หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องตำรวจปฏิบัติหน้าที่เสมอภาค หลังจับคนติดสติกเกอร์ป้ายหาเสียง “พงศพัศ” รวดเร็ว ชี้ป้ายของ “สุขุมพันธุ์” ก็ถูกทำลาย ติดสติกเกอร์โจมตีเหมือนกัน ส่งเรื่องร้องเรียนให้ทีมกฎหมายกลั่นกรองก่อนร้อง กกต.พบมี จนท.ไม่เป็นกลาง ร้องนายกฯ ดูแลหน่วยงานรัฐ หลัง พม.ออกแบบสำรวจความเห็น.เอื้อผู้สมัครบางราย แนะ กกต.สอบต่อ แม้จะมีการระงับโครงการแล้ว รับ ป.ป.ช.เสียเปรียบ เหตุเพื่อไทยใช้ทุกกลไกยึดเมืองหลวงตามคำประกาศ “ทักษิณ” ถามคนกรุง ยอมให้ยึดหรือไม่ จับตา 7 วันสุดท้ายทำผิดกฎหมายเพียบ
วันนี้ (22 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจจับผู้ติดสติ๊กเกอร์บนป้ายหาเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพื่อไทยว่า ใครทำผิดกฎหมายเลือกตั้งก็ต้องถูกดำเนินการ และอยากให้ทุกฝ่ายเข้มแข็งในเรื่องนี้เพราะมีหลายเรื่องซึ่งมีการร้องเรียนเข้ามา จึงอยากให้ทุกฝ่ายเคร่งครัด และ กกต.ต้องเอาจริงเอาจัง โดยเจ้าหน้าที่ควรจะปฏิบัติอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันกับผู้สมัครทุกคน ซึ่งในส่วนของพรรคก็ถูกทำลายป้ายและมีผู้นำสติกเกอร์โจมตีมาติดด้วยเช่นเดียวกัน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กรณีไหนที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.พงศพัศ เจ้าหน้าที่จะจับกุมอย่างรวดเร็วนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเป็นผู้ชี้แจง ในส่วนของตนไม่คิดอะไร ทำตามหน้าที่เพราะรู้ดีว่ามีความเสียเปรียบในหลายเรื่อง แต่จะเดินหน้าทำเท่าที่ทำได้ และอยากให้เจ้าหน้าที่เข้มแข็งปฏิบัติอย่างเสมอภาคกัน
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ร้องเรียนต่อ กกต.กรณีมีการให้หัวคะแนนนำแบบสอบถามของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปแจกประชาชนพร้อมเงินหนึ่งพันบาทว่า เป็นเรื่องที่มีการร้องเรียนมายังพรรค ซึ่งตนคิดว่าพรรคเพื่อไทยและผู้นำรัฐบาลต้องชัดเจนว่าอย่าให้มีปัญหาเรื่องหน่วยงานไปทำแล้วเกิดความไม่เป็นกลางเพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตัวหัวหน้ารัฐบาลซึ่งกำกับดูแลส่วนราชการทั้งหมดต้องมีนโยบายและมติ ครม.ที่ชัดเจน รวมถึงต้องแสดงท่าทีสนับสนุนให้เป็นไปตามที่มีมติด้วย และการที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประกาศยกเลิกการสำรวจแบบสอบถามหลังถูกร้องเรียนนั้น กกต.ก็ยังต้องสอบต่อ แม้ว่าจะมีการระงับยับยั้งแล้วก็ตาม เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ โดยต้องดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลต่อความได้เปรียบเสียเปรียบที่ไม่เป็นธรรมหรือยัง ทั้งนี้ในพรรคยังมีการหารือในหลายเรื่องที่มีการร้องเรียนเข้ามา ซึ่งฝ่ายกฎหมายจะกลั่นกรองว่าเรื่องที่ร้องเข้ามามีพยานหลักฐานชัดเจนมากน้อยแค่ไหน เพราะส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติอย่างไม่เป็นกลาง หลังจากพิจารณาข้อมูลแล้วฝ่ายกฎหมายก็คงจะดำเนินการต่อไป เพราะบางเรื่องดูแล้วทำอย่างเป็นระบบไม่ใช่เรื่องของบุคคล แต่ต้องดูข้อมูลให้ชัดเจนก่อน
