป็นไปไม่ได้และรัฐบาลปฏิเสธที่จะพูดคุยเรื่องนี้ เพราะผิดรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ตนไม่อยากวิจารณ์อะไรมาก เนื่องจากยังไม่ทราบรายละเอียด
ด้าน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดตามการให้สัมภาษณ์ของนายกัสตูรี ส่วนที่มองว่าการนำเสนอดังกล่าวของสื่อนั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ ตนเห็นว่าประเทศไทยมีเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายในการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อความขัดแย้ง เมื่อถามว่าเกรงว่าจะเป็นการยกระดับความสำคัญและกระทบต่อความมั่นคงตลอดจนเป็นที่จับตามองจากต่างชาติหรือไม่ พล.ท.อุดมชัยกล่าวว่า เราต้องการยุติความขัดแย้งและความรุนแรง เป็นแบบสันติวิธี เขาก็แสดงความคิดเห็นได้ ส่วนการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ดังกล่าวจะกระทบการแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป
เมื่อถามว่า นายกัสตูรอ้างว่ารัฐบาลไทยยังไม่มีความจริงใจต่อการเจรจา เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี จะกระทบต่อคนที่จะเข้ามามอบตัวตาม มาตรา 21 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หรือไม่ พล.ท.อุดมชัยกล่าวว่า พูดแบบนี้มาเป็น 100 ครั้งแล้ว อยากถามว่าแล้วนายกัสตูร มีความจริงใจแค่ไหน คนที่ไม่จริงใจก็มีแต่โจรเท่านั้น ทางเราพร้อมพูดคุยและหาทางออกในการแก้ปัญหา เช่นใน จ.สงขลา มีคนมามอบตัว 4 คน ก็มีการล็อบบี้ไม่ให้เขาเข้ามามอบตัว อย่างนี้ใครกันแน่ไม่จริงใจ อย่างไรก็ตามตนไม่รู้สึกกังวลว่าจะส่งผลกระทบทางด้านจิตวิทยากับคนที่กำลังจะเข้ามามอบตัวตามมาตรา 21 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ
เมื่อถามว่า ประธานพูโลยังระบุว่าต้องการเอกราชปัตตานี แต่ก็พร้อมที่จะรับข้อเรียกร้องจากฝ่ายรัฐบาลไทย พล.ท.อุดมชัยกล่าวว่า เรื่องนี้เขาเรียกร้องมาตั้งนานแล้ว ทุกคนก็รู้ดี และถ้าต้องการเอกราชก็คุยไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนมองว่านายกัสตูรีพูดเพื่อต้องการเรียกร้อง และแสดงบทบาทว่ายังมีความสำคัญ หรือสร้างค่าให้ตัวเองมากกว่า เพราะกลุ่มพูโลไม่มีกองกำลัง และไม่มีบทบาทในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย แต่ก็ถือเป็นความคิดเห็นของคนที่มีความเห็นต่างคนหนึ่ง ซึ่งเราก็พร้อมที่จะรับฟัง
ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงกล่าวว่า นายกัสตูรีอ้างว่าเป็นประธานขบวนการปลดปล่อยสหปัตตานี ซึ่งแยกตัวมาจากพูโลเดิม โดยต้องการสร้างบทบาทในการเจราจากับรัฐไทย ซึ่งมีอดีตเจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นผู้ประสานงาน และเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวทำงานให้กับ พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งเป็นไปตามภารกิจของ ศอ บต. และเป็นส่วนหนึ่งการพูดคุยตามนโยบายข้อ 8 ของ สมช.เรื่องการเปิดพื้นที่ให้กับคนที่ความเห็นแตกต่างให้มาพูดคุย นอกจากกลุ่มพูโลแล้ว ยังมีกลุ่มอื่นๆ อีกที่จะเข้ามาพูดคุยอีก โดยทั้งหมดคาดว่ามีความเกี่ยวข้องกับงบประมาณ เพราะทั้ง ศอ.บต.และ สมช.มีงบเรื่องการเปิดพื้นที่พูดคุยที่ทางรัฐบาลได้อนุมัติให้ ในส่วนของ ขบวนการพูโลก็ต้องการแสดงให้เห็นว่าเป็นกลุ่มที่มีบทบาท พูดคุยกับรัฐบาลไทยได้ และจะได้รับการสนับสนุนเงินจากองค์กรระหว่างประเทศ
