xs
xsm
sm
md
lg

‘ช่อง 3’ ร่วมขบวนการ ‘พูโล’ เล่นปาหี่ขี่หลัง ‘ปู’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกัสตูรี มะห์โกตา
 
ช่างเป็นเรื่องราวที่ได้จังหวะจะโคนและลงล็อกกันได้อย่างน่าประหลาดใจ เมื่อทางช่อง 3 ไฟเขียวให้รายการข่าว 3 มิติของนายกิตติ สิงหาปัด ที่ส่งนายมนตรี อุดมพงษ์ ไปสัมภาษณ์พิเศษ “นายกัสตูรี มะห์โกตา” ผู้อ้างว่าเป็น “ประธานขบวนการพูโล” เอามาออกอากาศในรายการติดต่อกันถึง 2 วันติดต่อกันคือ คืนวันที่ 24-25 ก.พ.2556 แถมยังทำสกู๊ปข่าวอวยกันอย่างเป็นพิเศษประกบบทสัมภาษณ์พิเศษครั้งนี้ด้วย
 
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็นำคณะเยือนประเทศมาเลเซียแบบปัจจุบันทันด่วนเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา แม้จะพยายามอ้างไปต่างๆ นานาว่าไม่เกี่ยวกับการไปขอให้ฝ่ายมาเลย์ช่วยเป็นตัวกลางเจรจาดับไฟใต้ แต่สังคมก็ปักใจเชื่อเช่นนั้นไปแล้ว เพราะมีการเตรียมการกันมาแล้วอย่างเป็นขั้นเป็นตอนของทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งว่ากันว่าตัวแทนฝ่ายขบวนการแบ่งแยกแผ่นดินชายแดนใต้ของไทยที่จะเจรจาด้วยก็คือ แกนนำขบวนการพูโลนั่นแหละ
 
หากมองย้อนไปก่อนหน้า หลังเกิดเหตุกลุ่มโจรใต้กว่าครึ่งร้อยบุกโจมตีฐานนาวิกโยธินที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกฝ่ายตั้งรับอย่างดีเพราะรู้ข่าวมาก่อน จนกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนสูญเสียไปถึง 16 ศพ แล้วสถานการณ์ต่อเนื่องมาก็ดูจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั้น เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงเป็นวาระเร่งด่วน ภายหลังการประชุม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.ได้ออกมาระบุว่า
 
“ตอนนี้เรากำลังพิสูจน์ทราบว่า ในพื้นที่ต่างๆ ที่ยังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่ เราจะลดโทนลงมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ตรงนี้จะนำไปสู่เวทีการพูดคุย และนำไปสู่กระบวนการตามมาตรา 21 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ได้ เรื่องนี้นายกฯ ก็มีความเห็นสอดคล้องกัน เพราะเป็นไปตามนโยบาย และเป็นแนวทางที่เราจะแก้ตามกระบวนการสันติวิธี”
 
กรณีของบวนการพูโลมักหาโอกาสออกมาประกาศตัวสร้างราคาบนจอทีวีไทย ซึ่งหลายครั้งก็กลายเป็นปาหี่และเป็นที่ตลกขบขันของผู้คนในสังคม อย่างกรณีที่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร สมัยที่นั่งอยู่ใน ครม.ของนักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร และช่อง 5 หรือกรณีที่มีข่าวก่อนหน้านี้ไม่นานว่านักโทษหนีคุกทักษิณเองก็เคยบินไปเจรจากับตัวแทนขบวนการพูโลในมาเลเซียนั่งไง เชื่อว่าเรื่องราวเหล่านี้ผู้บริหารช่อง 3 และนายกิตติไม่มีวันที่จะไม่รู้
 
การที่ช่อง 3 ให้นายกัสตูรีออกมาเคลื่อนไหวผ่านหน้าจอ ซึ่งหน่วยงานข่าวกรอง หน่วยงานความมั่นคง รวมถึงคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างรู้จักมักคุ้นว่าเขาคือผู้ที่ออกแถลงการณ์ในนามตัวแทนขบวนการพูโลมาตลอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไฟใต้คุโชนระลอกใหม่ ซึ่งแถลงการณ์ส่วนใหญ่เขามักมีข้อเสนอด้วยว่า เขาขอเป็น “คนกลาง” เจรจากับตัวแทนรัฐบาลไทย ในการยุติการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้
 
ในขณะที่หน่วยงานความมั่นคงต่างๆ นับตั้งแต่ของกองทัพ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และ สมช.ต่างระบุตรงกันว่า ขบวนการพูโลที่มีนายกัสตูรีเป็นประธานอยู่นั้นเป็นของปลอม ไม่ได้มีศักยภาพในการก่อการร้าย ไม่มีกองกำลังติดอาวุธในชายแดนใต้ ดังนั้นจึงไม่ได้ให้น้ำหนักกับการเคลื่อนไหวของนายกัสตูรี เพียงแต่มีสายข่าวหลายคนของหน่วยงานรัฐที่ยังติดต่อประสานสัมพันธ์ด้วย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความเคลื่อนไหวของขบวนการแบ่งแยกดินแดน และบุคคลในขบวนการที่เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศที่สาม
 