ส่วนกรณีที่ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า ผู้สมัครที่มีคะแนนเป็นรองใช้การพนันเข้ามา เพื่อหวังเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เรื่องการพนันก็เกิดในการเลือกตั้งเกือบทุกครั้ง ซึ่งตนอยากให้สิ่งเหล่านี้หมดไปแต่ก็มีการร้องเรียนกันอยู่ จึงต้องเรียกร้องผู้สมัคร พรรคการเมืองทุกพรรคให้เคารพกติกา และผู้รักษากติกาก็ต้องเข้มแข็ง ซึ่งหากเทียบการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.คราวนี้กับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมานั้น ตนเห็นว่าการแข่งขันในคราวที่แล้วเป็นไปอย่างราบรื่น แต่คราวนี้มีการระดมสรรพกำลังและพยายามใช้กลไกต่างๆ เข้ามาเต็มที่ ทำให้มีความเข้มข้นเป็นพิเศษตามที่ได้เคยคาดการณ์ไว้แล้ว เพราะ กทม.ก็เป็นเป้าหมายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดชัดว่า เป้าหมายคือยึด กทม.ส่วนจะยึดได้สำเร็จหรือไม่อยู่ที่พี่น้องคนกรุงเทพฯว่าจะให้ยึดหรือไม่ให้ยึด
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงนโยบายด้านการศึกษาของ พล.ต.อ.พงศพัศ ว่า เป็นเรื่องที่ค่อนข้างกว้างเพราะเป็นงานระดับประเทศ เช่น หนี้สินครู หรือเรื่องวิทยฐานะ ซึ่งเป็นงานที่รัฐบาลต้องดำเนินการและหลายเรื่องก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดที่แล้วเริ่มต้นเอาไว้ซึ่งตนอยากให้ทำต่อ แต่ในส่วนความรับผิดชอบของ กทม.มีหลายเรื่องที่สำคัญ และโรงเรียน กทม.ก็ได้ดำเนินการไปแล้วในช่วง 8 ปีที่ผู้ว่ากทม.เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ คือ เรียนฟรึ อาหารเช้าฟรี หลักสูตรโตไปไม่โกง เป็นหลักสูตรที่แม้แต่ต่างประเทศก็ให้ความสนใจ สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเน้นของพรรค
สำหรับรณรงค์หาเสียงในช่วงสัปดาห์สุดท้ายนั้น นายอภสิทธิ์ กล่าวว่ามีหลายอย่างที่ต้องสื่อสารเพิ่มเติม ทั้งผ่านการปราศรัยและสปอร์ตรณรงค์หาเสียง ส่วนที่ผู้ทำโพลออกตัวว่าผลสำรวจที่ออกมาอาจมีความเปลี่ยนแปลงได้นั้น ตนก็รู้สึกแปลกใจ เพราะความจริงคนทำโพลควรพูดตั้งแต่ต้นเนื่องจากการนำเสนอตนก็ท้วงติงไปแล้วว่ารูปแบบการนำเสนควรจะมีมาตรฐานเหมือนกับต่างประเทศที่เสนอตัวเลขสรุปข้อมูลจากประชาชนและบอกข้อจำกัดของการสำรวจตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตามหาผลสำรวจออกมาไม่ตรงกับความเป็นจริง ผุ้ที่ทำโพลล์ก็ออกตัวไว้ล่วงหน้าแล้วว่าอาจจะไม่ตรง จึงรู้สึกแปลกใจเพราะบางสำนักที่ออกมาบอกว่าผลสำรวจอาจไม่ตรงกับผลการเลือกตั้งนั้น ต่างกันเพียงวันเดียวเท่านั้น โดยก่อนหน้าก็พูดฟันธงจากนั้นวันรุ่งขึ้นก็บอกว่าอาจจะไม่ใช่ อย่างไรก็ตาม 7 วันสุดท้ายก็เผยแพร่ผลสำรวจความเห็นไม่ได้แล้ว ซึ่งเรื่องนี้คนก็คงงง เพราะตัวเลขผลสำรวจมีความแตกต่างกันมากผิดปกติสำหรับการสำรวจ และแบบวิธีการสำรวจก็มีการยื่นให้ตรวจสอบอยู่ด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า 7 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งสิ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดคือรูปแบบที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายจึงอยากให้ฝ่ายที่ดูแลกติกาทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ทั้งนี้ตนทราบดีว่าพรรคเสียเปรียบแต่ยืนยันว่าสู้เต็มที่ ส่วนกรณีที่ นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค นำภาพดารามาประกอบการแถลงข่าวกรณีที่มีผู้หญิงอ้างตัวว่าเป็นบุตรสาวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เป็นเรื่องที่เจ้าตัวต้องอธิบาย ถ้าผิดพลาดก็ต้องยอมรับ ซึ่งตนก็ติดตามจากข่าวนายวัชระ ก็ยืนยันว่ามีคนมา แต่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯบอกว่า ดูกล้องวงจรปิดไม่มีก็ต้องถามนายวัชระอีกครั้งหนึ่ง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบอะไรกับการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพราะในการลงพื้นที่วันนี้ก็ไม่มีคนพูดถึง มีแต่พูดเรื่องเฟอร์บี้