ส่วน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ขบวนการพูโลออกมาระบุว่าต้องการที่จะเจรจากับรัฐบาลแต่ควรมีประเทศที่เป็นกลางเข้ามามีส่วนร่วม โดยกล่าวว่าขณะนี้กลุ่มพูโลมีบทบาทอะไรต่อปัญหาในพื้นที่บ้างนั้นไม่แน่ใจ และเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มบีอาร์เอ็นโคออร์ดิเนตหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจ และที่ผ่านมาก็มีการเจรจาหลายครั้งและมีการอ้างว่ามาจากกลุ่มต่างๆ ซึ่งถ้ามีหลายกลุ่มก็จะเป็นประโยชน์ในการเจรจา
เมื่อถามว่าการที่มีการมองว่าปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ไม่ใช้แค่การแบ่งแยกดินแดนแต่มีปัญหาอื่น ทั้งยาเสพติดและการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ด้วย จะสามารถแก้ปัญหาด้วยการพูดคุยได้หรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า จากการศึกษาปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมามีความเชื่อว่าการก่อการร้าย เป็นคนละพวกกับกลุ่มที่ค้ายาเสพติดและกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ เพราะกลุ่มก่อการร้ายมีอุดมการณ์ หากมีการกระทำที่ผิดกฎหมายเช่นการค้ายาเสพติดเข้ามาจะทำให้กลุ่มของพวกเขาแตกเร็วยิ่งขึ้น คิดว่าพวกเขาคงไม่ทำ
พล.อ.สนธิยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาภาคใต้ที่มีการดึงกลุ่มวาดะห์เขามาช่วยแก้ไขปัญหาว่า ที่ผ่านมาทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ก็มีที่ปรึกษาอยู่แล้ว และกลุ่มวาดะห์ก็เคยอยู่ในส่วนนี้ แม้อาจจะหายไประยะหนึ่ง แต่เมื่อกลับมามีส่วนอีกครั้งก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะการแก้ไขปัญหาภาคใต้กลุ่มต่างๆ ก็มีแนวคิดที่แตกต่างกัน หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็ควรที่จะรวบรวมแนวทางต่างๆ ไปพิจารณาว่าอะไรจะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาที่สุด
ต่อข้อถามที่ว่า ภาพลักษณ์ของกลุ่มวาดะห์ ที่มีสมาชิกบางคนเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับปัญหาในพื้นที่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า คดีต่างๆ เมื่อถึงที่สิ้นสุดแล้วก็ถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด การจะตั้งข้อสงสัยนั้นสามารถที่จะทำได้ แต่ก็ต้องดูว่าพวกเขามีความผิดหรือไม่ และหวังว่าการที่กลุ่มวาดะห์เข้ามาจะช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องมาปรับความเข้าใจของแต่ละคน ทั้งความเข้าใจตัวเขาและความเข้าใจตัวเราให้ตรงกัน ซึ่งการแก้ปัญหาก็คงต้องค่อยๆ ปรับไป
ต่อข้อถามที่ว่า การบังคับใช้กฎหมายมีความสำคัญมากกว่าการเจรจาหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งไม่ว่าจะเป็นที่ไหน จะสามารถหาข้อยุติได้ด้วยการพูดคุย ตรงนี้จึงต้องหันมาศึกษาเรื่องการพูดคุยประกอบกับแนวทางอื่นในการแก้ไขปัญหา ส่วนจะให้มีการเจรจาหรือไม่นั้น หลายคนมองว่าการเจรจาเป็นการยกระดับ แต่เพื่อให้เกิดสบายใจของทุกฝ่ายก็ให้ใช้การพูดคุย ที่จะนำไปสู่การแก้ไปปัญหาอีกระดับหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เดินทางไปงานซ้อมรับปริญญาเอก สาขารัฐศาสตร์ (สาขาวิชาการเมือง) ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง