xs
xsm
sm
md
lg

แพทย์พระมงกุฎฯ ชี้รัฐสภาแคบมีปัญหาลำเลียงผู้ป่วย เล็งให้ ตร.ช่วยเปิดทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพ)
คณะแพทย์ รพ.พระมงกุฎฯ ลงพื้นที่วางแผนการบริการการแพทย์ที่สภา รับพื้นที่คับแคบ ทั้งลิฟต์และห้องประชุม ครม. อาจมีปัญหาเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เล็งขอ ตร.ช่วยเคลียร์พื้นที่หากเกิดเหตุ คาดเปิดสัญญาณวิทยุภายใน ตร.สภา-แพทย์ประสานโดยตรง เผยซ้อมรับเหตุสุดสัปดาห์นี้

วันนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีคณะแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นำโดย พ.อ.หญิง เยาวนา ธนะพัฒน์ รองผู้อำนวยการ 1 โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เข้าสำรวจพื้นที่ภายในอาคารรัฐสภาและอาคารวุฒิสภา เช่น ห้องประชุม ห้องรับรองสมาชิก อาคารทางเชื่อมตึก ห้องผู้สื่อข่าว รวมถึงห้องพยาบาล เพื่อนำไปกำหนดแผนให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับบุคคลที่เจ็บป่วยในพื้นที่รัฐสภา โดยคณะได้ใช้เวลาสำรวจประมาณ 2 ชม. จากนั้นได้รับได้รับการเปิดเผยจาก พ.อ.หญิง เยาวนา ว่า ทาง รพ.พระมงกุฎเกล้าได้เข้ามาสำรวจพื้นที่รัฐสภาเพื่อนำไปวางแผนในการจัดบริการการแพทย์ฉุกเฉินเร่งด่วน เบื้องต้นพบสภาพปัญหาคือ พื้นที่คับแคบเป็นอุปสรรคต่อการลำเลียงผู้ป่วยไปยังรถพยาบาลฉุกเฉิน หรือห้องพยาบาล ทั้งนี้ หากมีการวางแผนดีเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหามากนัก และได้วางแผนเบื้องต้นว่าจะขอความร่วมมือตำรวจรัฐสภาให้เข้ามาอำนวยความสะดวกและเป็นฝ่ายสนับสนุกการแพทย์ฉุกเฉิน เช่น เคลียร์พื้นที่ให้รถเข็นเตียงพยาบาลสามารถผ่านไปได้สะดวก

ด้าน พ.ท.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ทีมแพทย์ รพ.พระมงกุฎ กล่าวว่า จากการสำรวจพื้นที่พบว่า ภายในอาคารรัฐสภามีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินได้เต็มที่เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เอื้อ เช่น ลิฟต์โดยสารมีสภาพแคบ เตียงพยาบาลฉุกเฉินไม่สามารถใช้ลิฟต์เพื่อใช้ส่งตัวผู้ป่วยได้ ภายในห้องประชุมพบมีเก้าอี้จำนวนมาก พื้นที่นั่งของคณะรัฐมนตรีมีลักษณะแคบ โค้งหักศอก ถ้าหากต้องใช้เปลหามไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้ มุมของช่างภาพโทรทัศน์ ที่วางกล้องเพื่อบันทึกภาพการประชุม มีบันไดแคบและลักษณะวน ถ้าหากเกิดเหตุในที่นั้นเตียงเพื่อลำเลียงผู้ป่วยจะไม่สามารถเข้าถึงได้ ในการให้การพยาบาลเบื้องต้นกับผู้ป่วยก่อนการเคลื่อนย้ายซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญ เพราะต้องเช็กสภาพร่างกายของคนป่วยให้อยู่ในภววิสัยที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ โดยที่รัฐสภาจุดหลักที่จะให้การปฐมพยาบาลคือห้องพยาบาล ดังนั้นการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง หากพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยก็จะเกิดความเลี่ยงอย่างยิ่ง

ขณะที่แหล่งข่าวจากรัฐสภาเปิดเผยว่า มาตรการทางการแพทย์ฉุกเฉินเบื้องต้นจะมีการเพิ่มช่องสัญญาณวิทยุที่ใช้เป็นการภายในระหว่างตำรวจรัฐสภาและทีมแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้ใช้ในการติดต่อประสานงานกันอย่างทันท่วงที โดยที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของทีมแพทย์และตำรวจรัฐสภาไม่ได้ทำงานเกื้อหนุนกัน จึงทำให้การให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินถูกวิจารณ์ โดยจะมีการซักซ้อมแผนการให้บริการร่วมกันระหว่างทีมแพทย์ฉุกเฉินและตำรวจรัฐสภาในสุดสัปดาห์นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น