เป็นที่รู้กันว่า ความไม่สงบ ณ คาบนี้ของแผ่นดินปลายด้ามขวาน ซึ่งถูกทำให้เดินไปตามแผนบันได 7 ขั้น เริ่มตั้งแต่การเผาโรงเรียน 36 โรงเมื่อปี 2536 เป็นต้นมา รวมทั้งการปล้นปืนของกองพลพัฒนาที่ 4 ที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อปี 2547 นั้น เป็นฝีมือของขบวนการแบ่งแยกดินแดน “บีอาร์เอ็น โคออดิเนต” และตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยมีตัวแทนของบีอาร์เอ็นฯ ออกมาต่อรองหรือขอเจรจากับหน่วยงานของรัฐไทยแต่อย่างใด
 
แต่บีอาร์เอ็นฯ ก็ไม่เคยปฏิเสธว่า การก่อความไม่สงบเพื่อโหมไฟใต้ระลอกใหม่ ไม่ใช่ฝีมือของบีอาร์เอ็นฯ และที่น่าสนใจคือ บีอาร์เอ็นฯ ปฏิเสธกับคนวงในมาโดยตลอดว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการพูโล ในขณะที่นายกัสตูรีพยายามตีขลุมออกแถลงการณ์มาโดยตลอดว่า พูโลมีส่วนในการก่อความไม่สงบ และเป็นส่วนหนึ่งของบีอาร์เอ็นฯ
 
ทว่า ทางช่อง 3 กับให้นายกัสตูรีได้ประกาศผ่านหน้าจอเที่ยวล่าสุดอย่างโจ๋งครึ่มว่า ประเทศไทยและประเทศต้องรับรู้ไว้ด้วยว่า พูโลเป็นหนึ่งใน “หุ้นส่วน” ของการก่อการร้ายและการก่อความไม่สงบในชายแดนใต้ และมีศักยภาพในการเป็นตัวแทนของขบวนการบีอาร์เอ็นฯ เพื่อเปิดพื้นที่พูดคุยบนเวทีสันติภาพที่มีประเทศที่เป็นกลางเป็นเจ้าภาพ
 
ข้อเสนอของนายกัสตูรีครั้งนี้ยังเปิดช่องทางว่า นอกจากเรียกร้องเอกราชให้กับรัฐปัตตานี แล้ว ยังพร้อมที่จะรับข้อเสนอของรัฐไทยด้วย เช่น การตั้งเขตปกครองพิเศษ หรือจะให้ตั้งนครปัตตานี รวมถึงการกระจายอำนาจในรูปแบบอื่นๆ นั่นหมายความว่า พูโลพร้อมที่จะยืดหยุ่นกับข้อเสนอของรัฐบาลไทย
 
โดยเฉพาะนายกัสตูรีพร้อมที่จะเป็น “ตัวแทน” ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเปิดเวทีพูดคุยสันติภาพตามนโยบายของรัฐบาลที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ในเวลานี้
 
เมื่อวิเคราะห์ถึงการออกมาความเคลื่อนไหวของขบวนการพูโลเที่ยวล่าสุด สามารถฟันธงได้เลยว่า นายกัสตูรีได้ฉกฉวยโอกาสที่รัฐบาลและกองทัพได้ออกมาเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ในเรื่องของการเปิดพื้นที่พูดคุยเพื่อลดความขัดแย้งกับผู้ที่เห็นต่าง และการให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในพื้นที่ชายแดนใต้แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รวมถึงกฎอัยการศึกที่ฝ่ายทหารเคยประกาศไว้ก่อนหน้า
 
โดยเฉพาะในมาตราที่ 21 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ได้เปิดช่องทางให้กลุ่มผู้หลงผิดได้อาศัยฟอกตัวให้เป็นผู้ไม่ต้องรับโทษทางอาญา และสมาชิกขบวนการโจรก่อการร้าย (ขจก.) ในอดีตที่ยังมีคดีความมั่นคงติดตัวอยู่ ทั้งที่อยู่ในไทยและในประเทศที่สาม คนเหล่านี้ก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย
 
ข้อความสำคัญในมาตรา 21 ของ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ระบุว่า…
 
“หากปรากฏว่าผู้ใดต้องหาว่า ได้กระทำความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด แต่กลับใจเข้ามอบตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกรณีที่พนักงานสอบสวนได้ ดำเนินการสอบสวนแล้ว ปรากฏว่าผู้นั้นได้กระทำไปเพราะหลงผิด หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และการเปิดโอกาสให้ผู้นั้นกลับตัวจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในการนี้ให้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนการสอบสวนของผู้ต้องหานั้น พร้อมทั้งความเห็นของพนักงานสอบสวนไปให้ผู้อำนวยการ
 
ในกรณีที่ผู้อำนวยการเห็นด้วยกับความเห็นของพนักงานสอบสวน ให้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นของผู้อำนวยการให้พนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาล หากเห็นสมควรศาลอาจสั่งให้ส่งผู้ต้องหานั้นให้ผู้อำนวยการเพื่อเข้ารับการอบรม ณ สถานที่ที่กำหนดเป็นเวลาไม่เกินหกเดือน และปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นที่ศาลกำหนดด้วยก็ได้
 
