รวบสาวแสบแต่งชุดนักศึกษาตระเวนลักทรัพย์ในมหาวิทยาลัยเชื่อดังทั้งจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ มหิดล ศิลปากร และเอแบค ฯลฯ ยึดของกลางกว่า 100 รายการ รับสารภาพก่อเหตุมาแล้วกว่า 1 ปี สร้างรายได้ 6 หมื่นถึง 1 แสนบาทต่อเดือน
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.ธัชชัย หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.เชาว์ ป้อมงาม รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี และ พ.ต.ต.ภูวนาท แก่นจันทร์ สว.สส. สภ.บางพลี ร่วมกันแถลงผลจับกุมตัว น.ส.สุจิตรา จิตตะคราม อายุ 22 ปี บ้านเดิมเลขที่ 50/865 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และ นายคมกริช ขุนวิเศษ อายุ 42 ปี บ้านเดิมเลขที่ 69/3 ม.8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ผู้อื่น หรือรับของโจร โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการหลบหนี พร้อมของกลางรถกระบะอิซูซุ ดีแมคซ์ สเปซแคบสีขาว ทะเบียน บพ 3698 สระบุรี 1 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ ปลอม สฮ 3226 กทม. กระดุมติดเสื้อนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ รวม 43 เม็ด ชุดนักศึกษาสตรี 1 ชุด รองเท้าผ้าใบสีขาว 1 คู่ กุญแจรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ 5 พวง ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐ 15 ดอลลาร์ กระเป๋าเครื่องสำอาง 11 ใบ กระเป๋าสตรียี่ห้อดัง 24 ใบ กล้องถ่ายรูปโพราลอยด์ 1 ตัว แว่นสายตา 4 อัน นาฬิกาข้อมือ 6 เรือน แท็บเล็ตยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน 23 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ 20 ใบ และทรัพย์สินอื่นอีกรวมกว่า 100 รายการ
พล.ต.ต.ธัชชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนกรณีมีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังใน จ.สมุทรปราการ บ่อยครั้ง ซึ่งทรัพย์สินที่สูญหายจะประกอบไปด้วยกระเป๋าสตรีมีราคา และโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนเงินสด ในระยะแรกคาดว่าคนร้ายคงเป็นคนในมหาวิทยาลัยดังกล่าว แต่หลังมีการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า มีมหาวิทยาลัยรัฐบาล และเอกชนชื่อดังอีกกว่า 20 แห่งก็เคยถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นนักศึกษาหญิงรูปร่างอ้วนดำ เดินทางเข้าออกมหาวิทยาลัยที่เกิดเหตุบ่อยครั้งทำให้เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นนักศึกษาแต่อย่างใด
พล.ต.ต.ธัชชัย กล่าวต่อว่า ล่าสุด คนร้ายได้แต่งกายสวมชุดนักศึกษาเดินทางไปทำทีร่วมงานซ้อมรับปริญญาที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว ก่อนภาพกล้องวงจรปิดจะบันทึกพฤติการณ์ไว้ได้ โดยคนร้ายเดินทางมากับรถกระบะอีซูซุดีแมคซ์คันดังกล่าว เป็นชายหญิง 2 คน ฝ่ายหญิงลักษณะอ้วนดำ ฝ่ายชายหุ่นผอมสูง จึงได้นำภาพผู้ต้องสงสัยไปตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากร ก่อนพบว่าทั้งสองคือ น.ส.สุจิตรา จิตตะคราม และ นายคมกริช ขุนวิเศษ เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.บางพลี จึงกระจายกำลังตรวจสอบ พบว่าทั้งคู่กบดานอยู่ภายในบ้านพักในซอยรัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ประชาธิปปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงเข้าจับกุม และยึดของกลางจำนวนมาก
สอบสวน น.ส.สุจิตตรา ให้การว่า ตนและสามีเคยถูกจับในคดีลักทรัพย์เมื่อหลายปีมาแล้ว ก่อนมากินอยู่ด้วยกันจนมีลูก 1 คน แต่ด้วยความที่เป็นคนมีประวัติไม่ดี ทำให้ไม่สามารถประกอบอาชีพใดๆ ได้ โดยก่อนหน้านี้ได้เคยเดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ก่อนพบว่านักศึกษามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดัง และมหาวิทยาลัยเอกชน มีการใช้ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวราคาแพง โดยเฉพาะกระเป๋า และโทรศัพท์มือถือ จึงสวมรอยเป็นนักศึกษาโดยซื้อเสื้อผ้าเครื่องแบบนักศึกษาตามร้านที่จำหน่ายทั่วไป แล้วติดกระดุมมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้าไปลักทรัพย์
น.ส.สุจิตตรา กล่าวต่อว่า โดยตนจะเลือกหยิบฉกฉวยทรัพย์สินที่นักศึกษาเหล่านั้นวางเผอเรอไว้ตามโต๊ะม้านั่ง ทั้งตามซุ้มอาคารเรียน โรงอาหาร หอประชุม หรือในห้องน้ำ ก่อเหตุมามากกว่า 1 ปี โดยมหาวิยาลัยชื่อดังที่เคยถูกตนเข้าไปแฝงตัวก่อเหตุจำได้ว่า มีที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ม.ราชมงคลธัญบุรี ม.มหิดล ม.ศิลปากร ม.หัวเฉียว ม.เอแบค ม.กรุงเทพ เป็นต้น
“ทรัพย์สินที่ได้มาหากเป็นกระเป๋า หรือของใช้ส่วนตัวก็จะนำไปวางขายตามตลาดนัดเปิดท้าย ส่วนโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั้นก็จะนำไปขายต่อตามร้านรับซื้อของมือสอง ทั้งนี้ มีรายได้จากการก่อเหตุลักทรัพย์เดือนละไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นถึง 1 แสนบาท” น.ส.สุจิตตรากล่าว