การดำเนินการตามวรรคสอง ให้ศาลสั่งได้ต่อเมื่อผู้ต้องหานั้นยินยอมเข้ารับการอบรมและปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว
 
เมื่อผู้ต้องหาได้เข้ารับการอบรมและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดดังกล่าวแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องผู้ต้องหานั้นเป็นอันระงับไป”
 
 ดังนั้น ในการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อใช้ช่องทางของ ม.21 ในการนำคนหลงผิดกลับบ้าน อานิสงส์นี้จะตกอยู่กับแนวร่วมของขบวนการพูโล และอีกหลายขบวนการที่เป็นอดีตของขบวนการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งนายกัสตูรีก็ได้ถือโอกาสโหน ม.21 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ฟอกตัวให้พ้นผิด และเดินทางกลับมายังบ้านเกิดได้โดยไม่ต้องหลบซ่อนตัวอีกต่อไป และอาจจะมีผู้ประสานงานของขบวนการพูโลที่จะได้ดิบได้ดีกับการนำอดีต ขจก.ที่ขณะนี้ได้รับการขนานนามใหม่ว่าผู้หลงผิดกลับบ้าน
 
การออกมาเคลื่อนไหวของนายกัสตูรีจึงเป็นการสร้างราคาให้กับตนเอง และชุบชีวิตของขบวนการพูโลที่ตายซากไปแล้ว ให้ฟืนคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง โดยการโหนยุทธศาสตร์การเปิดเวทีพูดคุยกับผู้ที่เห็นต่าง รวมทั้งการที่รัฐบาลมีแนวทางในการเปิดพื้นที่พูดคุยกับแกนนำในประเทศที่ 3 โดยขอให้รัฐบาลมาเลเซีย รวมทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด เป็นคนกลาง
 
สำหรับมาเลเซียนั้น เป็นที่รู้กันว่าเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของแกนนำหลายกลุ่มของขบวนการแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ของไทย แม้แต่องค์กรที่ชื่อ “เบอร์ซาตู” ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์รวมของขบวนการแบ่งแยกดินแดนในยุคเก่า ก็มีที่ตั้งและมีตัวแทนอยู่ที่ในมาเลเซียเช่นกัน
 
แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ การออกมาเคลื่อนไหวด้วยการปรากฏตัวทางหน้าจอช่อง 3 ของนายกัสตูรีในครั้งนี้ อาจจะเป็นการ “วางยา” ของหน่วยงานบางหน่วยที่ “เห็นต่าง” กับแนวคิดการเปิดพื้นที่พูดคุย และการให้ผู้นำจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเป็นเจ้าภาพในการเปิดพื้นที่สันติภาพ เนื่องจากเห็นถึงความอ่อนหัดของเสนาบดีหลายคนในรัฐบาลชุดนี้ ที่สุดท้ายแล้วนอกจากจะล้มเหลวในการเจรจาแล้วยัง อาจจะเป็นการ “ยกระดับ” ของขบวนการแบ่งแยกดินแดนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
 
ดังนั้น จึงเชื่อกันว่าการออกมาเคลื่อนไหวผ่านช่อง 3 ของนายกัสตูรีครั้งนี้ จะมีผลสะเทือนต่อการพิจารณาการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยเฉพะในมาตราที่ 21 และการเปิดพื้นที่พูดคุยกับผู้เห็นต่าง รวมทั้งการที่จะเจรจากับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านให้เป็นคนกลางในการพูดคุยกับแกนนำของขบวนการแบ่งแยกดินแดน
 
เนื่องเพราะการปรากฏตัวให้สัมภาษณ์ของนายกัสตูรีทางช่อง 3 ครั้งนี้ ได้สร้างความยุ่งยากให้กับหน่วยงานความมั่นคง รวมทั้งเกิดการลังเลต่อวิธีการพูดคุยเพื่อสันติภาพ เพราะกลัวว่าสุดท้ายแล้วจะต้องไปเจรจากับตัวปลอม ที่ถือโอกาสโหนกระแสเพื่อสร้างราคาให้ตัวเองหรือองค์กร มากกว่าที่จะนำไปสู่การพูดคุยกับตัวจริงเสียงจริงที่เป็นปมปัญหาของการก่อไฟใต้ระลอกใหม่
 
ดังนี้แล้ว การที่ช่อง 3 ยอมที่จะเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจรัฐบางกลุ่ม ยอมเล่นบทร่วมคณะปาหี่สร้างราคาให้กับนายกัสตูรีและขบวนการพูโล แม้รู้ผลว่าจะต้องตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่เพื่อให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งก็เชื่อกันว่าถูกกำกับให้เล่นโดยคนไกลจากดูไบนั้น ผลลัพธ์ของการเดินหน้าดับไฟใต้ในเที่ยวนี้จะออกมาเป็นอย่างไร หรือเข้าทางใคร สังคมไทยคงต้องจับตาดูกันต่อไป.
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น